เช้าที่ไม่เหมือนเดิม นอราห์ โจนส์
ราชินีเพลงนุ่มนวล “นอราห์ โจนส์” กลับมาอีกครั้งกับงานชุดล่าสุด Day Breaks ในวันที่เติบโตขึ้น
โดย...เพ็ญแข สร้อยทอง
ราชินีเพลงนุ่มนวล “นอราห์ โจนส์” กลับมาอีกครั้งกับงานชุดล่าสุด Day Breaks ในวันที่เติบโตขึ้น และหลายอย่างเปลี่ยนแปลงตลอดไป
ก่อนจะเขียนบทความชิ้นนี้ขึ้น เรามีโอกาสได้พบกับ นอราห์ โจนส์ มีโอกาสพูดคุย สัมภาษณ์ และชมการแสดงสดของเธอที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จากนั้นจึงได้กลับมาฟัง Day Breaks อีกหลายๆ รอบ และได้อ่านบทสัมภาษณ์ของเธอในสื่อต่างๆ อีกหลายชิ้น แล้วจึงกลายมาเป็นบทความชิ้นนี้
นอราห์ โจนส์ แนะนำตัวกับโลกเมื่อ 15 ปีที่แล้วด้วยอัลบั้ม Come Away With Me ซึ่งขายได้มากกว่า 11 ล้านแผ่น ทำให้เธอได้รับรางวัลแกรมมี่ ทำให้ชื่อของนักร้อง นักเปียโน และนักแต่งเพลงคนนี้ประทับอยู่ในใจของคนฟังเพลง หลังจากวันนั้นหญิงสาวก็สร้างสรรค์บทเพลงโมเดิร์นแจ๊ซ-ป๊อป (เจือกลิ่นคันทรีและโฟล์กในบางครั้ง) ออกมาอีกหลายชุด ในจำนวนนั้นเป็น “ไซด์โปรเจกต์” ร่วมกับศิลปินต่างแนวทางและงานที่สร้างสรรค์ขึ้นกับวงของเพื่อนๆ อีกหลายชุด
ด้วยวัยประสบการณ์และผลงานที่ผ่านมา ในวันนี้ นอราห์ โจนส์ นับเป็นหนึ่งในศิลปินเบอร์ต้นๆ ของวงการ ซึ่งผู้คนทั่วโลกรอคอยงานชุดใหม่ และหลังจากหายไปนานเกือบ 4 ปี ในที่สุดเธอก็กลับมา
หากว่าบทเพลงคือสิ่งที่สะท้อนตัวตนและความรู้สึกของผู้เขียน อัลบั้มนี้ย่อมแตกต่างกับผลงานก่อนหน้านี้ของ นอราห์ โจนส์ ไม่มากก็น้อย เพราะหลังมีอัลบั้มอกหัก Little Broken Hearts ออกในปี 2012 จากนั้นชีวิตของศิลปินสาวก็เปลี่ยนแปลงมากมาย เธอมีความรักครั้งใหม่ ตามด้วยการใช้ชีวิตคู่กับเพื่อนนักดนตรี (นอราห์ขอเก็บชื่อและเรื่องราวของเขาไว้เป็นความลับ) กลายเป็นแม่ของเด็กๆ 2 คน เมื่อเทียบกับเด็กสาววัย 20 ต้นๆ สมัยที่เธอเข้าวงการใหม่ๆ นอราห์ โจนส์ ได้เดินทางห่างจากจุดนั้นไกลมาก
อัลบั้มนี้ นอราห์ โจนส์ ดำดิ่งลงไปในอิทธิพลดนตรีแจ๊ซมากกว่าอัลบั้มก่อนหน้านี้ เธอหันกลับมาแต่งเพลงด้วยเปียโนอีกครั้ง ด้วยกลิ่นอายของบทเพลงทำให้หลายคนบอกว่า นี่เป็นการหวนคืนสู่รากเหง้าเก่า เป็นงานซึ่งทำให้นึกถึงอัลบั้มแรกๆ เป็นการเดินทางบรรจบวงเป็นหนึ่งรอบอย่างสมบูรณ์ แต่ นอราห์ ไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะเส้นทางของเธอคือการเดินไปข้างหน้าตรงๆ เธอในวันนี้นั้นแตกต่างกับเมื่อก่อนมาก และเธอคงจะทำอัลบั้มชุดนี้ตอนอายุ 20 ไม่ได้
เธอไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธว่าบทเพลงทั้งหมดกลั่นกรองมาจากชีวิตจริงของตัวเอง อาจจะเป็นจินตนาการ อาจจะเป็นเรื่องราวของคนอื่นที่ได้ยินได้ฟังมาก็ได้ เมื่อคนฟังเพลงเหล่านี้แล้ว พวกเขาก็สามารถที่จะตีความอย่างเพลิดเพลินว่า นี่มันเป็นเรื่องของฉันหรือเป็นเรื่องของใคร
