posttoday

พ่อมา(ร์)ก ปี 2556 มาริโอ้ เมาเร่อ

18 มีนาคม 2556

ได้ดูเทรลเลอร์ หรือหนังตัวอย่าง “พ่อมากพระโขนง” รึยัง

โดย...โจ เกียรติอาจิณ / ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี+จีทีเอช

ได้ดูเทรลเลอร์ หรือหนังตัวอย่าง “พ่อมากพระโขนง” รึยัง

พ่อมากน่ะ เค้าต้องออกเสียงติดสำเนียงฝรั่งด้วยนะ ไม่ใช่ “มาก” ธรรมดา แต่ต้องเป็น “มาร์ก” แล้วคนที่เรียกพ่อมากว่ามาร์ก ก็คือแด๊ดดี้ของเขานั่นไง

ก็เพราะมุขขำฮาบ้ากวนเกรียนนี่ล่ะมั้งที่ทำให้พ่อมากประจำปี 2556 ดูเป็นพ่อมาก อินเต้อ...อินเตอร์ ทั้งหน้าตา ทั้งลุค ทั้งความหล่อ ที่ออกสไตล์ลูกครึ่ง หาใช่พ่อมากไทยแท้ ผิวแทน คิวเข้ม หุ่นล่ำ

“มาริโอ้ เมาเร่อ” ผู้รับบทพ่อมาก ในหนังที่เน้นพ่อมากเป็นจุดขาย เวอร์ชันดัดแปลงมาจากแม่นาคพระโขนง ตีความใหม่ ใส่ความแพรวพราว ผ่านบทสนทนาและสารพัดมุข แถมพ่อมากยุคทันสมัยของแม่นาคยังฟันดำปี๋ ยี้!!!

“ที่เห็นฟันดำแบบนี้ ไม่ใช่เมจิกนะครับ เป็นเอฟเฟกต์ที่ใช้ทา รสชาติไม่อร่อยหรอกครับ แต่พอทาบ่อยๆ โอ้ชักอยากทาฟันดำทุกวัน รู้สึกว่าย้อนยุคดี แฟชั่นฟันดำกำลังมาแน่ๆ เรียกว่าวินเทจกันให้สุดทางเลยครับ” มาริโอ้ แจง

นอกจากจะถูกจับมาเปลี่ยนลุคใหม่เพื่อให้ลบภาพพ่อมากเวอร์ชันเก่าๆ แล้ว พ่อมากในบทที่ถูกเขียนขึ้นโดย “เต๋อ” ฉันทวิชช์ ธนะเสวี และ “โต้ง” บรรจง ปิสัญธนะกูล ผู้กำกับ (อีกคนที่ร่วมเขียนบทคือ แอ้มนนตรา คุ้มวงศ์) ยังนำเสนอที่ไม่ซ้ำเดิม

“ใช้เวลาเขียนบทประมาณปีครึ่งครับ ไอเดียแรกมาจากพี่โต้ง อยากเอาแก๊ง 4 คน เผือก ฟรอยด์ เชน บอมบ์ มาเล่นหนังอีกครั้ง พี่โต้งก็อยากทำเป็นย้อนยุค ผมเลยลองเสนอไอเดียเป็นย้อนยุคในช่วงเวลาที่คนรู้จักดีมั้ย ก็เลยคิดถึงแม่นาค พอพูดขึ้นมา พี่โต้งก็ซื้อไอเดียนี้เลย แต่เราต้องเอามาตีความใหม่ นำเสนอในมุมของพี่มาก โดยให้แก๊ง 4 คน เป็นเพื่อนสนิทของพี่มาก ก่อนเขียนบทผมได้ไปอธิษฐานขอพรย่านาคว่า บทที่เขียนเราต้องการสร้างความสุขให้กับผู้ชม ไม่ได้ต้องการลบหลู่” ฉันทวิชช์ เล่า

ฟากมาริโอ้ก็บอกกับเราด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นว่า แม้เขาจะเป็นลูกครึ่ง หน้าและลุคออกฝรั่ง แต่ก็ไม่ใช่ข้อจำกัด เพราะจริงๆ ในเรื่องตัวละครชื่อมาร์ก นั่นจึงเป็นที่มาของพ่อมาร์กพระโขนง

