posttoday

“NIGAO” ปรับโฉมแบรนด์ใหญ่ บุกตลาดความงามเส้นผมยุคนิวนอร์มอล ผู้คนต้องการนวัตกรรม 

23 พฤศจิกายน 2563

“บิวตี้ แบลนด์” เอสเอ็มอีกสายพันธุ์ไทยแท้ ที่อยู่ในแวดวงตลาดลุ่มสินค้าความงามดูแลเส้นผม มานานร่วมสิบปี ถึงวันนี้สามารถยอดขายได้ไม่ต่ำ กว่า 200 ล้านบาท ด้วยกลยุทธุ์การทำตลาดที่น่าสนใจ 

ภูริวัฒน์ เขียนขำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ เบลนด์ จำกัด (Beauty Blend) เจ้าของธุรกิจและทำตลาดผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเพื่อความงามและสุขภาพของเส้นผม ภายใต้แบรนด์ “NIGAO” (นิกาโอะ) เเล่าที่มาธุรกิจ เกิดจากการซึมซับประสบการณ์ที่คลุกคลีในแวดวงร้านเสริมสวย ตั้งแต่วัยเด็ก ด้วยทั้งคุณแม่ และ พี่ชาย ต่างก็เป็นช่างทำผม ทำให้เขาคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมต่างๆเป็นอย่างดี และต่อยอดสู่การทำธุรกิจของตัวเองในที่สุด

โดย "คีย์เวิร์ด" ของธุรกิจรายนี้ คือ จุดตั้งต้นที่ได้จากประสบการณ์จริง ที่สร้างแรงบันดาลในการทำธุรกิจ   

อย่างไรก็ตาม “ประสบการณ์” เพียงอย่างเดียวยังไม่พอที่ จะทำให้ธุรกิจดูแลเส้นผมของคนไทยเข้าไปแข่งขันในตลาดบิวตีซาลอน ในช่วงจังหวะที่มีแบรนด์จากต่างประเทศครองส่วนแบ่งผลิตภัณฑ์ความงามและดูแลเส้นผมในประเทศไทยอย่างเหนียวแน่นในช่วงนั้นได้ 

ต่อมากลายมาเป็นจุดพลิกที่ทำให้ “ภูริวัฒน์”  หันมาศึกษาตลาดนี้อย่างจริงจังเพื่อหาจุดแข็งใหม่ นั่นคือ การใช้ “นวัตกรรม” เข้าไปแข่งขันในการทำตลาดนี้ ภายใต้แบรนด์ “NIGAO” และเข้ามาทำตลาดในไทยเป็นครั้งแรกเมื่อ 13  ปีก่อน 

สำหรับนวัตกรรมสินค้าภายใต้แบรนด์ NIGAO คือ ส่วนผสมตัวผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะในกลุ่มเปลี่ยนสีผมที่ปราศจากแอมโมเนีย และให้สีสม่ำเสมอโดยเฉพาะสีผมในกลุ่มแฟชันที่จะไม่เปลี่ยนเฉดเป็นสีเหลืองเมื่อเวลาผ่านไป เป็นต้น และกลายเป็นจุดเด่นสำคัญของแบรนด์ ที่ทำให้ผู้บริโภค รวมถึงร้านซาลอนพันธมิตรต่างๆ ให้ความเชื่อถือในตัวสินค้า และ ส่งผลให้บริษัทเติบโตมาถึงปัจจุบัน 

เห็นได้ว่า กลยุทธ์หลักของผลิตภัณฑ์ คือ สร้างความต่างของสินค้าในตลาดเดียวกัน โดยไม่หวั่นเกรงคู่แข่ง ที่แม้ว่าจะเป็นแบรนด์สุดสตรองจากต่างประเทศ 

ภูริวัฒน์ ย้อนต่อไปว่าเมื่อคิดค้นสูตรนวัตกรรมสินค้าได้แล้ว ลำดับต่อไป คือ การมองหาฐานการผลิตที่จะต้องสามารถรักษาความลับสินค้าได้ เป็นอย่างดี พร้อมเลือก “ประเทศจีน” เป็นฐานการผลิตสินค้าสำคัญ 

ด้วยในปัจจุบันต้องยอมรับว่า จีน มีความล้ำหน้าด้านเทคโนโลยีการผลิตสินค้าในอุตสวาหกรรมต่างๆ เป็นอย่างมาก 

เมื่อวางแผนการผลิตสินค้าได้แล้ว สเต๊ปต่อไป คือ การทำตลาด โดยในยุคแรก “NIGAO” โฟกัสในตลาด Wholesale เป็นหลัก พร้อมนำผลิตภัณฑ์เข้าไปสร้างการรับรู้แบรนด์ให้กับผู้บริโภค ผ่านร้านบิวตีซาลอนแบรนด์ต่างๆที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วทั้งกรุงเทพฯ และ ร้านค้าส่งเสินค้าความงาม และ ดูแลเส้นผมในต่างจังหวัด 

กระทั่งผลิตภัณฑ์แบรนด์ NIGAO เป็นที่รู้จักและได้การยอมรับจากเหล่าช่างผมมืออาชีพในตลาดมานานกว่า 10  ปี ถึงวันนี้ ภูริวัฒน์ บอกว่าถึงเวลาปรับโฉมแบรนด์ (Rebranding) แบรนด์  NIGAO ครั้งใหญ่ เพื่อให้เทียบขั้นบริษัทเสริ มความงามระดับโลก 

ไปพร้อมกับปรับรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ NIGAO (นิกาโอะ)ใหม่ เพื่อยกระดับสินค้าสู่ ความงามระดับอินเตอร์ และขยายทำการตลาดรูปแบบใหม่ ทั้งการตลาดออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่ ในกลุ่มลูกค้าทั่วไปในระดับพรีเมียม หรือ แมสทีจ (Masstige) 

โดยผลิตภัณฑ์รูปลักษณ์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ NIGAO ทำตลาดตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมวางเป้าหมายสัดส่วนรายได้ในปี 2564 มาจาก ช่องทางค้าส่ง 70% ร้านซาลอน 10-15% และ ร้านค้าปลีกออฟไลน์และออนไลน์ 10-15%  จากในปี2563 นี้บริษัทวางเป้าหมายยอดขายเติบโตกว่า 200 ล้านบาท

ทั้งหมด คือ สูตรไม่ลับการทำธุรกิจของคนตัวเล็ก ที่ประสบความสำเร็จด้วยนวัตกรรมสินค้า อย่างเห็นได้ชัด 

โดย ดวงใจ จิตต์มงคล