posttoday

ศึกสายเลือด ราชินีแห่งมหาสมุทร

13 มกราคม 2562

“แล้วทะเลจะพัดพาน้ำตาเราให้หายไป”

โดย เพรงเทพ 

“แล้วทะเลจะพัดพาน้ำตาเราให้หายไป”

เป็นคำพูดของราชินีแอตแลนนาแห่งท้องมหาสมุทร ซึ่งหลบหนีการตามล่าจากการหมั้นหมายและแต่งงาน กล่าวกับ โธมัส เคอร์รี คนเฝ้าประภาคาร ซึ่งช่วยชีวิตเธอไว้ และผูกพันร่วมชีวิตในฐานะสามีภรรยาจนมีลูกชาย 1 คน วัยประมาณ 3 ขวบ

“ในโลกนี้ เราสัมผัสได้ถึงน้ำตา”

โธมัส กล่าวตอบเธอ ก่อนที่เธอจะกลับสู่มหาสมุทรเพื่อช่วยรักษาชีวิตของเขาและลูกชายไว้

“Aquaman” หรือมีชื่อภาษาไทยว่าอควาแมน เจ้าสมุทร เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์ของดีซี และประสบความสำเร็จสามารถทำรายได้ทะลุถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.1 หมื่นล้านบาท) คงต้องบอกว่าเพราะความสนุกของตัวหนังที่เหมาะเจาะพอดีกับความยาว 2 ชั่วโมง 25 นาที ซึ่งไม่น่าเบื่อ รวมถึงการเล่าเรื่องที่ไม่ยากหรือซับซ้อนให้งุนงง ตรงไปตรงมาทั้งรักทั้งชัง อิจฉาริษยา โศกเศร้า และสุขสมหวัง มีทั้งประเด็นชีวิต ความรัก ครอบครัว และโครงสร้างใหญ่ของการเมืองสังคมระดับอาณาจักร

ศึกสายเลือด ราชินีแห่งมหาสมุทร

ความยิ่งใหญ่ในฐานะราชา ซึ่งมาพร้อมการปกครองและความรับผิดชอบสูงสุด ซึ่งไม่จำเพาะแค่ประเทศหรืออาณาจักรของตัวเอง แต่เป็นวีรบุรุษของทุกโลกและทุกคน

หากย้อนกลับในอดีต เมื่อดูต้นกำเนิดของ อควาแมน เมื่อ 58 ปีที่แล้ว ซึ่งปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือการ์ตูน More Fun Comics เล่มที่ 73 (ฉับบเดือน พ.ย. 1941) เป็นตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ในหนังสือการ์ตูนอเมริกันที่จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ดีซีคอมิกส์ สร้างสรรค์โดย มอร์ต ไวซิงเกอร์ (เขียนเรื่อง) และ พอล นอร์ริส (วาดภาพ)

อาเธอร์ ลูกครึ่งมนุษย์และชาวแอตแลนติส มีชีวิตอยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ มีพละกำลัง ความแข็งแรง ความทนทาน ความยืดหยุ่น ความเร็ว การตอบสนอง ประสาทการรับรู้และการฟื้นตัวที่เหนือมนุษย์ ใช้โทรจิตสื่อสารกับสัตว์ทะเลได้

กลายหนึ่งในซูเปอร์ฮีโร่ของดีซีคอมิกส์ที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุด และมาไกลเหลือเกินในฐานซูเปอร์ฮีโร่ ก้าวข้ามสมัยนิยมมาสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างสวยงาม จากคนอ่านและผู้ชมรุ่นสู่รุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ

ศึกสายเลือด ราชินีแห่งมหาสมุทร

ราชาแห่งแอตแลนติส ผู้ครอบครอง “ตรีศูลแห่งเนปจูน” อาวุธเวทมนตร์ที่สามารถควบคุมท้องทะเล เช่น สร้างคลื่นยักษ์หรือน้ำวนได้ ควบคุมสภาพอากาศ เช่น เรียกฝนหรือพายุได้ นอกจากนั้นยังปล่อยสายฟ้าได้อีกด้วย ใช้พลังและความสามารถของเขาปกป้องทั้งโลกใต้น้ำและโลกเบื้องบน

ในภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นการเล่าเรื่องชีวประวัติของ อาเธอร์ เคอร์รี ที่เติบโตมาเป็น อควาแมน เด็กชายลูกผสมผู้แปลกแยก และเฝ้าคอยพบแม่ในมหาสมุทร เล่าถึงการพบกันระหว่างพ่อกับแม่ การมาเป็นผู้พิทักษ์ในมหาสมุทรปราบโจรสลัด และสุดท้ายต้องยอมรับชะตากรรมในการตามหาตรีศูลแห่งแอตแลนติสเพื่อพิทักษ์โลกใบนี้ ไม่ให้เกิดสงครามระหว่างโลกบนบกและโลกใต้ท้องสมุทร