“เรื่องชื่อนี่มันเหมือนเพื่อนๆ ออกเสียง คึ ไม่ได้น่ะครับ แทนที่จะเป็นมาร์ก ก็เลยกลายมาเป็นมาก เพราะความยากในการออกเสียง ความเป็นฝรั่ง คนก็สงสัยนะว่าทำไมพ่อมาก รวมถึงแม่นาค เวอร์ชันนี้ ทำไมฝรั่งจัง ผมว่ามันอยู่ที่คนมอง แต่ถ้ามาอ่านบทแล้ว มานั่งคุยกับผู้กำกับ ก็จะรู้ว่าเป็นการตีความที่แปลกออกไปมากกว่าครับ จะฝรั่งหรือไทย ผมว่าเป็นพ่อมากได้ มันอยู่ที่การตีความของหนัง ฉะนั้นความเป็นฝรั่งก็ไม่ใช่ข้อจำกัดอะไร ส่วนนัยเรื่องชื่อเหรอ คงไม่มีซ่อนเร้นแน่ๆ ครับ”

ก่อนหน้าที่มาริโอ้จะคว้าบทพ่อมาก หรือพ่อมาร์กมาไว้ในอ้อมอก เขาก็เพิ่งจะโชว์ฝีมือจัดจ้านในหนังดรามาพีเรียดเข้มข้น “จันดารา” (2 ภาค) ซึ่งเป็นคนละแนว คนละทาง แต่มาริโอ้ก็ย้ำว่า เป็นนักแสดงต้องทำให้ได้ ต้องเล่นได้ทุกบท ไม่ว่าจะดรามา หรือฮากลิ้ง จะขายหล่อ หรืออวดความสามารถ เพราะนั่นคือหน้าที่ของนักแสดง

“เล่นหนังทุกเรื่องมันคือการเริ่มต้นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นหนังอะไร แนวไหน มันต้องเริ่มใหม่หมด เริ่มที่จะทำความเข้าใจบท เข้าใจตัวละคร และตัวละครอื่นๆ ฉาก สถานการณ์ อารมณ์ มันใหม่หมดเลยนะ สำหรับผมเรื่องนี้มันเหมือนจะง่าย แต่เอาจริงมันยาก มันเหมือนจะเฮฮา แต่กลับมีความลึกปนอยู่ด้วย ดรามามาเจอตลก ยากครับยาก ส่วนจันดาราเทียบกันมันจะค่อนข้างเครียด เพราะหนังมันหนัก หนักทุกอย่างเลย แต่พ่อมากชิลกว่าครับ”

พ่อมากพระโขนงมีหลายอารมณ์ ไม่ใช่แค่ผี หรือเน้นความน่ากลัว แล้วก็ไม่ได้ฮาน้ำตาเล็ดด้วยมุขกวนๆ จากแก๊ง 4 หน่อ แต่มันคือรายละเอียดที่เวอร์ชันอื่นๆ ไม่ได้ลงลึก เช่น ตอนที่พ่อมากไปรบ พ่อมากรบยังไง ไม่มีใครรู้ จะรู้ก็จากเวอร์ชันนี้นี่แหละ จะขยายให้ทุกคนได้รู้กันซะที

ขณะที่เรื่องความรักและคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่นาค หนังก็ค่อนข้างจะมีน้ำหนักพอสมควร ความรักอันยิ่งใหญ่ระหว่างคนตายกับคนเป็น ระหว่างแม่นาคกับพ่อมาก

“ผมว่าสิ่งที่ผมสัมผัสได้จากคาแรกเตอร์พ่อมาก คือพ่อมากเป็นผู้ชายที่รักเมียมาก ยึดมั่นใจรัก แต่จริงๆ ก็มีสองบุคลิกนะครับ อยู่กับเพื่อนก็จะเฮฮา แต่เวลาอยู่กับเมียก็จะกลายเป็นผัวขี้อ้อน มีหงอๆ บ้าง เกรงใจครับ ไม่ใช่กลัวนะ”

แล้วตัวจริงของมาริโอ้เล่าเป็นยังไง?

