posttoday

"เพชร กรุณพล-น็อต วรฤทธิ์" เปิดใจเคลียร์กันต่อหน้า ดราม่าความเห็นต่างวัคซีนโควิด-19

13 กรกฎาคม 2564

"เพชร กรุณพล-น็อต วรฤทธิ์" เคลียร์กันต่อหน้า หลังสาดคอมเมนต์เรื่องวัคซีนโควิด-19 กันดุเดือด

เป็นประเด็นร้อนที่หลายคนให้ความสนใจ กับกรณีของสองหนุ่มเพื่อนซี้ "เพชร-กรุณพล เทียนสุวรรณ" และ "น็อต-วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์" ที่ได้สาดคอมเมนต์เดือดใส่กันผ่านโลกโซเชียลฯ เพราะมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องของวัคซีนโควิด-19 จนหลายคนงเป็นห่วงความสัมพันธ์ของทั้งคู่

ล่าสุดรายการ แฉ ทางช่อง GMM25 โดยมี "มดดํา-คชาภา ตันเจริญ" เป็นพิธีกร ซึ่งทั้งคู่ได้มาร่วมพูดคุยกันแบบซึ่งหน้า เกี่ยวกับประเด็นดราม่าดังกล่าว เรียกว่าเคลียร์ทุกๆ หัวข้อ รวมถึงพูดย้ำความสัมพันธ์ในฐานะ "เพื่อน" ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานานกว่า 20 ปี

เพชร : “คือจริงๆ แล้วผมกับน็อตเราก็จะคุยกันเรื่องการเมืองอยู่ในกลุ่มไลน์ ซึ่งจะมีพี่ลิง พี่อ๊อฟ พี่กิ๊ฟ พี่ทีน และก็พี่เอ็ม คือเราก็จะคุยกันแลกเปลี่ยนกัน และด้วยความที่รู้จักกันมาหลาย 10 ปี เวลาคุยกันตามประสาผู้ชายเราก็จะมีการใช้คำหยาบกันนิดหนึ่ง ขึ้นมึง ขึ้นกู หรืออะไรใดๆ แต่เราก็ไม่เคยมีอารมณ์ที่จะเก็บมาเพื่อทำร้ายกัน”

น็อต : “จริงๆ แล้วในกลุ่มนี้เราคุยกันทุกเรื่องนะครับ เรื่องพรรคพวก เรื่องในวงการ เรื่องต่างๆ นานา คุยกันทุกเรื่องอยู่แล้ว และก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเป็นเรื่องปกติ”

ประเด็นที่มีปัญหากันคือเรื่องวัคซีน ?

น็อต : “หลักๆ ผมได้ไปอ่านมาจากคนอื่น และผมก็โพสต์เพื่อเก็บไว้อ่านเพราะว่ามันยาว ยังไม่มีเวลาอ่าน ทีนี้เพชรมันมาอ่านก่อน มันก็เลยมาเขียนๆ ของมัน แต่ด้วยความที่เราเป็นเพื่อนกันสนิทกันและผมยังไม่ได้อ่านที่เพชรมันเขียนหรอก ผมก็เลยตอบมันไปว่า ‘เรื่องของมึง’ คือเป็นการที่เพื่อนคุยกัน”

เพชร : “เพชรคิดว่ามันเป็นเรื่องของตัวอักษรด้วยครับ คือมันไม่สามารถสื่ออารมณ์ได้ว่าแต่ละคนมีความรู้สึกอย่างไรกับคำพูดนั้น และคำพูดมันก็เป็นคำพูดที่คุยกันแบบมีคำหยาบ ขึ้นมึง ขึ้นกู หรือมีคำว่าเสื-ก ซึ่งถ้าเป็นเพื่อนผู้ชายคุยกันมันเป็นเรื่องปกติ แต่พอมันกลายเป็นคนที่ไม่ได้รู้ว่าเรารู้จักกันแค่ไหน สนิทกันแค่ไหน หรือใช้คำพูดยังไง คือมันไม่ผิดที่คนจะตีความหมายและสื่อไปในแนวนั้นได้ ยิ่งมันเป็นกระแสที่คนมีความกังวลเกี่ยวกับวัคซีนด้วย”

วันนี้เราอยากจะบอกอะไรถึงสิ่งที่เราสื่อสาร ?

