posttoday

วสวัตติ์ วสุธาสวัสดิ์ ขายรถมือสองไม่ใช่เรื่องยาก

02 พฤษภาคม 2561

การจะซื้อรถยนต์สักคันว่ายากแล้ว การจะขายนี่สิยากยิ่งกว่า เพราะการจะขายรถแต่ละที ต้องใช้เวลาและหลายขั้นตอน หลายกระบวนการ

เรื่อง อณุสรา ทองอุไร ภาพ อมรเทพ โชติเฉลิมพงษ์

การจะซื้อรถยนต์สักคันว่ายากแล้ว การจะขายนี่สิยากยิ่งกว่า เพราะการจะขายรถแต่ละที ต้องใช้เวลาและหลายขั้นตอน หลายกระบวนการ แม้ว่าในสังคมจะมีธุรกิจค้ารถมือสองต่างๆ มากมาย แต่การจะมุ่งเน้นเฟ้นหาที่ที่ดีที่สุดก็ยากเหลือเกิน

วสวัตติ์ วสุธาสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาร์ซัมประเทศไทย ชายหนุ่มอายุเพียง 26 ปี ถือเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ที่มุ่งเน้นว่าในอนาคตใครจะขายรถจะต้องนึกถึงคาร์ซัมเป็นที่แรกให้ได้

คาร์ซัมเป็นบริษัทประมูลรถออนไลน์ เพียงเข้าเว็บนี้แล้วใส่รายละเอียด ก็จะส่งคนไปตรวจสภาพรถยนต์ของคุณ จะให้ไปที่บ้านเลยหรือคุณจะมาตรวจที่ศูนย์ของเว็บก็ได้ หลังจากนั้นทางเว็บก็จะเอารูปรถของคุณและการตรวจรถของคุณลงเข้าประมูลให้เต็นท์ทั่วประเทศประมูลรถของคุณได้ ซึ่งจะไม่ใช่เพียงแค่เต็นท์เดียวเท่านั้นที่จะเห็นรถของคุณ เพราะมีเต็นท์รถที่เป็นคู่ค้ากันถึง 900 กว่าเต็นท์

เขากล่าวว่า บริการของทางคาร์ซัมเป็นรูปแบบของการเซอร์วิส โดยจะเน้นด้านการบริการที่ก่อให้เกิดความสะดวกสบายและไม่ยุ่งยากที่จะต้องดำเนินการเองตั้งแต่ต้นจนจบ

“เราบริการตั้งแต่ตรวจสภาพรถยนต์ จนถึงการโอนทุกอย่างไม่ใช่แค่แมตช์เต็นท์กับลูกค้า เราปิดการขายและโอนให้ด้วย เพราะพูดตามตรงการที่ลูกค้ามาใช้บริการเราเพราะเขาไม่อยากยุ่งยากกับเต็นท์ ถ้าเราแค่แมตช์เข้ากับเต็นท์ ก็เหมือนเดิมแค่หาเต็นท์ที่ให้ราคาสูงสุดให้กับเขาแค่นั้นเอง อันนี้เราปิดการขาย เจรจาหลังจากนั้นรับเงิน และถ้าเกิดปัญหา ส่วนใหญ่จะเป็นเต็นท์รถที่มีปัญหา สมมติเขาซื้อรถลูกค้าคนนี้ไปเรียบร้อยมีปัญหา ผมโอนเงินของผมให้ก่อนเลยและหลังจากนี้มีปัญหาอะไร ผมไปเจรจากับเต็นท์เอง”

เขายืนยันว่าเป็นบริษัทที่กล้าที่จะรับผิดชอบมากที่สุด อย่างการประมูลเสร็จสิ้นทางคาร์ซัมจะนำเงินไปจ่ายให้ลูกค้าก่อนเลย ซึ่งตรงนี้แปลว่าคาร์ซัมต้องไว้ใจช่างที่เป็นคนตรวจรถลูกค้าในระดับที่สูงมาก เมื่อนำเงินให้ลูกค้าก็จะนำรถกลับมาที่บริษัท รอเต็นท์มารับรถ แต่ในกรณีที่ช่างของคาร์ซัมตรวจผิด ก็ต้องรับผิดชอบเพราะฉะนั้นช่างแต่ละคนจะต้องผ่านการคัดกรองมาอย่างดีที่สุด

