ดนตรี กีตาร์ ความสุขเล็กๆ ของ ศรัณย่า ชุณหศาสตร์
สาวน้อยน่ารักตาคมคนนี้มีนามว่า “เจด้า” ศรัณย่า ชุณหศาสตร์ เป็นนักแสดงรุ่นใหม่จากค่าย 7 สี
โดย...แมงโก้หวาน ภาพ : กิจจา อภิชนรจเลข
สาวน้อยน่ารักตาคมคนนี้มีนามว่า “เจด้า” ศรัณย่า ชุณหศาสตร์ เป็นนักแสดงรุ่นใหม่จากค่าย 7 สี ที่ตอนนี้มีผลงานละครอยู่ 2 เรื่องคือ ทอง 10 (กำลังถ่ายทำ) กับ จุมพิตพยัคฆ์สาว ซึ่งเธอรับบทเป็นแม่มด (ถ่ายทำและออนแอร์ไปด้วยทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 18.20 น.) ก่อนนี้มีผลงานภาพยนตร์ เรื่อง ศรีธนญชัย 555+ ละครหัวใจเถื่อน และเพลงรักเพลงลำ ทางช่อง 7 ปัจจุบันกำลังศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
นอกจากจะชอบการแสดงแล้ว เจด้ายังชอบดนตรีและเสียงเพลง เธอว่าดนตรีคือส่วนหนึ่งของชีวิต ในยามที่จิตปกติก็ให้ความสุขและความบันเทิง และเหมือนยาวิเศษในยามที่รู้สึกแย่ที่ทำให้มีกำลังใจที่ดีในการยืนหยัดต่อไปในวันข้างหน้า
“เจชอบกีตาร์ค่ะ ตัวนี้เลย เล่นทุกวัน เวลาที่เราอยู่บ้าน อยู่ในห้อง ไม่ตายตัวว่าต้องเล่นเวลานั้นเวลานี้ แต่ต้องได้หยิบมาเล่นตลอด บางครั้งเวลาไปเที่ยว เช่น ไปทะเลกับเพื่อนๆ หรือไปพักผ่อนกับครอบครัวก็จะเอากีตาร์และหนังสือเพลงไปด้วย เพราะคิดว่ายังไงก็คงต้องได้ใช้ มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเจไปแล้วค่ะ”
พูดถึงฝีมือการเล่นกีตาร์เธอบอกยังห่างไกลนักดนตรีมืออาชีพ แต่ก็เล่นได้หลายเพลงส่วนใหญ่เป็นเพลงช้าและชอบเพลงแนวนี้ ทว่ายังต้องหมั่นฝึกฝนทุกวันจากในหนังสือเพลง ทั้งเวลาอยู่บ้านและเวลาไปเที่ยวพักผ่อนที่ต่างจังหวัดกับครอบครัว บางทีกับเพื่อนๆ เพราะไม่เคยไปเรียนที่โรงเรียนสอนดนตรีที่ไหนมาก่อน
เธอเผยแรงบันดาลใจที่ทำให้มาฝึกเล่นกีตาร์และชอบกีตาร์ เนื่องมาจากได้ดูนักดนตรีมือกีตาร์คนหนึ่งของวงบอดี้สแลมที่เคยไปเล่นที่โรงเรียนสมัยเรียนมัธยมแล้วชอบ จากความชอบวันนั้นจึงนำมาสู่การขวนขวายและฝึกฝนเรื่อยมา โดยมีคุณพ่อคอยสอนให้ในช่วงแรกๆ พอรู้โน้ตก็เริ่มฝึกเองจากหนังสือเพลง
“จริงๆ แล้วชอบวงบอดี้สแลม วันหนึ่งได้มาเล่นที่โรงเรียน เจจะชอบพี่ยอดมือกีตาร์ เวลาที่พี่เขาเล่นบนเวทีเท่มากเลย ณ ตอนนั้นพี่เขาเล่นอย่างมีความสุขดูแล้วอินไปด้วย ความรู้สึกเจตอนนั้นอยากเล่นกีตาร์เป็นเหมือนพี่เขา จากนั้นมาก็หากีตาร์มาฝึกโดยมีคุณพ่อเป็นคนสอนให้ ซึ่งคุณพ่อเองก็ไม่ได้เป็นนักดนตรี แต่ท่านมีพื้นฐานอยู่ คุณพ่อสอนยังไงก็ทำตามนั้น บางทีเรียนแบบครูพักลักจำ ไม่ได้เรียนเป็นโน้ตเป็นเมโลดี้”
