posttoday

เยี่ยมบ้านศรีประจันทร์ กัน เดอะสตาร์

15 สิงหาคม 2553

คนทั่วประเทศนาทีนี้รู้จักหนุ่มเสียงดีจากเมืองสุพรรณบุรี กัน-นภัทร อินทร์ใจเอื้อ แชมป์เดอะสตาร์คนที่ 6 กันเป็นอย่างดี แต่น้อยคนจะได้รับรู้เรื่องราวสมัยวัยเด็ก และความเป็นอยู่ในอดีตของนักร้องดังคนนี้....

คนทั่วประเทศนาทีนี้รู้จักหนุ่มเสียงดีจากเมืองสุพรรณบุรี กัน-นภัทร อินทร์ใจเอื้อ แชมป์เดอะสตาร์คนที่ 6 กันเป็นอย่างดี แต่น้อยคนจะได้รับรู้เรื่องราวสมัยวัยเด็ก และความเป็นอยู่ในอดีตของนักร้องดังคนนี้....

โดย...เสถียร ท้วมจันทร์

คนทั่วประเทศนาทีนี้รู้จักหนุ่มเสียงดีจากเมืองสุพรรณบุรี กัน-นภัทร อินทร์ใจเอื้อ แชมป์เดอะสตาร์คนที่ 6 กันเป็นอย่างดี แต่น้อยคนจะได้รับรู้เรื่องราวสมัยวัยเด็ก และความเป็นอยู่ในอดีตของนักร้องดังคนนี้ จึงขอพาไปย้อนอดีตสัมผัสชีวิตวัยละอ่อนของนักร้องคนดังให้รู้กันจะจะ ล้วนออกมาจากปากคนใกล้ชิดทั้งสิ้น

เยี่ยมบ้านศรีประจันทร์ กัน เดอะสตาร์ กัน เดอะสตาร์

กัน เดิมชื่อ ชนินทร์ อินทร์ใจเอื้อ มาเปลี่ยนเป็น นภัทร ก่อนเข้าประกวดเดอะสตาร์ ตามความเชื่อที่หมอดูทักไว้ กันเป็นบุตรคนรอง ของ ชำนาญ อินทร์ใจเอื้อ นักวิชาการสาธารณสุข โรงพยาบาลดอนเจดีย์ และ วรรณา อินทร์ใจเอื้อ อาจารย์โรงเรียนวัดราษฏร์บำรุง ดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี

กัน อาศัยอยู่กับพ่อแม่และน้อง ในบ้านไม้สองชั้นกึ่งปูนกลางเก่ากลางใหม่ในบ้านท่าคอย อ.ศรีประจันทร์ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นหลังใหม่ที่พ่อแม่แยกออกมาสร้างเอง แต่อยู่ในละแวกบ้านเดิมของตายาย เหมือนบ้านทั่วไปในชนบท แต่การไปมาหาสู่กันระหว่างพ่อแม่และญาติพี่น้องยังเป็นไปตามปกติ

แม้กันจะกลายเป็นนักร้องดังที่คนทั่วประเทศอยากเจอตัว แต่เขาก็ยังแวะเวียนมานอนบ้านอยู่บ่อยๆ เนื่องจากติดคุณยาย ต้องแอบมานอนกับคุณยายเป็นประจำ เหมือนที่ทำอยู่ตั้งแต่สมัยยังไม่โด่งดัง

ทองปาน พลเสน อายุ 80 ปี ผู้เป็นยายพูดถึงหลานรักด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า ตอนเป็นเด็กกันเป็นเด็กที่ขี้อ้อน เอาแต่ใจพอสมควร เรียกว่าเลี้ยงแบบใกล้ชิดอย่างมาก กลางวันต้องอุ้มแล้วเอาตัวพาดกับไหล่ตลอดเวลา วางลงเมื่อใดร้องให้ขี้แยทันที เรียกว่าช่วงนั้นไม่อยากให้มีกลางวันเลยทีเดียว แต่ก็เป็นเพียงช่วงยังเล็กๆ เท่านั้น
เรียกได้ว่าเลี้ยงมาก็ต้องนอนด้วยกันตลอด แต่ตอนนี้กันเป็นนักร้องไม่ค่อยได้เดินทางกลับบ้าน แต่ก็แอบเข้ามาบ้างเป็นบางช่วงที่ว่าง เมื่อมาถึงก็ต้องวิ่งมาหอมแก้มยายทั้งสองข้างแล้วกอด พร้อมบอกว่ารักยายคิดถึงยายจังเลย ตรงนี้ทำให้ยายทองปานชื่นใจมาก

