พระเอกคลื่นลูกใหม่ 'โป๊บ-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ'

'โป๊บ-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ' นักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ที่น่าจับตามอง จากบทนำในหนังรักโรแมนติก October Sonata....

โดย...อินทรชัย พาณิชกุล

แม้ว่าชื่อของ โป๊บ-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ จะยังไม่เป็นที่คุ้นหูคุ้นตาสัก เท่าไหร่ในยามนี้ แต่เชื่อเหลือเกินว่าในอีกไม่ช้าแฟนๆ ก็คงจะได้รู้จักตัวตนของหนุ่ม สุดหล่อมากความสามารถคนนี้อย่างแน่นอน

เพราะด้วยหน้าตาหล่อเหลาคมเข้ม รอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ และบุคลิกแมนๆ บวกเข้ากับความสามารถทางการแสดงล้นเหลือ ด้วยเป็นถึงลูกศิษย์ท่านมุ้ย-หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล เขากำลังจะมีผลงานการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 และผลงานที่ทุกคนเฝ้ารอคอยอย่างละครเรื่อง เขาชื่อกานต์ ในเร็็วๆ นี้

นี่เองที่ทำให้นักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ ไฟแรงคนนี้ถูกจับตามองแทบไม่วางตา

 

 

แต่ก่อนจะถึงวันนั้น ในวันพุธที่ 23 ธ.ค.นี้ ทุกโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านคุณ ขอเชิญพบกับผลงานที่ถือว่าเป็นการเปิดตัวครั้งแรกบนจอฟิล์มของเขา ในบทนักแสดงนำของหนังรักโรแมนติกแห่งปีเรื่อง รักที่รอคอย (October Sonata) ผลงานการกำกับของ สมเกียรติ วิทุรานิช

เรื่องราวชีวิตรักของสาวโรงงาน แสงจันทร์ (ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ) กับหนุ่มซึ่งกำลังจะไปเรียนต่อเมืองนอก รวี (โป๊บ- ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ) ที่มาพบกันโดยบังเอิญในงานศพพระเอกดัง มิตร ชัยบัญชา เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2513 จากนั้นวันที่ 8 ต.ค. ของทุกปี จึงกลายเป็นวันนัดพบ ณ บังกะโล แสนมุก โฮเต็ล ที่ต่างฝ่ายต่างเฝ้ารอที่จะมาพบกัน โดยมีหนุ่มลูกครึ่งจีน ลิ้ม (บอย-พิษณุ นิ่มสกุล) ซึ่งถูกเปรียบเสมือนมือที่สาม เพียงเพราะเขาเห็นเธอแล้วหลงรักในทันที ทั้งๆ ที่เธอมีอีกคนอยู่ในหัวใจแล้ว ความรักที่มั่นคงของคนทั้งสามจึงเหมือนถูกโชคชะตาเล่นตลก สุดที่จะคาดเดา

"อ่านบทแล้วชอบมากครับ (พูดอย่างรวดเร็ว) อยากเล่นเลย เพราะเป็นตัวละครที่มีบุคลิกและความคิดที่ไม่ค่อยมีให้เห็นสักเท่าไหร่ มันน่าสนใจมากครับ" หนุ่มโป๊บเริ่มต้นการสนทนาด้วยเสียงหัวเราะสดใส

เขากำลังพูดถึงบทบาทที่ได้รับ นั่นก็คือ "รวี" เด็กหนุ่มนักศึกษาประเภทแอกติวิสต์ที่มีอุดมการณ์ชอบช่วยเหลือสังคมและร่วมกิจกรรมทางการเมือง อีกด้านหนึ่งก็เป็นคนที่มีความรักที่มั่นคง มีความรักแท้ให้กับผู้หญิงคนหนึ่งอย่างไม่น่าเชื่อ

"ในชีวิตจริง รวีคงจะไม่เหมือนผมซะเท่าไหร่ ตัวผมเองเป็นคนที่ออกจะมีนิสัยและบุคลิกที่ยังดูเด็กๆ อยู่สักหน่อย แต่สำหรับรวีนี่เขาเป็นผู้ใหญ่เลยทีเดียว เป็นนักคิด นักเขียน ฉะนั้นผมก็จะต้องพยายามเปลี่ยนบุคลิกบางอย่างของผม คือต้องพยายามเป็นผู้ใหญ่ให้ได้มากขึ้น โดยปรับวิธีคิดต้องมีความเชื่อมั่น เชื่อมั่นว่าเรามีความรู้ และเชื่อมั่นในอุดมการณ์ แสดงออกไปให้นางเอกเห็นว่าเราเป็นผู้ใหญ่ สามารถดูแลเธอได้ และรักเธอได้อย่างมั่นคงจริงใจ" โป๊บเล่าว่าเขาต้องทำการบ้านเยอะมากนานกว่าหนึ่งเดือนเต็ม ทั้งต้องอ่านหนังสือ ค้นคว้าหาความรู้ว่าผู้คนในสมัยนั้น (2523) มีวิถีชีวิตและความคิดความอ่านอย่างไร