น็อต : “ข้อที่ 1 คือ เฟซบุ๊กที่ผมเล่น ผมตั้งไพรเวท ก็คือปิดเป็นส่วนตัวอยู่แล้ว และผมก็เอาไว้ดูเพื่อนฝูงที่รู้จักกันซึ่งมีไม่เยอะ สาระสำคัญคือผมกับเพชรเรารู้จักกันมานานมาก และเราก็พูดจากันแบบนี้ แบบเพื่อนสนิทกัน พูดกันได้ทุกเรื่อง ซึ่งเราก็ยอมรับซึ่งกันและกันอยู่แล้ว ไม่มีใครโกรธ ไม่มีใครเกลียดกัน และสำคัญที่สุดตอนนี้คือ เรากำลังอยู่ในสงครามที่ต่อสู้กับเชื้อไวรัส ศัตรูของเราคือไวรัส ไม่ใช่พวกเรากันเอง เพราะฉะนั้น ณ วันนี้มันไม่ใช่ว่าเราต้องมามีความเห็นที่แตกต่างกัน มีข้อมูลที่แตกต่างกัน แล้วต้องมาตีกันให้ตาย เพราะสิ่งที่เราต้องเอาชนะคือไวรัสโควิด ที่ต้องการความร่วมมือจากทุกคน มนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย มนุษย์ทุกคนบนนี้จะต้องร่วมกัน ทำอย่างไรก็ได้ให้ไวรัสมันไม่ใช้เราเป็นเครื่องมือ เป็นพาหะในการส่งต่อไวรัสไปถึงคนอื่น นี่คือสิ่งที่เราต้องร่วมมือกัน ไม่ว่าใครจะมีข้อมูลอะไรก็ตาม เอามาแชร์กัน เอามาคุยกันอย่างสร้างสรรค์ ช่วยกันหาทางออกให้กับมนุษยชาติทุกคนบนโลกใบนี้”

เพชร : “คือบทความนั้นน็อตเขาไม่ได้เขียนนะ แต่น็อตแชร์มา คนที่เขียนเขาเขียนประมาณว่า ‘ไวรัสเชื้อตาย เป็นไวรัสที่ปลอดภัย ส่วน mRNA เป็นไวรัสใหม่ที่ยังไม่มีผลการทดลอง และก็อาจทำให้ DNA ของเราเกิดการเปลี่ยนแปลง และก็อาจทำให้เรากลายเป็นซอมบี้’ คือมันเป็นเรื่องที่หลายคนได้ยินมา แต่มันยังไม่มีบทพิสูจน์ และสำหรับผมนะ ผมรู้สึกว่าการที่เขาเขียนประมาณว่า ‘การมีวัคซีนหลากหลายมันไม่ดี เพราะมันจะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ทำให้มีต้นทุนในการเก็บรักษาอะไรต่างๆ นานา’ ซึ่งผมก็เห็นต่าง เพราะผมมองว่าการที่เรามีวัคซีนหลากหลายมันก็สามารถใช้กับคนที่แตกต่างกัน ทั้งในช่วงอายุ ทั้งในเรื่องสุขภาพ ทั้งในเรื่องการใช้งาน และวัคซีนมันก็สามารถยับยั้งการติดเชื้อได้ดี และมันก็มีบททดสอบมาแล้ว และข้อเท็จจริงที่เราเห็นอยู่ว่า วัคซีนซิโนแวค ในการฉีดก็ไม่สามารถที่จะคุ้มครองให้เราปลอดภัยได้ แต่ทำให้เราไม่มีอาการหนักจนถึงแก่ชีวิตได้มากขึ้น”