ธุรกิจที่ทำอยู่ในปัจจุบันนี้ มีบริษัทแม่อยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเปิดตัวมาเกือบ 2 ปี และเขาเล็งเห็นว่ามีการเติบโตได้สูงและรวดเร็ว จึงเริ่มสนใจที่จะร่วมทำธุรกิจนี้ด้วยกัน

วสวัตติ์ วสุธาสวัสดิ์ ขายรถมือสองไม่ใช่เรื่องยาก

“ตรงนี้เราไม่ได้ซื้อแฟรนไชส์ เราเป็นการค้าร่วมกัน ผมจบใหม่ผมมีไอเดีย แต่ผมพูดตามตรงว่าธุรกิจมีไอเดียอย่างเดียวไม่ได้จะเกิดเสมอไป มันต้องมีคนที่มีประสบการณ์ ผมมาเจอคาร์ซัมที่มาเลเซียเป็นผู้บริหารหนุ่มรุ่นใหม่เขามีวิสัยทัศน์ที่คล้ายกัน เลยคิดว่าผมอยากจะทำช่วยกันได้ เป็นคนรุ่นใหม่เหมือนกัน”

จุดเด่นของคาร์ซัม คือ การช่วยเหลือลูกค้าขายรถที่ต้องการจะขายโดยไม่ต้องยุ่งยากและต้องดำเนินการเองและอีกอย่างที่เขาเห็นว่าน่าสนใจคือความรวดเร็วในการดีลระหว่างลูกค้าที่ต้องการขายรถและเต็นท์รถ

“การดีลของทางเว็บนี้ ภายใน 24 ชั่วโมงก็ขายได้ ส่วนช้าสุดแล้วแต่ว่าลูกค้าจะเร็วกับเราไหม เพราะว่าเรามีประมูล จันทร์ พุธ ศุกร์ ถ้าลูกค้ามาตรวจสภาพรถวันอาทิตย์ ผมก็ประมูลให้ได้วันจันทร์ เราก็โอนเงินให้เขาก็จบ แต่ถ้าเขามาตรวจวันศุกร์ตอนเย็น ก็ต้องรอวันจันทร์ เพราะฉะนั้นช้าสุดที่ผมทำก็คือ 3 วัน”

การที่เขาเลือกทำธุรกิจนี้แทนที่จะรับช่วงและทำธุรกิจของที่บ้าน (นำเข้ารถยนต์ ทำลีสซิ่งและเต็นท์รถเช่นกัน) เป็นเพราะเขามองว่าคาร์ซัมสามารถเติบโตได้มากกว่าธุรกิจที่บ้านทำอยู่ แน่นอนว่าเขาเพิ่งจบใหม่ยังไม่มีประสบการณ์และความเชื่อถือ เพราะเป็นคนหน้าใหม่การยอมรับจึงต้องใช้เวลา แม้ว่าทางเต็นท์จะไว้ใจคุณพ่อของเขา แต่การซื้อของผ่านออนไลน์โดยไม่เห็นตัวรถก็สร้างความกลัวให้แก่เต็นท์อยู่ดี

“ก็บอกเขาว่า พี่ไว้ใจผมเถอะ พี่ยังซื้อรถผ่านนายหน้าผ่านไลน์เลย พี่ไว้ใจเขา ทำไมพี่ไม่ไว้ใจผม พอเราอธิบายเขาก็จะเริ่มเข้าใจ ผมพูดเสมอว่าถ้าผมผิดพลาด ผมรับคืน พี่ก็รู้ว่าบริษัทผมตั้งอยู่ตรงไหน ผมเปิดมา 30 กว่าปี บริษัทมีตั้งตรงนี้ ถ้ารถมีปัญหา พี่ก็แค่ขับมาคืน ผมไม่หนีไปไหนอยู่แล้ว เพราะทุกอย่างผมทำอยู่ตรงนี้ ผมก็ใช้แบรนด์ที่คุณพ่อคุณแม่ผมสร้างมาและใช้มาตรฐานที่ผมเซตไว้ในการตรวจสภาพรถยนต์เป็นการค้ำประกันว่าการซื้อรถผ่านออนไลน์ มันไม่ได้ยุ่งยากและไม่ต้องกลัวขนาดนั้นแล้ว”