Day Breaks เป็นอัลบั้มที่บรรจุ 12 เพลง ส่วนใหญ่นอราห์แต่งขึ้นในห้องครัวที่บ้านในบรูคลิน ซึ่งเธอและสามีได้ร่วมกันแบ่งปันความคิดเรื่องดนตรีสำหรับอัลบั้มนี้ และแต่งเพลงด้วยเปียโนตั้งอยู่ตรงกลางห้อง ในสตูดิโอ นอราห์ กับมือกลองและมือเบสบันทึกเสียงแบบแสดงสด ก่อนจะเลือกเทคที่ดีที่สุดมาใช้ อัลบั้มนี้ยังมีตำนานแซ็กโซโฟนอย่าง เวย์น ชอร์ตเตอร์ส มาร่วมทำงานด้วย
อัลบั้มที่ 6 ของนอราห์ อุดมด้วยเสียงเปียโนช้าๆ ตามมาด้วยเสียงกระซิบของแซ็กโซโฟน และเสียงร้องแผ่วพลิ้วของนอราห์ เป็นเพลงแห่งการผ่อนคลาย งานนี้มีเพลงบัลลาด-รักอย่าง Burn, It’s a Wonderful Time for Love ฯลฯ ศิลปินสาวยังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสังคมผ่าน Tragedy, Flipside ฯลฯ งานนี้ไม่ได้หม่นหมองไปเสียทั้งหมด อารมณ์สนุกสนานสดใสยังปรากฏให้ได้สัมผัสในเพลงชื่อ Flipside ซึ่งอาจจะทำให้ใครอยากขยับเนื้อตัววาดลีลา ซึ่งนอราห์เองบอกว่าตอนแต่งเพลงนี้เธอก็เต้นไปด้วย
เพลงของนอร์ราห์ โจนส์ ฟังผิวเผินไพเราะ สวยงาม เงียบสงบ แต่หากพินิจพิเคราะห์ลงลึกจะเห็นหลายเรื่องซึ่งซ่อนอยู่ภายใน แอบรอคอยที่จะโจมตี อย่างเพลง Tragedy ที่ฟังดูสบายๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายนั้น เธอกำลังพูดถึงการทำลายล้างของโรคพิษสุราเรื้อรัง บางเพลงอัลบั้มนี้ อย่างเช่น Flipside คือ การสะท้อนความรู้สึกนึกคิดของเธอต่อสถานการณ์ของโลก ไม่ว่าจะการอพยพลี้ภัยในยุโรป ความรุนแรงในการใช้อาวุธปืนในสหรัฐ การโจมตีของผู้ก่อการร้าย ความตึงเครียดระหว่างตำรวจและชุมชนชาวแอฟริกันอเมริกัน ทั้งหมดซึ่งดูเหมือนจะรุนแรงมากขึ้นในปีที่ผ่านมา งานชุดนี้เธอนำเพลงของ นีล ยัง Don’t Be Denied มาคัฟเวอร์ เพลงนี้เหมือนเป็นอัตชีวประวัติของ นีล ยัง ซึ่งนอร์ราห์เองก็อาจจะมีความรู้สึกร่วมกับเขา
And Then There Was You เป็นเพลงที่เขียนตั้งแต่ยังไม่มีลูกก่อนจะมาเสร็จสิ้นเมื่อเป็นแม่คน เป็นเพลงอันหอมหวานและเป็นช่วงเวลาที่เงียบสงบที่สุดของอัลบั้ม เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการค้นพบความรักที่มาเปลี่ยนแปลงชีวิต ศิลปินสาวบอกว่า การเป็นแม่ไม่ได้ทำให้เพลงหรือดนตรีของเธอเปลี่ยนแปลงไป แต่มันเปลี่ยนแปลงวิธีการที่เธอได้ยินได้ฟังเพลงรัก บางเพลงที่เคยได้ยินได้ฟังมาตลอดชีวิตก็เพิ่งจะมาคิดมาเข้าใจว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร และเพิ่งจะกลายมาเป็นเพลงที่ใช่สำหรับเธอ
ในวัย 37 ปี นอราห์ โจนส์ ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป เธอเปลี่ยนจากคนกลางคืนมาเป็นคนกลางวัน รุ่งเช้าของ นอราห์ โจนส์ ในวันนี้ก็เปลี่ยนไป จากที่เคยแฮงเอาต์ปาร์ตี้ถึงตี 4 เรื่องราวเหล่านั้นเป็นเพียงอดีต สำหรับ Day Breaks ฟังเผินๆ อาจจะดูคล้ายงานเก่าๆ ในยุคแรก แต่ถ้าลองฟังดูอีกทีก็จะพบว่า งานชุดนี้มีความ “ลึกซึ้ง” มากกว่า


