posttoday

เกรซ ล้อบุณยารักษ์ เรื่องสุขภาพต้องลงทุน

26 พฤษภาคม 2559

ในวันที่แดดจัดอากาศร้อนจนแทบละลาย เรามีนัดกับหญิงสาวรูปร่างกะทัดรัด หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสเสียงดังฟังชัด

โดย...อณุสรา ทองอุไร ภาพ...  ภัทรชัย ปรีชาพานิช

ในวันที่แดดจัดอากาศร้อนจนแทบละลาย เรามีนัดกับหญิงสาวรูปร่างกะทัดรัด หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสเสียงดังฟังชัด เธอเป็นนักธุรกิจสาววัย 30 เศษๆ ที่สร้างเนื้อสร้างตัวมาตั้งแต่จบจากมหาวิทยาลัยในวัย 20 ต้นๆ ใช้เวลาเพียง 10 กว่าปี เธอสามารถปั้นธุรกิจให้มีเงินสะพัดหมุนเวียนในระดับหลายร้อยล้านบาทด้วยความมุมานะอุตสาหะทุ่มเทกับงานอย่างเต็มที่

เกรซ ล้อบุณยารักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมคโคร ไบโอติกส์ ผู้นำเข้าอาหารเสริมสุขภาพจากสหรัฐอเมริกา ผู้บริหารสาวรุ่นใหม่ไฟแรงที่กล้าคิดนอกกรอบและทำในสิ่งที่ตัวเองรัก จนเกือบจะขึ้นแท่นว่าที่นักธุรกิจพันล้านคนล่าสุดของประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้ เธอเล่าย้อนหลังให้ฟังว่าครอบครัวของเธอประกอบธุรกิจโรงงานผลิตเส้นจันท์ส่งออกไปยังหลายประเทศในแถบเอเชียมีโรงงานผลิตอยู่ที่ภาคเหนือ เธอจึงเลือกเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร (Food Science) จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อหวังจะมาช่วยต่อยอดธุรกิจของบ้านที่ จ.แพร่

หลังจากเรียนจบปริญญาตรีแล้ว เธอกลับพบว่าไม่ได้ชอบงานแบบที่ครอบครัวทำอยู่ และโชคดีที่มีพี่ๆ ช่วยอยู่แล้ว จึงขออนุญาตคุณพ่อสร้างธุรกิจใหม่ของตัวเอง โดยธุรกิจที่เธอสนใจนั้นเป็นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สร้างโครงการบ้านจัดสรร ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ การลงทุนในที่ดินเปล่าซื้อมาขายไป หรือซื้อมาเพื่อพัฒนาโครงการ โดยเริ่มทางภาคเหนือตามถิ่นกำเนิดของเธอ โดยร่วมหุ้นกับพี่สาวอีกคน ในชื่อบริษัท อัญชลี เรียลเอสเตท ทำโครงการบ้านอมันตรา ที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ รวมๆ กว่า 1,000 หลังคาเรือน

เกรซ ล้อบุณยารักษ์ เรื่องสุขภาพต้องลงทุน

“คือคุณพ่อก็ทำอยู่บ้างแต่ไม่จริงจังเท่าไหร่ ท่านทำโครงการเล็กๆ เราเห็นงานตรงนี้ว่ามันมีศักยภาพ มีตลาดที่น่าจะเติบโตได้อีก ก็เลยขอคุณพ่อทำ โดยเราแยกออกมาทำเองเลยตอนอายุ 22 ปี คือเรียนจบปุ๊บก็มาทำปั๊บมีคุณพ่อเป็นที่ปรึกษา เป็นผู้ค้ำประกันให้ ที่เหลือเธอก็ไปกู้ธนาคารเขียนโครงการเริ่มลุยเองทุกขั้นตอนตั้งแต่หาที่ดิน เลือกแบบงาน คุยกับสถาปนิก คุยกับวิศวกร คุมงานก่อสร้างอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ดูการตลาดการขายเอง ก็ถือว่าเป็นงานที่หนักเหนื่อยและไม่ง่ายเลยมีเรื่องจุกจิกเยอะ โดนโกงก็มี ฟ้องร้องขึ้นศาลกันก็มี โดยเฉพาะช่วงแรกๆ นี่เราเป็นผู้หญิงหน้าใหม่เพิ่งจบไม่มีประสบการณ์โดนลองของบ่อยมาก โดนขู่ฆ่าก็มี แต่เราก็ฟันฝ่ามาจนถึงวันนี้ได้ก็สาหัสเหมือนกัน แต่เราก็ผ่านมาถึงจุดนี้ได้ทำให้เราเป็นคนเข้มแข็งสู้ไม่ถอยไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มภูมิใจ

จนถึงวันนี้มูลค่าสินทรัพย์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเธอนั้นเกือบ 1,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันเธอเริ่มลดบทบาทลง โดยจ้างมืออาชีพเข้ามาดูแลมากยิ่งขึ้น ไม่ลุยเดี่ยวเหมือนยุค 4-5 ปีแรก ประกอบกับช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มซบเซา เธอจึงเริ่มชะลอโครงการลงไม่ทำปีละหลายๆ โครงการหมือนเช่นที่ผ่านมา ซึ่งจากการทำธุรกิจเป็นของตัวเองมาตลอด 12 ปีนั้น ทำให้เธอเติบโตเข้มแข็งและเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก

