กรกมล เจริญชัย ทั้งเรียน ทั้งทำงาน ประสบการณ์ท่วมท้น

โดย...ชมดาว / ภาพ ทวีชัย ธวัชปกรณ์

เดี๋ยวนี้คนอีสานบ้านเราหน้าตาสวยแจ่มกันไม่แพ้คนกรุงเทพฯ เลยทีเดียว โดยเฉพาะหนุ่มสาวจาก จ.ขอนแก่น นั้นหน้าสวยระดับพระเอกนางเอกกันเยอะเลย ก็ดารา นักร้อง ดังๆ ตอนนี้ก็มาจากขอนแก่นกันหลายคนเลยล่ะ ล่าสุดสาวสวยคนนี้ก็มาจากขอนแก่นเหมือนกัน หน้าหวาน หุ่นดี ดีกรีนางเอก
น้องกิ๊ก-กรกมล เจริญชัย สาวสวยวัย 21 ปี กำลังเรียนอยู่ปี 4 มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะวิทยาการจัดการ สาขาการโรงแรมและการท่องเที่ยว

มิสกอสซิป 2010 ...
ระดับความสวยก็ไม่ธรรมดานะค้า... เพราะชนะการประกวด GOSSIP GIRLS 2010 และยังเป็นนางเอกภาพยนตร์เรื่อง “Art idol อยากให้เธอรู้ว่ากูติสท์” หนังรักวัยรุ่นที่มีครบทุกอารมณ์ ที่กำลังจะเข้าฉายปลายเดือนนี้ เธอรับบทเป็นนางเอกของเรื่องชื่อ ฝุ่น
นอกจากนี้ กิ๊กยังเคยผ่านงานโฆษณาเล็กๆ น้อยๆ มาบ้าง ถ่ายแฟชั่น DeepMarine Whey, ถ่ายแฟชั่น, MV เพลง เพิ่งรู้ว่า รัก รัก รัก–รวมศิลปิน Mono Music, MV เพลง หมาหลงทางด่วน ของ ดำ ก้องภพ ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ โฆษณา Tea Break, พิธีกรรายการ Star Bazaar คลื่นซ่าส์
น้องกิ๊ก บอกว่า ปกติไม่เคยไปประกวดอะไรที่ไหนมาก่อน เวทีกอสซิปเป็นเวทีแรก ตอนเรียนมหาวิทยาลัยปี 2 แล้ว เขามารับสมัครที่มหาวิทยาลัย ก็เลยได้สมัคร ปกติเป็นคนไม่ค่อยกล้า มีคนชวนให้ไปประกวดหลายครั้ง แต่ต้องเข้ามาสมัครที่กรุงเทพฯ ก็เลยไม่เคยมาสักที ขี้เกียจเข้ากรุงเทพฯ รถติด เธอบอกว่าไม่ค่อยชินกับกรุงเทพฯ เท่าไหร่ เพราะเธอเกิดและโตที่ขอนแก่น เป็นคนขอนแก่นแต่กำเนิด
“หนูเป็นคนขี้อาย ไม่เคยขึ้นเวทีต่อหน้าคนเยอะๆ เป็นคนตื่นคนเยอะค่ะ แต่คุณแม่บอกว่าลองดูสักครั้งจะได้มั่นใจตัวเองกว่านี้หน่อย ก็เลยลองดู แล้วโชคดีที่ประกวดเวทีแรกก็ได้เลย” เธอกล่าวยิ้มแย้ม