มุมมองสำคัญเกี่ยวกับความรักใหม่ๆ น่าสนใจที่พระเอกหนุ่มคนนี้ได้เรียนรู้ อันดับแรกสุดเลยก็คือความโรแมนติกและการได้รู้ว่ารักแท้มีอยู่จริง

"การที่ได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกว่ารักแท้มันยังมีอยู่จริง เราเฝ้ารอคอยมันได้ ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่ทุกคนโหยหาได้ ผมเชื่อว่าถ้าคุณได้มาเห็นความรักในหนังเรื่องนี้จะทำคุณซาบซึ้ง เป็นความทรงจำที่ไม่รู้ลืมก็ได้

อีกอย่างคือได้รู้ซึ้งถึงความโรแมนติก เราเห็นชัดมาก ผมคิดว่าสมัยนี้พอสิ่งต่างๆ ทั้งกระแสใหม่ๆ เทคโนโลยีที่มันเข้ามา อะไรมันก็วูบวาบรวดเร็วไปเสียหมด คนเรา ติดต่อกันได้เร็ว รักกันเร็ว คบกันเร็ว และก็เลิกกันเร็ว คำสัญญามันไม่ศักดิ์สิทธิ์เหมือนอย่างสมัยก่อน อย่างเช่นคนสมัยนี้นัดพบกัน เกิดเปลี่ยนใจก็โทรศัพท์ไปยกเลิกกันง่ายๆ ไม่มีความละเอียดอ่อนจริงจังเหมือนสมัยก่อนที่นัดพบกันทีหนึ่ง เขียนจดหมาย วันนี้ เวลานี้ สถานที่นี้ บอกว่ารอก็คือรอ ผมเชื่อความเร่งรีบในการใช้ชีวิตมันทำให้ความโรแมนติกมันลดลง" ธนวรรธน์ บอก

เส้นทางสู่โลกแห่งการแสดงของหนุ่มคนนี้ เริ่มต้นหลังจากที่โป๊บเรียนจบจากสาขาวิชานิเทศศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ก็ออกมาทำงานในแวดวงกราฟฟิกในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ควบคู่ไปกับสอนศิลปะให้กับเด็กๆ ในโครงการทูบีนัมเบอร์วัน และสอนฟุตบอลเด็ก ซึ่งเป็นกีฬาที่เขาหลงใหลในยามว่าง

ต่อมาในปี 2549 เมื่อทางช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ พร้อมกับบริษัท พร้อมมิตร โปรดักชั่น ของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล มีแผนการจะฟื้นละครชุดยิ่งใหญ่ในอดีตอย่าง "ผู้ชนะสิบทิศ" โดยได้เปิดตัวโครงการ "ตามล่าหา จะเด็ด" ซึ่งเปิดโอกาสให้หนุ่มชาวไทยหน้าตาดีที่มีอายุระหว่าง 20-30 ปี และสูง 175 ซม. ขึ้นไป เข้ามารับการคัดเลือกในบท "จะเด็ด" นักรบ เจ้าเสน่ห์ของเรื่อง และท่ามกลางคลื่นมหาชนกว่า 2 หมื่นคนทั่วประเทศ ในที่สุด โป๊บ-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ ก็ได้รับเลือกอย่างเหนือความคาดหมาย

"ก็คิดว่าจะแค่ลองไปทดสอบดู เพราะสมัยเรียนก็ได้มีโอกาสผ่านการแสดงมาบ้างนิดๆ หน่อยๆ ทั้งหนังสั้น ละครเวที ตอนเดินไปสมัครไม่มั่นใจตัวเองเลย (ยิ้มเขิน) เจอแต่คนหล่อๆ หุ่นสูงล่ำบึ้กกันทั้งนั้น ไม่เคยคิดว่าจะได้ แต่พอได้รับคัดเลือก ก็รู้สึกดี ดีแบบประหลาด มีความสุขแบบมึนๆ งงๆ" เขาหัวเราะอีกครั้ง และเล่าว่า พอภายหลังเมื่อโครงการละครชุดผู้ชนะสิบทิศล้มเลิกไปด้วยสาเหตุบางอย่าง แต่เขาก็ได้รับความอนุเคราะห์จากท่านมุ้ยให้ได้เรียนรู้และฝึกฝนในการแสดงต่อไป