กระทั่งเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมาคุณพ่อของเธอเริ่มเจ็บป่วย มีปัญหาสุขภาพอย่างรุนแรง เธอจึงเริ่มลดงานน้อยลงเพื่อแบ่งเวลามาดูแลคุณพ่ออย่างใกล้ชิด และเริ่มหันมาสนใจใส่ใจในเรื่องสุขภาพอย่างจริงจังและเข้มข้นขึ้นทุกขณะจนกระทั่งล่าสุด เธองดเนื้อสัตว์ใหญ่ และพัฒนามาเป็นมังสวิรัติมา 3 ปีกว่าแล้ว เรียกได้ว่าเป็นสาวรักสุขภาพมากๆ

เกรซ ล้อบุณยารักษ์ เรื่องสุขภาพต้องลงทุน

 

เธอเล่าว่ากินอาหารเพื่อสุขภาพมานานมาก ก่อนที่จะฮิตอย่างในปัจจุบันเสียอีก ยามว่างของเธอชอบการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ โดยชอบไตรกีฬามากที่สุด หากมีการจัดแข่งไตรกีฬาเมื่อไรจะต้องมีเธออยู่ในเกือบทุกครั้ง และปกติเธอจะวิ่งเครื่องวิ่งที่บ้านทุกวัน เพราะนอกจากได้ออกกำลังกายตามประสาคนรักสุขภาพ เธอบอกว่ายังเป็นวิธีคลายเครียดชั้นเลิศของเธอ

นอกจากนี้ เธอยังศึกษาเรื่องแพทย์ทางเลือกมากขึ้น เพราะคุณพ่อป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง จนกระทั่งทุกวันนี้คุณพ่อหายเป็นปกติ ทำให้เกรซมีความฝันที่จะสร้างศูนย์ดูแลสุขภาพจากแพทย์ทางเลือก เพราะอยากจะแบ่งปันสุขภาพที่ดีให้คนทั่วไป โดยหวังว่าจะให้พวกเขาเหล่านั้นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จากที่นอนป่วยอยู่ก็สามารถลุกขึ้นมาช่วยเหลือตัวเองได้

ล่าสุด ได้จัดโปรเจกต์แชริตี้ทำสิ่งดีๆ ตอบแทนสังคม เดอะกิฟเวอร์ โปรเจกต์ 1 (The Giver Project 1) ขึ้นมา เพื่อหารายได้สมทบทุนช่วยเหลือวัดพระบาทน้ำพุ เนื่องในวันเอดส์โลก 1 ธ.ค. และเขียนหนังสือที่ให้ความรู้เรื่องสุขภาพ โดยนำประสบการณ์จากการดูแลรักษาคุณพ่ออย่างใกล้ชิดของเธอชื่อ กินกันตาย เป็นบันทึกเรื่องเล่าจากประสบการณ์คนป่วยใกล้ตายที่หายจากโรคร้ายแค่กินผัก กินหญ้า เท่านั้น

เกรซ ล้อบุณยารักษ์ เรื่องสุขภาพต้องลงทุน

 

“หลังจากที่คุณพ่อป่วยมา 4 ปีกว่านี่เราหมดเงินในการรักษามากมายและโชคดีที่รักษาหายกลับมาเกือบเท่าเดิม ทำให้ได้สติขึ้นมาว่า ต่อให้มีเงินมากมายแต่สุขภาพย่ำแย่ชีวิตก็แทบจะหาความสุขไม่ได้เลย ทั้งตัวคนป่วยเองและคนรอบข้าง ดังนั้นถ้าจะลงทุนเรื่องการทำธุรกิจหาเงินทองมากมายเพื่อให้ได้ผลกำไร เราก็ควรจะมาลงทุนเรื่องสุขภาพกันด้วยในการดูแลให้ร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ มีเวลาออกกำลังกาย ได้เลือกอาหารสุขภาพดีๆ มีเวลาทำอาหารดีๆ กินเองบ้าง ได้เลือกอาหารเสริมบำรุงสุขภาพดีให้กับตัวเอง เมื่อก่อนไม่สนใจว่าต้องกินอาหารเสริมคิดว่าไม่จำเป็น จนกระทั่งคุณพ่อป่วยถึงรู้ว่าหลายครั้งอาหารปกติที่กิน มันไม่เพียงพอบางอย่างเราต้องหาอาหารเสริมเป็นตัวช่วยในยามที่เราเจ็บป่วย ถึงเริ่มนำเข้าเมื่อต้นปีที่ผ่านมา”

เกรซ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตอนที่ยังเป็นหนุ่มเป็นสาวร่างกายยังแข็งแรง มนุษย์เราอาจจะยังไม่เห็นความจำเป็นว่าต้องดูแลสุขภาพเรื่องอาหารการกิน เรื่องการออกกำลังกาย การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จนกระทั่งเข้าสู่วัยกลางคนโรคภัยไข้เจ็บเริ่มมาเราถึง จึงรู้ว่าการมีร่างกายที่แข็งแรงนั้นเป็นลาภอันประเสริฐ รีบดูแลร่างกายเสียแต่วันนี้เพื่อที่จะเป็นคนสูงวัยที่แข็งแรงเป็นคนแก่ที่มีความสุขทั้งร่างกายและจิตใจ