“ถ้าอยู่กับเพื่อนผมสนุกสนานเต็มที่นะ สุดๆ ครับ แต่อยู่กับแฟน ก็ไม่ถึงหงอ แต่แค่เกรงใจ (ยิ้มกรุ้มกริ่ม) ขี้อ้อนมั้ย มีบ้าง ผมว่าผมก็เหมือนผู้ชายทั่วไป อาจจะไม่เหมือนพ่อมากเป๊ะ แต่ก็ใกล้เคียง ผมว่าผู้ชายอย่างพ่อมากนี่น่าเคารพนะ เคารพในการบูชาความรัก ถ้าเป็นผมก็ยังไม่แน่ ต้องเจอกับตัวครับ แล้วกับคนที่ใช่ด้วย ถึงจะบอกได้ว่าจะเป็นคนที่บูชาความรักเหมือนพ่อมากหรือเปล่า”

สำหรับคิวเข้าฉายพ่อมากพระโขนงนั้น คือ 28 มี.ค.นี้ อยากเจอพ่อมาก หรือพ่อมาร์ก เวอร์ชันลูกครึ่ง ก็ไปให้กำลังใจกันได้

นี่ล่ะ มาริโอ้

ชื่อจริง มาริโอ้ เมาเร่อ (Mario Maurer) ส่วนชื่อกลาง คือ มันเฟรด (Manfred) ขณะที่นามสกุลของเขา มีความหมายว่า ช่างอิฐ

มาริโอ้ชอบรถโฟลค์สวาเกนมากๆ ตอนนี้มีในครอบครอง 2 คัน ปี’66 กับปี’62 เขาบอกว่า ถ้าเจอคันที่ถูกใจก็ไม่รีรอที่จะซื้อเก็บไว้

เหตุผลที่มาริโอ้ชอบรถโฟลค์สวาเกน มันเริ่มมาจากพ่อของเขาและเขาสัญญาว่าจะซื้อรถโบราณมาขับกับพ่อ แต่ไม่ทันที่เขาจะได้ทำตามฝัน พ่อก็จากเขาไปอย่างไม่หวนกลับ แต่พระเอกหน้าใสก็พูดเสมอ “พ่อครับผมมีรถโบราณแล้วครับ”

คนอื่นเลือกเรียนมหาวิทยาลัยปิด แต่มาริโอ้เลือกที่จะเรียนคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เขาว่ามันสะดวกดี ตอนนี้ขึ้นปีที่ 2 ไม่มีเวลาไปนั่งเรียน อาศัยนั่งท่องหนังสือ แล้วก็ไปสอบ

ไผเป็นไผพ่อมาก (ในหนัง)

ประเดิมทำเป็นหนังครั้งแรก ปี 2479 แต่ไม่มีข้อมูลนักแสดงนำ กำกับโดย “หม่อมราชวงศ์อนุศักดิ์ หัสดินทร์” จนถึงกระทั่งปี 2502 แม่นาคพระโขนง ก็มีพ่อมากคนแรก “สุรสิทธิ์ สัตยวงษ์”

“อดุลย์ ดุลยรัตน์” ก็เคยเป็นพ่อมาก “แม่นาคคืนชีพ” ปี 2503 ขณะที่สุรสิทธิ์ก็กลับมารับบทพ่อมากอีกครั้ง “วิญญาณรักแม่นาคพระโขนง” ปี 2505

“แม่นาคคะนองรัก” ปี 2511 “แม่นาคอาละวาด” ปี 2516 “แม่นาคอเมริกา” ปี 2518 “แม่นาคบุกโตเกียว” ปี 2519 ล้วนเป็นดอกผลของความเป็นอมตะแม่นาคพระโขนง โดยบทพ่อมากก็มีดาราดังเล่นไว้เพียบ อาทิ “ชุมพร เทพพิทักษ์” “ยอดชาย เมฆสุวรรณ” “กรุง ศรีวิไล” “อุเทน บุญยงค์”

พระเอกแถวหน้าหลากยุค ต่างตบเท้าเข้าร่วมสวมบทบาทเป็นพ่อมากมาแล้ว เช่นว่า “มิตรชัย บัญชา” “สมบัติ เมทะนี” “ลิขิต เอกมงคล” “รอน บรรจงสร้าง” แต่คนที่ถูกยกให้เป็นพ่อมากขวัญใจสาวๆ เห็นจะไม่พ้น “วินัย ไกรบุตร” แห่ง “นางนาก” ปี 2542

นาค รักแท้/วิญญาณ/ความตาย ปี 2548 ก็มี “ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์” ส่วนพระเอกกล้ามโต “รังสิโรจน์ พันธุ์เพ็ง” ก็ได้เล่นเป็นพ่อมากเช่นกัน “แม่นาค 3D” ปี 2555