คลอดแล้ว ! "น้องฮาร์เปอร์" ลูกชายคนแรก"ฮิวโก้-ฮาน่า"
ปลื้มอกปลื้มใจที่สุดในชีวิต คุณแม่ป้ายแดง "ฮาน่า ทัศนาวลัย"คลอดลูกชายคนแรก ตั้งชื่อ "ฮาร์เปอร์"
ปลื้มอกปลื้มใจที่สุดในชีวิต คุณแม่ป้ายแดง "ฮาน่า ทัศนาวลัย"คลอดลูกชายคนแรก ตั้งชื่อ "ฮาร์เปอร์"
คุณพ่อคุณแม่ป้ายแดง “ฮาน่า ทัศนาวลัย” กับ “เล็ก หรือ ฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์” ที่ฝ่ายหญิงเพิ่งให้กำเนิดลูกชาย “น้องฮาร์เปอร์” เมื่อเวลา 09.39 น.ของวันพุธที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมาที่โรงพยาบาล BNH ย่านสีลม โดยวิธีผ่าคลอดเนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกเชิงกราน ทำให้คลอดตามธรรมชาติเองไม่ได้ ซึ่ง “น้องฮาร์เปอร์” มีน้ำหนักแรกคลอด 2900 กรัม สูง 50 ซม.และนัยน์ตาสีเทา โดยทั้งคู้เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกในการเป็นคุณพ่อคุณแม่เต็มตัวว่า
ฮาน่า : “คนเป็นแม่ที่อุ้มท้องมา 9 เดือน ยังไงก็ต้องดีใจมากอยู่แล้ว เพราะรอที่จะเห็นหน้า หน้าเขาจะเหมือนเราไหม หรือเหมือนพ่อมากกว่า”
ฮิวโก้ : “ผมก็อยู่ตอนที่เขาคลอดด้วย ก็เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์พอสมควร เพราะเดินทางกลับมาแล้วอยู่ในห้องกับคุณแม่ที่ตั้งท้องมา 9 เดือน แถมหมอ 2-3 คนที่ไม่รู้เรียนมากี่ปี กว่าจะเก่งขนาดนี้ เราเหมือนไม่ได้มีส่วนร่วม แต่เขาส่งลูกมาก็ได้อุ้มคนแรก ทั้งที่เราไม่ได้ปริญญา ไม่ได้เรียนมา ไม่ได้ต้องตั้งท้อง ทำให้เรารู้สึกโชคดีเกินเหตุ (หัวเราะ)”
ฮาน่า : “เราแอบอิจฉา อะไรวะ...เราอุ้มมาตั้ง 9 เดือน ได้ปุ๊บคุณพ่ออุ้มก่อนเลย”
ฮิวโก้ : “ตอนที่เขาส่งมาให้ผมอุ้ม ยังไม่ได้รู้สึกตื้นตัน มันเป็นอะไรที่ถูกต้องสำหรับชีวิตผมมากกว่า แต่หลังจากแม่ไปพักฟื้น แล้วเราต้องเดินมาพบน้องที่เนิร์สเซอร์รี่ เราก็เดินอยู่คนเดียว ช่วงนั้นก็รู้สึกตื้นตัน เหมือนทุกอย่างที่ผ่านมาก่อนหน้านี้มันไร้สาระพอสมควร และผมโชคดีที่มีเวลา 9 เดือนในการคิดทบทวนชีวิตตัวเอง และสิ่งที่ตัวเองอยากทำ และหวังว่าเราจะเป็นตัวอย่างที่ดี เราก็ดีใจที่น้องเขาดูหน้าตาเหมือนเรา (หัวเราะ)”
ฮาน่า : “เขาจมูกโด่งมากเลยค่ะ มันเป็นสิ่งที่เราภาวนามาตลอดอยากให้จมูกโด่งเหมือนพ่อจะได้หล่อๆ ส่วนที่เหมือนฮาน่าคือปากจะทรงเดียวกัน ส่วนตาจะยาวๆ ทั้งเล็กและฮาน่าก็ตายาว ก็ต้องดูเหมือนใคร คุณหมอบอกว่าเด็กจะเปลี่ยน ต้องรอดูอีกสักพักหนึ่งให้เข้าที่เข้าทางจะรู้ว่าหน้าเหมือนใคร เพราะเด็กแรกเกิดหน้าจะคล้ายๆ กันหมด”
ส่วนชื่อของลูกชายทั้งคู่ได้เอาชื่อจริงมารวมกันเป็น “ด.ช.ทัศนจักร จักรพงษ์” ชื่อเล่นฝรั่ง “ฮาร์เปอร์” ซึ่งมาจากอักษรภาษาอังกฤษตัวแรกของทั้งสอง รวมทั้งเป็นความชอบส่วนตัวของคุณพ่อ ที่เอานามสกุลของนักดนตรีที่โปรดปรานมาตั้ง
