posttoday

นิรุทธ์ โสปรก ขอเป็นคนดีของสังคม

28 พฤษภาคม 2558

เอกกี้-นิรุทธ์ โสปรก เมกอัพ อาร์ติสต์ ประจำแบรนด์เครื่องสำอางทูเฟซ ชายหนุ่มวัย 30 ต้นๆ ผู้มีหัวใจอ่อนหวาน

โดย...ชมดาว เสกสรร  โรจนเมธากุล

เอกกี้-นิรุทธ์  โสปรก เมกอัพ อาร์ติสต์ ประจำแบรนด์เครื่องสำอางทูเฟซ ชายหนุ่มวัย 30 ต้นๆ ผู้มีหัวใจอ่อนหวาน ค้านกับรูปร่างที่สง่างามสมชาย เอกกี้บอกว่าเขาเป็นลูกชายคนเล็กของครอบครัวจากพี่น้องทั้งหมด 5 คน และแววความอ่อนหวานแบบผู้ชายดอกไม้ของเขาก็ปรากฏมาตั้งแต่วัยไม่ถึง 10 ขวบ โชคดีที่ว่าพี่ชาย พี่สาว และพ่อแม่ยอมรับได้ในแบบที่ลูกเป็น ไม่ได้ส่งเสริม แต่ก็ไม่ได้กดดัน

ขอให้เป็นคนดีของสังคม...

ขอเพียงแค่ทำตัวให้อยู่ในความสงบ (ฮา) อย่าดีดดิ้นหวีดว้ายกระตู้ฮู้ เมื่ออยู่ในวงสังคมมากเกินไป ที่สำคัญขอให้เป็นคนดีรู้จักหน้าที่ของตน ตอนเป็นเด็กมีหน้าที่เรียนก็เรียนให้ดี  เมื่อเรียนจบทำงานก็ทำงานให้ดีสร้างเนื้อสร้างตัวเลี้ยงตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัย นั่นคือสิ่งที่ครอบครัวเขาขอเพียงเท่านี้

“ผมก็ถือว่าตัวเองโชคดีมากในเรื่องนี้ เพราะครอบครัวยอมรับ เราไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ปิดบังให้อึดอัดใจ แรกๆ เหมือนพี่ชายก็พยายามจะท้วงติงดึงเรากลับมาในที่ในทาง แต่เขาก็รู้ว่าสิ่งที่เป็นไม่ใช่แค่หวัดแล้วจะหายง่ายๆ เขาก็ไม่ดึงดัน ก็ขอให้วางตัวให้เรียบร้อยหน่อยอย่าเยอะ (หัวเราะ) เราก็เข้าใจ เขารับเราได้ขนาดนี้ทำไมเรื่องแค่นี้เราจะทำให้ไม่ได้ เมื่ออยู่ที่บ้านกับผู้ใหญ่เราก็จะไม่ออกอาการมาก แต่ถ้าอยู่กับเพื่อนก็เต็มที่” เอกกี้ กล่าวอย่างอารมณ์ดี

เอกกี้ บอกให้ฟังว่าเขาเรียนจบปริญญาตรีที่ราชภัฏฉะเชิงเทรา ด้านบริหารการจัดการ แล้วไปเรียนต่อวิชาชีพครูเพิ่มอีก 1 ปี เขาก็เลยได้ไปเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนเทคโนโลยีที่ จ.ฉะเชิงเทรา เราอยู่ 5 ปีเต็ม เขาเล่าว่าตอนสอนหนังสือก็ชอบเพราะเป็นอาชีพที่ดีและมีเกียรติ ตอนที่เป็นครูเขาต้องเก็บอาการเยอะมาก เพื่อทำตัวให้เหมาะสมกับวิชาชีพที่ทำ ไม่อยากให้เป็นที่จับจ้องให้เป็นที่กวนใจของใครๆ แต่ทุกสิ่งล้วนมีเวลาของมัน เริ่มแล้วก็จบในเวลา 5 ปีพอดี

นิรุทธ์ โสปรก ขอเป็นคนดีของสังคม

 

หาสิ่งที่ชอบทำสิ่งที่ใช่...

