K-Culture : ‘ชวีรี’ ช่วยเปิดเส้นทาง

โดย...เพียงออ วิไลย [email protected]

ปี 1997 เป็นปีสร้างความหวาดผวารายวันให้แก่นักธุรกิจทั่วเอเชีย...แม้จะผ่านไปเกือบ 20 ปี แต่ “เชกา” ยังจำภาพสีหน้าอันซีดเซียวของเพื่อนรักชาวเกาหลีในค่ำวันหนึ่งที่สนามบินอินชอนได้อย่างดี เชกาเสร็จภารกิจและกำลังจะกลับไทย เพื่อนจึงนำของชิ้นหนึ่งลักษณะแบน ยาวหลายฟุตบรรจุหีบห่ออย่างดีมาให้ เชการู้ได้ทันทีว่าสิ่งนั้นคืออะไรเพราะเคยเห็นอยู่ในบริษัทของเพื่อน...เชกาปฏิเสธเพราะเห็นว่ามีค่ามากแต่เขาบอกว่า “นี่เป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายและหากเราเก็บไว้ก็คงจะถูกยึดไป”

เชกาจึงได้นำกลับมาเก็บรักษาให้จนกว่าปัญหาจะคลี่คลาย ทว่า ในที่สุด ธุรกิจเพื่อนล้มละลายจากผลพวงของวิกฤตการเงิน เขาถูกจองจำในคุก 2 ปี เพราะไม่มีเงินชำระหนี้ ก่อนหน้านั้นเขาเคยคิดหนีหรือฆ่าตัวตาย ทว่า “บุญรักษา” จากการเตือนสติของพระอาจารย์และครอบครัวของเขาซึ่งเป็นชาวพุทธมหายานที่มีศรัทธาเหนียวแน่นมาหลายชั่วอายุคน จึงทำให้เขาคิดได้...

ในไทย บริษัทเกาหลีที่ทำงานอยู่ก็เกิดปัญหาที่ต้องตั้งสติแก้ไขไปทีละเรื่อง เงิน 20 ล้านเหรียญสหรัฐจากสิงคโปร์ที่กู้มาขยายโรงงาน ในชั่วข้ามคืนเพิ่มยอดหนี้จาก 500 ล้านบาท กลายเป็น 1,000 ล้านบาท จากการลอยตัวค่าเงินบาท...เงินสดสำรอง 200 ล้านบาท ติดอยู่ใน 56 สถาบันการเงินที่ถูกปิดกิจการ บริษัทไม่มีสภาพคล่องเหลือจึงต้องวิ่งเข้าหาบริษัทแม่ในเกาหลีให้ช่วย แต่แม่ก็ย่ำแย่พอๆ กัน แม่เลยบอกว่า “จงช่วยเหลือตัวเองเถอะลูก”...ในที่สุดก็พอถูไถกันไปได้ โดยรัดเข็มขัดตัดค่าใช้จ่ายจนรอดตาย...ส่วนเพื่อนคนนั้นหลังจากออกจากคุกก็ได้มุมานะสร้างตัวเองใหม่จนธุรกิจใหญ่โตกว่าเดิม ปัจจุบันนี้เขาเริ่มวางมือจากธุรกิจและมุ่งมั่นเรียนหนังสือพร้อมๆ กับปฏิบัติธรรม เขาตั้งใจจะบวชเป็นพระสงฆ์มหายานแบบฉบับเกาหลีในช่วงสุดท้ายของชีวิต

ทว่า เมื่อมองย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้น วิกฤตการเงินกลับส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงเกาหลี กล่าวคือ กลุ่ม “แชบอล” ได้แก่ บริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ ของเกาหลีเจอวิกฤตในธุรกิจการผลิต จึงได้หันมามองการลงทุนทางด้านนี้ซึ่งตรงตามความประสงค์ของรัฐบาลที่พยายามเชิญชวนนักลงทุนมาแล้วหลายปี... ในปี 1999 ภาพยนตร์แอ็กชั่นจารชนเกาหลีในสไตล์ฮอลลีวู้ดเรื่องแรก ชื่อว่า “ชวีรี” (&*9772;&*7532;- Shiri) จึงได้ออกฉาย และประสบความสำเร็จอย่างงดงาม... “ชวีรี” ใช้งบประมาณมากที่สุดเท่าที่เกาหลีเคยทำมา คือ 8.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งผู้ร่วมทุนคือ ซัมซอง (ซัมซุง) ! ...

“ชวีรี” เป็นเรื่องราวของจารชนเกาหลีเหนือที่ปฏิบัติการในเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของประชาชน สามารถทำรายได้จากการฉายในโรงภาพยนตร์ในเกาหลีถึง 11 ล้านเหรียญสหรัฐ จากผู้ชม 6.5 ล้านคน เอาชนะ “ไททานิค” ที่มีผู้ชม 4.3 ล้านคน ได้อย่างไม่น่าเชื่อ... “ชวีรี” ได้รับรางวัลมากมายในและต่างประเทศ เมื่อเข้าฉายในฮ่องกงและญี่ปุ่นก็มีผู้ชมถึง 1 ล้านคน ภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุด คือ 10 วัน จึงทำให้ “คัง เจคิว” ผู้กำกับชาวเกาหลีได้รับการยกย่องว่าเก่งกาจเทียบเท่ากับ จอห์น วู หรือ ฉีเคอะ ผู้กำกับภาพยนตร์แอ็กชั่นชั้นนำแห่งเอเชีย... “ชวีรี” จึงเป็นภาพยนตร์ที่ได้เปิดศักราชยุคใหม่ให้แก่วงการบันเทิงเกาหลีอย่างแท้จริงตามเป้าหมายของรัฐบาล...