โป๊บพูดอย่างหนักแน่นว่าเขาตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เพื่อมาเอาดีทางด้านการแสดงเพียงอย่างเดียว

"จนถึงวันนี้ก็อยู่กับบริษัท พร้อมมิตร โปรดักชั่น 4 ปีพอดีครับ เริ่มเรียนตั้งแต่พื้นฐานการแสดงใหม่หมด แล้วก็ซ้อมฟันดาบ ขี่ช้าง ขี่ม้า และศิลปะป้องกันตัวดั้งเดิมในกองถ่ายตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จนแคสต์ผ่านได้เล่นเป็นขุนรามเดชะ ทหารในพระนเรศวรมหาราช ในภาค 3 อีกเรื่องที่เพิ่งได้รับการติดต่อมาคือบท "หมอกานต์" ในละครเรื่อง "เขาชื่อกานต์" ทางช่องไทยพีบีเอส ที่กำลังจะเปิดกล้องในเร็วๆ นี้ ผมรู้สึกว่าพอได้ผ่านการเรียนรู้มาเรื่อยๆ ความรักที่มีต่อการแสดงมันเพิ่มขึ้นมาก ผมว่ามันเป็นอาชีพที่ท้าทาย เราต้องจริงจังและทุ่มเทมาก จะมาเล่นเหยาะแหยะไม่ได้

"เหมือนอย่างในครั้งนี้ เมื่อได้รับบทมา ผมอ่านรวดเดียวจบเลย อินมากจริงๆ รู้สึกเลยว่าหนังเรื่องนี้ต้องดี ก็ไปขออนุญาตทางต้นสังกัดก่อน คือ ท่านมุ้ย แล้วก็ไปกราบเรียนปรึกษาหม่อมกมลา ท่านก็ขอดูบท แล้วท่านก็อนุญาตให้เรามาเล่น บอกว่าบทดี น่าสนใจ เล่นเรื่องนี้ไม่กดดันเลยครับ ไม่ได้ตั้งความหวังอะไร ปล่อยวาง ทำให้เต็มที่ แม้บทจะยาก แต่ในเมื่อเขาก็เชื่อใจให้เราเล่น เราก็ภูมิใจและต้องแสดงออกมาอย่างเต็มที่"

หนุ่มโป๊บพูดจบแล้วก็หันมาบอกว่า ช่วงโปรโมตหนังช่วงนี้ได้เดินทางไปให้สัมภาษณ์สื่อมากมาย แม้จะผ่านบทยากๆ ในการแสดงมาแล้ว แต่พออยู่หน้าไมโครโฟนและแสงแฟลช เขาจะรู้สึกประหม่า เขินอาย ทำตัวไม่ถูก ตื่นเต้นกว่าการแสดงอยู่หน้ากล้องเสียอีก

"อยู่กับการแสดงมา 4 ปี แต่เรื่องการให้สัมภาษณ์ถือว่ามือใหม่มากๆ มั่วสุดๆ (หัวเราะเสียงดัง) บางทีไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรไป ดีมั่ง ไม่ดีมั่ง แต่พี่ๆ เขาก็แนะว่าให้ถือว่าเป็นห้องสอบ ประเดี๋ยวมันก็ดีเอง"

เมื่อถามว่าในฐานะพระเอกหนุ่มคลื่นลูกใหม่ ไฟแรง เขามีแผนอะไรในใจตัวเองต่อวงการบันเทิงแห่งนี้บ้าง?

หนุ่มหล่อคนนี้ตีสีหน้าเคร่งขรึม ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะตอบออกมาอย่างเชื่อมั่น

"ณ เวลานี้ ผมคิดว่าคงต้องเอาจริงเอาจังทางนี้ให้มันเต็มที่แล้วล่ะ ผมตัดสินใจสู้กับมันมาตั้งแต่แรกแล้ว ตั้งแต่ยังแสดงไม่เป็นด้วย ตั้งแต่อะไรๆ มันยังไม่ชัดเจน แต่พอเริ่มเรียนการแสดง มันสนุก มีความสุข พอได้เรียนรู้ไปทีละขั้นก็รู้สึกว่าเราน่าจะทำได้นะ เราน่าจะเป็นนักแสดงที่ดีได้ในอนาคต แต่ผมไม่มอง หรือคาดหวังไปถึงอนาคตหรอก แค่ทำตรงหน้าให้มันดีที่สุดก่อนดีกว่า"

โป๊บ บอกว่า นี่คือบทสัมภาษณ์ใหญ่ชิ้นแรกของเขา ซึ่งน่าจะเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับสื่อ และกับแฟนๆ ผู้อ่าน ของพระเอกใหม่ที่น่าจับตามองที่สุดในเวลานี้