ชีวิตเขานั้นนับว่ามีสีสันตระการใจมาก ออกจากครูปั๊บก็มาเป็นแดนเซอร์อยู่ที่ จ.ระยอง อยู่ 2 ปี เพราะชอบเต้นรำและมีทักษะทางด้านนี้พอสมควร ก็เลยอยากลองทำอะไรที่เราชอบจริงๆ ก็เป็นอยู่ 2 ปี ก็ลาออก เข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯ

เข้าสู่วงการความงาม โดยเป็นเมกอัพให้แก่แบรนด์เครื่องสำอางยี่ห้อดังของญี่ปุ่นและฝรั่งอยู่ 2-3 แบรนด์ ร่วม 3 ปี แล้วก็ค้นพบว่าเป็นงานที่เขาถนัดและมีความสุขที่ได้ทำ ก็คือการเป็นเมกอัพ อาร์ติสต์นี่เอง จนล่าสุดมาอยู่ที่แบรนด์ทูเฟซ แต่เขาก็ยังมีงานอดิเรกเต้นโชว์ตามงานที่เพื่อนๆ เรียกตัวให้ไปช่วยบ้างเป็นครั้งคราว ซึ่งเขาถือว่าเป็นของหวานในชีวิตที่ให้ได้แต่งตัวปลดปล่อย นอกเหนือไปจากงานประจำที่ทำอยู่

นิรุทธ์ โสปรก ขอเป็นคนดีของสังคม

ต้องรักอย่างสร้างสรรค์...

ทางด้านสถานภาพของหัวใจนั้น หลังจากคบกับแฟนหนุ่มมาหลายปี เขาเพิ่งโสดมาได้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ก็ถือว่าเจ็บปวดกับเรื่องหัวใจมาไม่น้อย เพราะเขาเองก็หวังว่าจะเจอรักแท้ที่อยู่กันได้ยั่งยืนนาน แต่ความรักของเขาส่วนใหญ่อายุสั้นอยู่กัน 2-3 ปี ก็เลิกลาไปซะทุกครั้งไป ซึ่งเขาก็เพลียใจกับเรื่องนี้ไม่น้อยเลย

“ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหน ชายจริง หญิงแท้  เกย์ ทอม ดี้ เชื่อว่าทุกคนก็โหยหาอยากเจอรักแท้กันทั้งนั้นนะ แต่น้อยคนที่จะโชคดีในเรื่องนี้ โดยเฉพาะเพศที่ 3 อย่างเรานี่โอกาสน้อยมากที่จะอยู่กันจนแก่เฒ่า อกหักแต่ละครั้งผมก็ย่ำแย่ยับเยิน ถึงขั้นเคยคิดสั้นก็มี แต่ในที่สุดเราก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ รักตัวเอง รักครอบครัวให้มาก เพราะพ่อแม่ พี่น้อง คือคนที่ยืนเคียงข้างเราได้ทุกสถานการณ์ เราจะดี เลว นิสัยแย่ยังไงเขาก็ไม่มีเงื่อนไขกับเราให้อภัยเราได้เสมอไม่ว่าเราจะผิดพลาดมาแล้วกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง” เขากล่าวเศร้าๆ

หลังจากที่ผ่านเรื่องร้ายๆ ของความรักจนอยากคิดสั้น เมื่อได้ประสบการณ์แล้วเขาก็คิดว่า รักตัวเองให้เป็นและรักคนอื่นอย่างมีสติ มีความรักให้สร้างสรรค์ไม่คิดทำร้ายตัวเองและทำร้ายคนอื่น และจะไม่คิดสั้นแบบนั้นอีกแน่นอน

นิรุทธ์ โสปรก ขอเป็นคนดีของสังคม

ปลูกบ้านให้พ่อกับแม่...