เรียนไป ทำงานไป ได้ประสบการณ์...
น้องกิ๊ก เล่าถึงประสบการณ์การทำงานครั้งแรกของเธอว่า เป็นสิ่งที่ดีและท้าทาย ได้เรียนรู้หลายอย่างที่เราไม่เคยทำมาก่อน ได้ไปเข้าคอร์สเรียนแอ็กติง ได้ทำงานกับพี่ๆ ที่โตและมีประสบการณ์มากกว่า อะไรที่ไม่เคยกล้า ก็ได้ลองทำมากขึ้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ให้เราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น รู้จักใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ มีค่าขนมเป็นของตัวเอง
“เมื่อก่อนหนูไม่กล้ามากรุงเทพฯ คนเดียว กลัว เดี๋ยวนี้นั่งรถทัวร์มาคนเดียว บางทีก็ได้ขึ้นเครื่องบินมาคนเดียว กล้าพูดกับคนแปลกหน้ามากขึ้น หายตื่นคนไปได้เยอะ เมื่อก่อนบุคลิกหนูจะหงอๆ จ๋องๆ ตอนนี้ดีขึ้นมาก ดูสง่าผ่าเผยขึ้นเล็กน้อย” น้องกิ๊ก กล่าวอย่างมั่นใจขึ้น
แม้เริ่มจะมีงานเข้ามามากขึ้น แต่น้องกิ๊กบอกว่าอย่างไรซะ เรื่องเรียนก็ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ตอนประกวดได้ชนะเลิศนั้นเธออยู่ปี 2 กำลังจะขึ้นปี 3 ก็มีพี่ๆ แนะนำว่าให้ย้ายมาเรียนที่กรุงเทพฯ แต่เธอไม่ยอม ยืนยันจะยอมเหนื่อยเดินทางเข้ามากรุงเทพฯ ทุกอาทิตย์เพื่อมาเป็นพิธีกรรายการบันเทิงของช่องเคเบิลซ่าส์ทีวี
“คือหนูคิดว่าหน้าที่หลักของหนูคือเรียน ส่วนงานวงการบันเทิงก็ดี ยังไงก็ต้องแบ่งบทบาทให้ชัด เพราะมันเป็นงานผิวเผิน จะยึดเป็นอาชีพยาก ดาราสมัยนี้เข้ากันง่าย แต่จะให้ดังแบบจีรังยั่งยืนนั้นยาก บางคนเข้ามา 45 ปีก็หายไปแล้ว มีน้อยคนที่จะอยู่นานเป็น 10 ปี ยังไงเสียหนูก็ต้องเอาเรื่องเรียนไว้ก่อน จะได้มีงานทำตามที่ได้เรียนมา ส่วนงานบันเทิงถ้าดีมีงานต่อเนื่องก็ถือว่าโชคดีไป แต่ถ้าไม่เป็นไปตามคิดก็ไม่เป็นไร เราทำดีที่สุดแล้ว ไม่มีใครโชคดีทุกเรื่อง เราก็ไปทำงานในสิ่งที่เราเรียนมา” ถึงจะเด็ก แต่ความคิดก็เป็นผู้ใหญ่ใช้ได้ทีเดียวนะ

อยากทำธุรกิจส่วนตัว...
น้องกิ๊ก บอกว่า ตอนนี้เรียนปี 4 แล้ว ถ้าจบแล้วยังมีงานในวงการบันเทิงอยู่ก็จะทำต่อไป แต่จะไปเรียนภาษาควบคู่ไปด้วย แต่ถ้างานบันเทิงซาลง ก็จะไปทำงานด้านการท่องเที่ยว การโรงแรม หรือสายการบิน ตามสาขาวิชาที่ได้ร่ำเรียนมา และเมื่อทำงานไปสักพักก็จะเรียนปริญญาโทต่อ และหากมีทุนพอก็อยากจะเปิดร้านอาหารหรือร้านกาแฟ เนื่องจากอยากมีธุรกิจเล็กๆ เป็นของตนเอง คือชอบมีแผนสำรองในชีวิตไว้ด้วยเสมอ เผื่องานหลักไม่ดี เรามีงานรองคอยเสริม

5 ชิ้นที่ต้องมี
1.ไอแพด... ต้องมีไว้สำหรับเช็กตารางเรียน การทำงาน ไว้ส่งการบ้าน ทำรายงาน เล่นเน็ต เช็กเมล สารพัดประโยชน์ เบื่อๆ ก็เล่นเกม ใช้เพื่อความบันเทิง เพื่อเรื่องเรียน เรื่องงาน ติดตัวไปทุกที่ทุกเวลา

2.โทรศัพท์ไอโฟน... ก็ใช้เพื่อการสื่อสาร วอตส์แอป เหมือนอวัยวะชิ้นที่ 33 ของร่างกายไปแล้ว ขาดโทรศัพท์เหมือนชีวิตขาดบางอย่างไป

3.กระเป๋าเงิน... มีบัตรหลายชนิดอยู่ในนี้ เอทีเอ็ม บัตรนักศึกษา ใบขับขี่ หลายสิ่งอย่างนับ 10 ใบ ไม่มีกระเป๋าสตางค์ไปไหนก็ลำบาก เพราะทุกอย่างต้องใช้เงิน ไม่มีก็ยุ่งเลย

4.กระเป๋าเครื่องสำอาง... ต้องมีเครื่องสำอางติดตัวไว้บ้าง ถ้าไปเรียนไม่เท่าไหร่ แต่วันไหนมีงานต่อ หรือต้องไปงานแบบไม่รู้ตัวล่วงหน้าจะไปหน้าเลี่ยนๆ ก็ไม่ได้ เลยต้องพกติดตัวกันเหนียว เผื่อไว้ฉุกเฉินบ้าง

5.หนังสือ “โตเกียวไม่มีขา”... ของ นิ้วกลม เป็นพ็อกเกตบุ๊กแนวท่องเที่ยว แบบลุยๆ ของแบ็กแพ็กเกอร์ ชอบงานเขียนของเขา ภาษาเรียบง่าย อ่านง่ายๆ สบายๆ แต่ก็แฝงมุมมองความคิดดีๆ เชิงบวกเอาไว้ด้วย
เราเรียนเรื่องท่องเที่ยว เลยชอบอ่านหนังสือแนวนี้ วันข้างหน้าอาจนำไปใช้ประโยชน์ได้