คุณยายทองปานเล่าว่า พอกันโตขึ้นมาหน่อยกันก็ติดน้า เพราะน้าจะทำของเล่นเกี่ยวกับดนตรี โดยหาวัสดุง่ายๆ ในครัวเรือนอย่างกระป๋องนม กะลามะพร้าว ใช้ทำเป็นเครื่องดนตรีและร้องรำทำเพลงตามประสาเด็กๆ ตรงจุดนี้เองอาจเป็นการปลูกฝังให้กันชอบร้องเพลงมาตั้งแต่ตอนเด็กๆ นั่นเอง

เยี่ยมบ้านศรีประจันทร์ กัน เดอะสตาร์ บ้านหลังปัจจุบันที่ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี

ในครอบครัวมีคนแก่หลายคน ก็เลี้ยงหลานแบบคนแก่ พร่ำบ่นพร่ำสอนลูกหลานให้เป็นคนดีอย่าคดโกงใคร แต่อย่าให้ใครเอารัดเอาเปรียบเด็ดขาด มีอะไรต้องเล่าต้องบอก อย่าเก็บเรื่องราวที่ไม่สบายใจไว้เพียงลำพัง ทำจิตใจให้สบาย พ่อแม่ของกันเป็นคนดูแลเรื่องอาหารความเป็นอยู่ทั้งหมด เรียกว่าบ้านยายของกินไม่เคยขาด แม่กันเป็นคนซื้อหามาไว้ให้ลูกๆ เนื่องจากแม่จะเป็นครูจะมีความเจ้าระเบียบ

ส่วนพ่อเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขก็เลยมีความมัธยัสถ์ ประหยัด แต่ทุกคนในบ้านจะเลี้ยงลูกหลานแบบเพื่อนแบบพี่แบบน้อง ลูกหลานในบ้านจะมีความใกล้ชิดครอบครัวไม่ค่อยเดินทางไปเที่ยวบ้านอื่น ในบ้านมีกิจกรรมร่วมกันตลอดอย่างช่วงเย็นเลิกเรียนทุกคนก็จะมาร่วมกินข้าวด้วยกัน ออกกำลังกายเป็นครอบครัว ด้วยการเตะตะกร้อหน้าบ้าน ปลูกต้นไม้ สิ่งนี้น่าจะเป็นความรักในครอบครัวที่มีความเปี่ยมสุข

ลูกหลานคนไหนชอบอะไรก็จะสนับสนุนให้ถึงฝั่งฝันให้ได้ ยายบอกตลอดว่า ถ้าชอบอะไรให้ทำ ถ้าไม่ชอบอย่าฝืน แต่เรื่องเรียนต้องมาก่อน อย่าละทิ้งหน้าที่การเรียนอย่างเด็ดขาด อย่าลืมว่า เหมือนวัวอย่าลืมตีนเด็ดขาด มีขึ้นมีลง มีสูงมีต่ำ รู้จักตัวเราเอง คนเราก็เท่านั้น เป็นสิ่งที่หลานๆ ยายทองปานล้วนเคยประสบมาทั้งสิ้น

สมัยเด็กกันเคยเข้ามาถามยายทองปานว่า อยากฟังเพลงอะไร ยายก็บอกไปว่า เพลงที่ตามหาบัวลอย เพราะไม่รู้ชื่อเพลง กันก็เลยร้องเพลง “บางกอกน้อย” ที่มีเนื้อเพลงร้องว่า สุดคลองบางกอกน้อย พายเรือตามหาบัวลอย จนเหงื่อพี่ย้อยโทรมกาย ยายก็จำได้เท่านี้ จำได้ว่ากันร้องเพลงนี้เหมือนมาก ซาบซึ้งมาก จนควักเงินในเสื้อคอกระเช้าให้ไป 100 บาท เพื่อตกรางวัลหลานชาย กันก็ยิ้มแก้มปริ

ความลับอีกอย่างที่คุณยายทองปานนำมาบอกว่า หลานชายคนนี้ชอบร้องเพลงในห้องน้ำมาก จะร้องเป็นประจำ เห็นหลานมีความสุขก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่บอกอย่างเดียวว่าอย่าร้องเพลงในครัว เดี๋ยวจะได้แฟนแก่ โบราณเขาว่ากันอย่างนั้น เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยเชื่อคนแก่ บอกว่าเชื่อโบราณจะบานบุรี พูดไปกันซะเสื่อมเลย