ช่วงแรกของการฝึกฝนเธอบอกเจอปัญหาหลายอย่าง เช่น นิ้วสั้นจับคอร์ดไม่ถึง และเจ็บนิ้วจนถอดใจไปพักหนึ่ง แต่ด้วยคำพูดของพ่อทำให้เธอกลับมาสู้ต่อจนทุกวันนี้สามารถเล่นเพลงได้หลายเพลงทั้งเพลงเร็วเพลงช้า แต่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นเพลงช้า ซึ่งเป็นแนวที่เธอชอบและถนัด
“เจฝึกกีตาร์ตั้งแต่อยู่ ม.2 ปัญหาที่เจอในการฝึกคือนิ้วสั้น เวลาจับคอร์ดจะลำบากมาก แต่ที่หนักเลยคือเจ็บนิ้ว เป็นความเจ็บที่ทำให้ถอดใจไปพักใหญ่ๆ ไม่เอาเลย จนวันหนึ่งคุณพ่อบอกว่าการฝึกกีตาร์ถ้าปล่อยไว้ไม่ยอมฝึกต่อมันจะค่อยๆ หายไป จะไม่เหมือนขี่จักรยานที่ขี่เป็นแล้วก็ขี่ไปได้ตลอด แต่กีตาร์ถ้าเล่นแล้วหยุด มันจะหายไป เจเลยกลับมาฝึกต่อที่ละนิดมาเรื่อยๆ จนจับคอร์ดได้ จากคอร์ดหนึ่งไปคอร์ดสองสามสี่จนกลายเป็นเพลง พัฒนาไปเรื่อยๆ จนทุกวันนี้เล่นได้หลายเพลง แต่เจจะชอบเพลงช้าๆ เพราะไม่ต้องเปลี่ยนคอร์ดเร็ว แล้วเวลาเล่นรู้สึกได้อยู่กับเพลงจริงๆ ส่วนเพลงที่เล่นครั้งแรกคือ กำลังใจ ของโฮป คุณพ่อเป็นคนสอน ฝึกนานมากกว่าจะเปลี่ยนคอร์ด แต่ถ้าชอบที่สุดคือ เดือนเพ็ญ ของคาราบาวค่ะ”
ทุกวันนี้ แม้จะเล่นได้หลายเพลง เจด้ายังคงฝึกฝนอยู่ตลอด เพราะมีเพลงที่ชื่นชอบหลายเพลงที่ต้องเล่นให้ได้ ดังนั้นบ้านและห้องนอนจึงเป็นโรงเรียนสอนดนตรีไปโดยปริยาย ส่วนวิธีการฝึกฝนเธอเลือกฝึกตามหนังสือเพลงอยู่ในห้องเพียงลำพัง ขณะที่เพลงไหนที่เล่นไม่เป็นก็จะเปิดดูในอินเทอร์เน็ตและถามคุณพ่อ
“การฝึกของเจจะฝึกโดยดูตามหนังสือเป็นส่วนใหญ่ บางเพลงเล่นไม่เป็น เล่นไม่ได้ ก็เปิดดูในอินเทอร์เน็ต แล้วเวลาฝึกเจจะเข้าไปฝึกในห้องคนเดียว ไม่ให้คุณพ่อคุณแม่หรือพี่สาวเข้าไปค่ะ เพราะเขิน (หัวเราะ) แต่ถ้าเล่นเป็นแล้วสบายๆ เล่นโชว์ให้ทุกคนดูเลย ส่วนใหญ่ถ้าเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์จะฝึกช่วงเช้าๆ เพราะอากาศกำลังดี ตื่นเช้ามาจิตใจแจ่มใสปลอดโปร่ง
ถ้าวันธรรมดาตอนดึกๆ ก็จะมานั่งเล่นคนเดียวเพลินๆ สบายๆ นอกห้องบ้าง แต่ส่วนใหญ่เล่นในห้องมากกว่า เป็นความสุขที่หาได้ไม่ยากในห้องนอนเราเอง ส่วนวันที่อยากเล่นมากที่สุดคงเป็นวันที่การบ้านเยอะ (หัวเราะ) ต้องผ่อนคลายก่อน เพราะไม่อย่างนั้นทำการบ้านไม่ออกค่ะ เพลงที่เล่น เช่น ฤดูที่แตกต่าง ของ นภ พรชำนิ หรือ เพลงลีฟ แอนด์ เลิร์น ที่เป็นเพลงแนวให้กำลังใจ ประมาณนี้”
เจด้าออกตัวว่า ทุกวันนี้ฝีมือการเล่นกีตาร์ของเธอยังไม่เก่งระดับนักดนตรีมืออาชีพ แต่การที่เล่นได้ขนาดนี้ก็เป็นความภูมิใจอย่างยิ่ง ซึ่งต้องขอบคุณคุณพ่อของเธอที่ทำให้กลับมาสู้ต่อจนมีวันนี้ได้ ไม่อย่างนั้นกีตาร์ตัวนี้อาจจะไม่อยู่ข้างกายเธอก็เป็นได้