หลังจากหัวใจว่างมาพักใหญ่เขาก็เริ่มเดินหน้าต่อไป ด้วยความมุ่งมั่นว่านับแต่นี้ต่อไปจะไม่ให้ความรักมาเป็นทั้งหมดของชีวิตอีกแล้ว แค่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตก็พอแล้ว เวลาที่เหลือนับจากนี้เขาจะมุ่งมั่นสร้างเนื้อสร้างตัว และร่วมกับพี่ๆ น้องๆ ลงเงินกันช่วยปลูกบ้านใหม่ให้พ่อกับแม่ ที่ จ.ฉะเชิงเทรา อยากให้พ่อแม่อยู่บ้านดีๆ สบายๆ มีบริเวณ ท่านแก่แล้วขึ้นลงบันไดลำบากจะทำห้องใหม่ให้ท่านชั้นล่าง

“ตอนนี้เราก็เริ่มปลูกบ้านแล้ว ผมก็มีรายได้พิเศษอะไร ก็โอนเงินให้แม่หมด บ้านจะได้เสร็จไวๆ ท่านจะได้ภูมิใจปลื้มใจในสิ่งที่ลูกๆ ทำให้ผมจะมีหลานให้ท่านได้อุ้มเหมือนคนอื่นก็ไม่ได้ นี่เป็นสิ่งง่ายๆ ที่สุดที่ผมจะตอบแทนท่านได้พอให้ท่านสุขสบายในบั้นปลายชีวิต นอกเหนือจากการเป็นคนดี” เขากล่าวอย่างมุ่งมั่น

นิรุทธ์ โสปรก ขอเป็นคนดีของสังคม

วางตัวให้ดี...

เขาบอกว่าทุกวันนี้สังคมเปิดกว้างยอมรับเพศที่ 3 มากขึ้น นั่นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่มีคนใจกว้างให้โอกาส แต่ขณะเดียวกันเพศที่ 3 ทุกคนก็ต้องพยายามใช้ชีวิตให้ดีไม่เป็นภาระของสังคม รู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่  ทำงานในอาชีพให้ถูกต้องเหมาะสม อย่าทำตัวให้เยอะให้ล้นจนน่ารำคาญ เป็นเกย์ไม่จำเป็นต้องเปรี้ยว ซ่า ใส่อารมณ์ความรู้สึกจนคนรอบตัวขนลุกแบบนั้นก็ไม่งาม คือสุภาพเรียบร้อยเข้าไว้เป็นดีที่สุด เมื่ออยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่ในกลุ่มเพื่อนฝูงของตน

เขาเองเมื่อเจอพวกที่ล้นๆ เยอะๆ ก็ยังรู้สึกว่าไม่งาม อย่างไรเสียการเดินสายกลางนั้นดีที่สุด ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป ยิ่งเราทำตัวให้ดี ให้เหมาะสมเท่าใดก็ยิ่งเป็นที่รักและเป็นที่ยอมรับมากเท่านั้นดีกับตัวเราเองด้วย

นิรุทธ์ โสปรก ขอเป็นคนดีของสังคม

 

อยากมีกฎหมายรองรับ...

ส่วนสิ่งที่เขาอยากจะฝากเรียกร้องคงเป็นเรื่องของการออกกฎหมายอนุญาตให้คู่รักเพศที่ 3 สามารถจดทะเบียนสมรสกันได้ เพราะถึงอย่างไรคู่รักแบบเขาก็ต้องการความมั่นคงเวลาที่ช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมา “หรือเวลาเจ็บไข้ได้ป่วยจะได้ดูแลกัน เพราะถ้าจดทะเบียนไม่ได้ก็มักจะมีปัญหาเวลาสิ่งที่เราสร้างมาด้วยกันจะตกเป็นของคนอื่น เวลาป่วยไข้ก็ตัดสินใจให้กันไม่ได้ทั้งที่เราเป็นแฟนกันมานานดูแลกันมานาน บางคนตั้งบริษัททำธุรกิจด้วยกันมาเราเองก็ต้องการความมั่นคง มั่นใจด้วยเช่นกัน” เขากล่าวทิ้งท้าย