เยี่ยมบ้านศรีประจันทร์ กัน เดอะสตาร์ กันเมื่อวัยเยาว์

“กันเป็นเด็กที่เชื่อฟังผู้ใหญ่ทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องกินผัก กันจะไม่ยอม แต่ชอบกินพะแนงหมู กลับบ้านทีไรต้องทำพะแนงหมูให้กิน พวกรุ่นยายมันลูกชาวนาเรียกว่า เป็นนักกินผักตัวยงเลยก็ว่าได้ แต่อาจต้องเปลี่ยนขั้นตอนวิธีการทำเสียหน่อย ช่วงสมัยก่อนกินผักเหนี่ยวได้ แต่ปัจจุบันต้องกินผักเปื่อยแทนเพราะไม่มีฟัน เหลือแต่เหงือกแล้วช่วงนี้ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเด็กยุคใหม่ ทำไมไม่กินผัก” ยายทองปานบ่นๆ

ช่วงเรียนที่สวนกุหลาบ กันจะกลับบ้านที่สุพรรณบุรีทุกวันศุกร์ เพราะเป็นเด็กติดบ้านติดครอบครัว จะไปกรุงเทพฯ ช่วงเช้ามืดของวันจันทร์ เพราะอยากอยู่บ้านให้นานที่สุด หลานคนนี้เอาจริงเอาจังกับทุกอย่างที่ตั้งใจ เห็นหลานประสบผลสำเร็จก็ดีใจด้วยปลื้มใจด้วย เรามันคนแก่ช่วยเหลืออะไรคงไม่ได้มาก นอกจากเตือนสอนให้ลูกหลานเป็นคนดีเท่านั้นเอง

นี้คือชีวิตชนบทที่ไม่เคยคิดร้ายใคร มองคนรอบข้างดีหมด คนสมัยนี้เขาเรียกว่าคิดบวก แต่ชาวบ้านเขาเรียกว่าจริงใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน

คุณยายของนักร้องดังอีกคน แผ้ว สุนทรวิภาต อายุ 76 ปี เล่าว่า กันเป็นหลาน 1 ใน 3 ของบ้าน เป็นเด็กเงียบๆ และชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ สมัยก่อนจะอาศัยอยู่รวมกันที่บ้านเดิม เป็นบ้านทรงไทย 2 หลังคู่ มาแยกเป็นบ้านกันทีหลังเมื่อ 10 กว่าปีที่ก่อนพ่อแม่กันแยกมาปลูก แต่ก็อยู่ติดกัน

เยี่ยมบ้านศรีประจันทร์ กัน เดอะสตาร์ เปลนอนสุดโปรด

มาปรับเปลี่ยนต่อเติมทีหลังบางส่วน เพราะมีคนมาทักว่าบางส่วนไม่เหมาะสม เรื่องนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ คนทักเราก็ต้องทำตามแต่แค่ความเหมาะสมเท่านั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องของจิตใจ กันเป็นเด็กที่มุมานะ ต้องการจะทำอะไรจะทำให้ถึงที่สุด แต่กันก็มีเสียใจหลายครั้ง

กันเคยไปสอบทันตแพทย์ แต่สอบไม่ได้ก็เสียอกเสียใจใหญ่ พ่อแม่พี่น้องยายก็ช่วยกันปลอบ ก็กลับมาเป็นกันคนเดิมในไม่ช้า มีพลาด ก็มีแก้ไข มีแก้ตัว จำได้ว่าไปเดอะสตาร์ปีแรกกันก็แห้ว เพิ่งมาประสบความสำเร็จในครั้งล่าสุด ถึงได้มีเพลง “ระยะทำใจ” ของกันเดอะสตาร์ ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่นี้ถือเป็นความมุ่งมั่นของหลานรัก

ยายแผ้วบอกว่า ไม่ได้เลี้ยงกันใกล้ชิดเหมือนยายทองปาน แต่ก็เฝ้าดูแลอยู่ห่างๆ เวลามาบ้านยายแผ้วกันจะมีที่ประจำคือ “เปลไม้ไผ่” กับหมอน 1 ใบ เมื่อกันเดินทางมาก็จะใช้มุมสงบนี้พักผ่อนเป็นประจำจนถึงทุกวันนี้ กันกลับบ้านก็มาอยู่ที่มุมประจำนี้แหละ

คุณยายแผ้วบอกว่า ดีใจเหลือเกินที่เห็นหลานกันประสบความสำเร็จ เมื่อหลานประสบความสำเร็จคนแก่ก็มีความสุข แต่ความสุขนั้นจะยืนยาวยืนยงหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของความสำเร็จเหล่านั้นจะรักษาไว้ได้ยาวนานเพียงไร !!!