น็อต : “อย่างที่บอก ผมแชร์เอาไว้เพื่ออ่านศึกษาของตัวเองในพื้นที่ของตัวเอง เพชรก็มีข้อมูลของเพชร เพชรก็เข้ามาให้ข้อมูลของเพชรในพื้นที่ของผมเท่านั้น ผมก็บอก อ้าว! นั่นเป็นเรื่องของมึง เพื่อนกันผมก็บอก เรื่องของมึงไว้ก่อน เดี๋ยวผมขออ่านให้เรียบร้อยก่อน ขออ่านให้จบก่อน และสุดท้ายผมก็ขอบคุณข้อมูลของเขาที่เขาส่งมาให้”

เพชร : “ใช่ๆ และสุดท้ายน็อตก็พิมพ์คำว่ ขอบคุณ ซึ่งถ้าเห็นใครที่เข้าไปแรกๆ ก็จะเห็นว่าผมเข้าไปกดหัวใจให้เขา ซึ่งทุกครั้งที่ผมได้อ่านข้อความไม่ว่าจะของใครก็ตาม ผมก็จะมาร์กไว้ว่าข้อความนี้ผมได้อ่านแล้วได้ตอบแล้วด้วยรูปหัวใจ และมันก็ผ่านมาประมาณ 5-6 วันแล้วด้วย และก็มีคนมาแชร์ ซึ่งเพชรก็รู้สึกว่ามันอาจจะเนื่องด้วยความเชื่อทางการเมืองที่แตกต่างกันระหว่างเพชรกับน็อต และก็ ณ ช่วงเวลานี้กระแสการเมืองมันก็เปลี่ยนแปลงค่อนข้างไว คนก็รู้สึกว่ามีความกดดันกับสถานการณ์บ้านเมืองที่มันควรจะต้องดีกว่านี้แต่เรายังไม่เห็นแสงสว่าง มันเลยทำให้รู้สึกว่าใครก็ตามที่ได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือแชร์ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน ควรจะต้องออกมารับผิดชอบ

และอีกอย่างหนึ่งตอนนี้ก็เป็นกระแสเกี่ยวกับคนที่เคยออกมาม็อบในสมัยก่อน ว่าควรจะรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกทุกคนว่า ไม่มีใครผิดหรอก ณ วันนี้ น็อตสามารถคิดแบบนี้ก็ได้ เพชรสามารถคิดแบบนี้ก็ได้ แจ็คสามารถคิดแบบนี้ก็ได้ หรือคุณผู้คุณชมก็เช่นกัน”

ณ วันนี้คุณน็อตไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแล้ว ?

น็อต : “สิ่งที่ผมโพสต์มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการเมืองเลย มันเกี่ยวกับความรู้ที่ผมอยากจะศึกษาก่อน ว่าจริงๆ แล้ววัคซีนทั้งหมดที่เรามีในโลกใบนี้อะไรที่มันพอจะช่วยกันได้บ้าง เป็นความรู้ที่ผมอยากจะแชร์เอาไว้อ่านเอง เท่านั้นเอง เหตุผลมีเท่านั้นเอง และก็ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองด้วย เกี่ยวกับความรู้ทางด้านวัคซีนเท่านั้นเอง ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองใดๆ เลย เพราะฉะนั้นอย่าเอามาโยงเรื่องการเมือง ไม่ได้เกี่ยวอะไร ในเฟซผมก็ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองทั้งสิ้น”

ตอนนี้คนมองว่าเป็นสงครามระหว่างเพื่อน ?

เพชร : “คือก็มีบางข้อความของน็อตที่ผมไม่พอใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในเมื่อเรายึดมั่นในหลักประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงที่จะสามารถอธิบาย หรือนำเสนอแนวความคิดความเชื่อของตัวเองได้ แม้จะไม่ถูกใจเราก็จำเป็นที่จะต้องรับฟัง เพราะถ้าเราบอกว่า เราอยู่ฝั่งประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็น ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำการใดๆ ก็ตามที่จะไปละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น และไม่ไปละเมิดกฎหมายของประเทศ ผมเชื่อว่าวันนี้การที่ผมมายืนอยู่ตรงนี้ มาบอกว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น หลายๆ คนก็อาจจะไม่พอใจผมเช่นกัน ซึ่งผมก็ต้องขอโทษจริง”