การเล่าเรื่องที่ยาวยืดของภาพยนตร์เรื่องนี้ หากใครเคยคุ้นกับภาพยนตร์จีนกำลังภายในยุคทศวรรษที่ 80 ถึงต้น 90 น่าจะคุ้นอย่างไม่ยากเย็น เพราะเป็นเรื่องของตัวละครที่จับพลัดจับผลูให้ต้องมาเผชิญชะตากรรมเพื่อทำงานที่ใหญ่และยากที่สุด แต่ต้องหาอาวุธวิเศษ ฝ่าด่านต่างๆ ให้ได้เสียก่อนและสุดท้ายสามารถปกป้องโลกได้

ความสนุกของเรื่องไม่ได้อยู่ที่พระเอกกับการผจญภัยแต่อย่างเดียว ในระหว่างทางและพัฒนาการตัวละครนั้นมีตัวละครรอบข้างที่สร้างสีสันและความลับต่างๆ ให้ค้นหา โดยเฉพาะแม่ของเขาคือ ราชินีแอตแลนนา น้องชายต่างบิดาหรือกษัตริย์ออร์ม อาจารย์ที่สอนชีวิตใต้มหาสมุทรและการต่อสู้ วัลโก รวมถึง แบล็ก แมนตา โจรสลัดที่ฝังแค้นต้องการล้างแค้นให้พ่อของเขา

ศึกสายเลือด ราชินีแห่งมหาสมุทร

ที่สำคัญที่สุด ก็คือ เมรา เจ้าหญิงเลือดขัตติยะที่นำพาอาเธอร์มาสู่การผจญภัยเพื่อขึ้นเป็นราชาแอตแลนติส ความรักของทั้งสองดูดิบๆ และมีมิติของการเดินทางร่วมกันทั้งเรื่อง จนจบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้งเปี่ยมสุข

ไม่ต้องกล่าวถึงซีจีและวิชวลเอฟเฟกต์ที่อยู่ในขั้นดีเยี่ยมอลังการ สร้างมิติของแฟนตาซีและความลึกในมุมมองต่างๆ อย่างเพลิดเพลินและไม่ขัดตา สร้างสรรค์มาเพื่อความบันเทิงในการดูอย่างแท้จริง

อย่างหนึ่งที่ต้องชมคนเขียนบทภาพยนตร์ ที่สามารถเชื่อมโยงตำนานแอตแลนติสต่างๆ มาสู่ตัวเรื่องได้อย่างกลืนกลาย ในฐานะอาณาจักรหรือทวีปที่สาบสูญ เพราะปัจจุบันยังคงมีทฤษฎีที่เชื่อกันว่า ชาวแอตแลนติสไม่ได้สูญหายไปไหน เพียงแต่พวกเขาย้ายที่อยู่ไปอยู่ใต้ทะเลที่ไหนสักแห่ง ที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าถึงได้

อาร์เธอร์ กับเจ้าหญิงเมรา ได้พาท่องแอตแลนติสในทะเล และที่เคยเป็นส่วนหนึ่งบนโลกบกในทะเลทรายซาฮารา ในแอฟริกาที่อยู่ลึกลงไปใต้พิภพ

ศึกสายเลือด ราชินีแห่งมหาสมุทร

เมื่อดูภาพยนตร์จบ ทำให้อยากรู้เรื่องราวของแอตแลนติส ที่ถูกเชื่อว่ามีอยู่จริง เมื่อราว 1.2 หมื่นปีก่อน ถูกพูดถึงครั้งแรกในหนังสือ 2 เล่ม ที่มีชื่อว่า ทิเมอุส (Timaeus) และ ครีทีแอซ (Critias) ที่ถูกเขียนขึ้นราว 355 ปีก่อนคริสตกาลโดย เพลโต นักปรัชญาชาวกรีกที่โด่งดัง

ในยุคหลังมีหลายทฤษฎีที่พยายามอธิบายการหายไปของแอตแลนติส ไม่ว่าจะเป็น ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ อุกกาบาต หรือแม้แต่สงครามนิวเคลียร์ เป็นเมืองที่สาบสูญ” และถูกพูดถึงและค้นหาความจริงมาตลอดมากกว่า 2,000 ปี ซึ่งคนส่วนมากเชื่อว่าจมอยู่ใต้น้ำ

มีความเชื่อว่าชาวแอตแลนติส จริงๆ เป็นมนุษย์ที่มาจากดาวดวงอื่น พวกเขาสูงและมีผิวพรรณผุดผ่องกว่ามนุษย์ในปัจจุบัน พวกเขามาที่นี่เมื่อราว 5 หมื่นปีก่อนจากระบบดาวไลรา อายุขัยโดยเฉลี่ยของพวกเขายืนยาวถึง 800 ปี นั่นทำให้พวกเขามีความแข็งแกร่งกว่ามนุษย์

ถูกเชื่อว่ามีพลังอำนาจพิเศษที่ช่วยควบคุมสภาพดินฟ้าอากาศ สามารถหยุดการปะทุของภูเขาไฟ และพายุฝนฟ้าคะนองได้ บางคนก็เชื่อว่ามันอาจไม่ใช่อำนาจพิเศษ แต่เป็นเทคโนโลยีบางอย่างที่ล้ำสมัยกว่าในปัจจุบันนี้

สรุปว่าเป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ครบเครื่องครบรสและดูสนุกเบิกบานใจ