วสวัตติ์ วสุธาสวัสดิ์ ขายรถมือสองไม่ใช่เรื่องยาก

เมื่ออุปสรรคเรื่องความไว้ใจได้ถูกแก้ไข เขาก็เร่งทำงานได้อย่างราบรื่นด้วยความที่ทำงานไว สะดวกสบาย ทำให้ภายใน 2 ปีที่ผ่านมาเขาทำยอดได้หลายพันดีล โดยมีเป้าหมายว่าภายในสิ้นปีนี้ อยากได้ยอดเดือนละ 700-800 คัน ที่ผ่านมายอดที่เขาทำในแต่ละเดือนตกอยู่ที่200 คัน แม้จะดูเหมือนเป็นการก้าวกระโดดที่สูงมาก แต่ที่ผ่านมายอดของเขาขยับขึ้นเท่าตัว เขาจึงตั้งเป้าหมายไว้เช่นนั้น และมองว่าภายใน 2-3 ปีหน้า ภายในอายุ 30 ปีแบรนด์คาร์ซัมจะต้องเป็นที่รู้จักได้มากกว่านี้แน่นอน

“อยากให้แบรนด์คาร์ซัม เป็นแบรนด์ที่ถ้าใครอยากจะขายรถอยากให้นึกถึงเรา เพราะจริงๆ แล้วเราอยากจะเป็นบริการที่ทุกคนเชื่อถือและรู้สึกว่าราคาที่ให้คือราคาสุทธิเพราะเราเพิ่งเปิดใหม่มา 2 ปี เขาก็ต้องคิดว่ามันได้จริงหรือเปล่า ราคาดีลกับเต็นท์หรือเปล่า ซึ่งเราดีลกับเต็นท์อยู่แล้วเพราะลูกค้าส่วนมากที่ซื้อก็เป็นเต็นท์รถ”

เพราะธุรกิจเพิ่งเริ่มต้น เขาจึงต้องทำงานเกือบตลอดเวลา แต่คิดว่างานเป็นสิ่งที่สนุก มีความสุขกับงาน มันเป็นสิ่งที่เห็นและจับต้องได้ และคิดตลอดว่าสิ่งที่ทำอยู่มันเติบโตขึ้นทุกวัน เพราะฉะนั้นการไปเที่ยวจึงไม่ใช่ความสุขของเขาอีกแล้ว

“ผู้บริหารที่ดีสำหรับผม คือ คนที่ต้องมุ่งมั่นและช่วยทุกคนแก้ปัญหาและมีความรับผิดชอบ มีความเชื่อมั่นในธุรกิจของตนเอง ผมมาไม่ถึงตรงนี้แน่นอน ถ้าไม่มั่นใจและหวั่นไหวกับคำพูดเชิงลบที่บั่นทอน แต่สำหรับผมผมไม่ได้คิดแค่ระยะสั้น ถ้าระยะสั้น ผมทำรถนำเข้ากับคุณพ่อคุณแม่ผมต่อแล้ว ซื้อมาขายไป จบง่าย แต่ผมมองยาวไกลกว่านั้น”

ข้อเสียของคนรุ่นใหม่ไฟแรง คือ อาจจะคิดเร็วทำเร็วเกินไป ก็พยายามที่จะช้าๆ ลงบ้าง และฟังให้มากขึ้น และสร้างทีมงานให้แข็งแกร่งเป็นที่ยอมรับ เขาจึงเริ่มลดสเต็ปความเร็วของตนเองลงและเริ่มทำความเข้าใจกับระบบการทำงานของลูกน้องมากขึ้น ซึ่งการทำงานไม่ว่าจะงานอะไร ธุรกิจแบบไหนแน่นอนว่ามันต้องมีช่วงหนึ่งที่รู้สึกแย่ หรือท้อกับอะไรหลายๆ ยิ่งต้องพิสูจน์ตัวเองทำงานให้เห็นผลลัพธ์มีการเติบโตที่เห็นได้จริง เป็นบริษัทรถยนต์มือสองที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยและครบวงจรที่สุดอีกด้วย

เขาจบการศึกษานั้นเขาจบชั้นประถมที่โรงเรียนแฮร์โรว์ แล้วไปต่อไฮสกูลที่ประเทศอังกฤษ จนจบปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์ และจบประกาศนียบัตรอีกใบด้านบริหารการเงินที่ประเทศอังกฤษเช่นกัน หลังจากนั้นไปเรียนต่อปริญญาโท ด้านบริหารยานยนต์ ที่ประเทศเยอรมนี และได้ไปฝึกงานที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจออกแบบรถยนต์ให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง จึงกลับมาทำธุรกิจของตัวเอง