ฮาน่า : “ก็ตั้งชื่อลูกแล้วว่า ทัศนจักร เป็นการรวมกันระหว่าง ทัศนาวลัย กับ จุลจักร”
ฮิวโก้ : “ส่วนชื่อเล่นเดี๋ยวต้องดูนิสัยเขาก่อนว่าเป็นยังไง แต่มีชื่อฝรั่งว่า ฮาร์เปอร์ ที่มาคือขึ้นต้นเป็นตัว H เหมือน ฮาน่า กับ ฮิวโก้ แล้วก็หมายถึงเครื่องดนตรีเป็นหีบเพลงที่เขาเป่ากัน อีกอย่างมีศิลปินโฟล์คที่นั่นนามสกุล ฮาร์เปอร์ เราก็เอามา เป็นความชอบส่วนตัว ส่วนชื่อเล่นไทยต้องดูก่อนขึ้นอยู่กับบุคลิก หรืออาจจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นก็ต้องดูตามนั้น แต่น้องร้องดังมากแต่ไม่บ่อย”
ฮาน่า : “คือเขาร้องเพราะหิวอยากทานนม แต่พออิ่มก็หลับเลย แต่เสียงดีเนอะออกมาก็ร้องดังเลย เสียงแหลมเลย”
ฮิวโก้ : “จะเป็นนักร้องเหมือนพ่อหรือเปล่า อันนี้ก็ต้องดูก่อน เขามีเวลาอีกตั้ง 18 ปีที่จะตัดสินใจว่า จะประกอบอาชีพยังไง”
ฮาน่า : “ส่วนการเตรียมตัวเป็นคุณแม่ ฮาน่าก็พยายามให้นมลูกด้วยตัวเอง พยายามให้นมแม่ให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจะพยายามศึกษาจากคุณแม่ที่มีลูกแล้ว ให้เคล็ดลับเรา ไม่ว่าจะเป็นการให้น้ำนม การอาบน้ำให้ลูก การให้อาหารลูกต่างๆ ถ้าเขาไม่สบายเป็นยังไง ถ้าเขาร้องแบบนี้เป็นสัญญาณบอกว่าอะไรบ้าง”
ฮิวโก้ : “แต่พยาบาลที่โรงพยาบาลก็ให้คำปรึกษาเยอะ ก็สาธิตวิธีการดูแลทั้งหมดโดยละเอียดพอสมควร ตอนนี้ขึ้นอยู่ที่เราแล้วล่ะ”
เมื่อถามถึงของขวัญรับขวัญลูก “ฮิวโก้” เผยเบรกงาน 2 เดือนเพื่อมาอยู่ดูแลครอบครัวเต็มที่ ด้าน “ฮาน่า” ก็เตรียมมอบน้ำนมให้ลูกเต็มอิ่ม พร้อมเปรยยังไม่คิดมีคนที่ 2 ต่อทันที
ฮาน่า : “ฮาน่าก็เตรียมความรักเต็มที่ และเตรียมน้ำนมให้ด้วยจากแม่เลย แล้วคุณพ่อล่ะ”
ฮิวโก้ : “ส่วนผมก็พักงาน 2 เดือน (หัวเราะ) คือตอนนี้ผมยังไม่ได้กลับมาอยู่เมืองไทยถาวร ยังไงผมก็ต้องทำงานที่อเมริกาให้เสร็จ ผมจะอยู่เมืองไทยอีกสัก 2-3 เดือน แล้วจะกลับไปทำงานต่อ แล้วต้องบินไปบินมา ซึ่งถ้างานไม่รุ่งผมก็คงต้องกลับมาอยู่เมืองไทยชัวร์ เพราะการบินไปบินมามันแพง แต่ในเวลาเดียวกันถ้างานประสบความสำเร็จ เราก็ต้องไปอยู่ที่โน่น เราก็ต้องดูกันไปตามสถานการณ์ แต่ยังไงก็ตามลูกเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าวิถีชีวิตหรืองานไม่เข้ากับลูก เราก็ต้องเปลี่ยนปรับปรุงกันไป”
ฮาน่า : “ดังนั้นถ้าถามว่าจะมีลูกคนที่ 2 ต่อเลยไหม ก็คงต้องขอสักแป๊บก่อน คงยัง เราอยากจะค่อยๆ เลี้ยงคนนี้ก่อน เพราะกว่าจะอุ้มท้อง กว่าจะคลอดได้ ทำให้รู้ซึ้งถึงความเป็นแม่เลย และรู้ถึงความรักที่แม่มีให้เรา เราก็เลยรู้สึกว่าค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า เอาคนนี้ก่อนและขึ้นอยู่กับงานเขาด้วย เราไม่ค่อยได้เจอ และไม่มีเวลาได้อยู่ด้วยกันเท่าไหร่”