ผมอยากจะบอกว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่คิดต่างกับเรา ใครก็ตามที่เคยมีอดีตอันเลวร้ายซึ่งเราไม่เคยชอบ การด่า หรือการผลักเขาออกไปจากเส้นทางของเรามันไม่ได้ช่วยทำให้ความสำเร็จของเราที่เราตั้งใจไว้มันเกิดเร็วขึ้น มันกลับกลายเป็นว่าทำให้เรานั้นสร้างศัตรู ที่อาจจะเป็นศัตรูตัวเล็ก และกลายเป็นกลายเป็นศัตรูตัวใหญ่ขึ้น และมีความแค้นที่มากขึ้น ซึ่งนั่นจะทำให้จุดมุ่งหมายที่เราจะก้าวเดินไปมันถูกฉุดรั้ง ฉะนั้นใครก็ตามที่มีความเห็นที่แตกต่างกับเรา เราให้ความรู้เขา ให้ข้อมูลเขา มาแลกเปลี่ยนกันข้อมูลของเรากับข้อมูลของเขามันแตกต่างกันอย่างไร และทำให้เขาเข้าใจในเส้นทางของเรา เพราะผมเชื่อว่าการขับเคลื่อนให้ประเทศนี้ให้มันไปต่อข้างหน้าได้ มันจำเป็นที่จะต้องใช้มวลชนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน ไม่ว่าความคิดใด ผมเชื่อว่าทุกคนอยากให้ประเทศชาตินี้ดีทั้งนั้นแหละ

เราควรจะเดินไปด้วยกันด้วยความเข้าใจ อย่าเดินไปด้วยความเคียดแค้น เส้นทางมันมีหลายทางในการที่จะไปยอดเขา แต่ถ้าเขาจะเลือกทางนั้นเราก็ต้องปล่อยเขา ส่วนเราเลือกทางนี้เราก็ต้องยึดมั่นในเส้นทางของเรา พยายามเข้าใจเขาเข้าใจเรา อย่าทำเหมือนที่เราไม่อยากให้ใครมาทำกับเราครับ”

สุดท้ายเรามีอะไรอยากจะบอกกับคนดูหรือคนที่ติดตามข่าวไหม ?

น็อต : “ยังไงเราก็คนไทยด้วยกัน ไม่ว่าคุณจะมาด่าว่าผมด้วยความที่คุณไม่พอใจในสิ่งที่ผมโพสต์ไปหรืออะไรก็ตาม มันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นหรอกครับ ทุกอย่างมันจะดีขึ้นได้ก็ต่อเมื่อตัวเราเองที่จะเข้าใจโรคจริงๆ และอยู่กับมันให้ได้จริงๆ อย่างที่ผมบอกศัตรูของเราไม่ใช่เรากันเอง แต่ศัตรูของเรามันคือโควิด เราต้องเอาชนะมันให้ได้ก่อน เอาชนะมันให้ได้ด้วยการร่วมมือร่วมใจกันของทุกคนบนโลกใบนี้ เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ”

 "เพชร กรุณพล-น็อต วรฤทธิ์" เปิดใจเคลียร์กันต่อหน้า ดราม่าความเห็นต่างวัคซีนโควิด-19

 "เพชร กรุณพล-น็อต วรฤทธิ์" เปิดใจเคลียร์กันต่อหน้า ดราม่าความเห็นต่างวัคซีนโควิด-19

 "เพชร กรุณพล-น็อต วรฤทธิ์" เปิดใจเคลียร์กันต่อหน้า ดราม่าความเห็นต่างวัคซีนโควิด-19

 "เพชร กรุณพล-น็อต วรฤทธิ์" เปิดใจเคลียร์กันต่อหน้า ดราม่าความเห็นต่างวัคซีนโควิด-19

 "เพชร กรุณพล-น็อต วรฤทธิ์" เปิดใจเคลียร์กันต่อหน้า ดราม่าความเห็นต่างวัคซีนโควิด-19