ปตท.ส่งสัญญาณราคาก๊าซฯขาขึ้นช่วง 3 ปี ศก.เริ่มฟื้นดันยอดใช้โต 6%
ปตท.คาดการณ์ราคาก๊าซฯยังขาขึ้น ผลจากปมรัสเซีย-ยูเครนเร่งวางแผนจัดหาแอลเอ็นจีสต๊อก ลดต้นทุนค่าไฟระยะยาว รองรับดีมานด์ใช้ไฟยังโตเฉลี่ย 5-6%
นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง แนวโน้มความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติยังมีการขยายตัวต่อเนื่องเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากมีการเปิดประเทศ โดยไตรมาสแรก มีอัตราการขยายตัว 5-6% หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 4,420 ล้านลูกบาศก์ฟุต(ลบ.ฟุต)ต่อวัน
ทั้งนี้ปริมาณการใช้ก๊าซฯที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจาก ภาคการผลิตไฟฟ้า 2,650 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน ซึ่งเป็นไปตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการเปิดประเทศ โดยคาดว่าปีนี้ไทยต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) รวม 10 ล้านตัน
ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติทิศทางยังเป็นขาขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้าและยังมีความผันผวน ต่อเนื่อง จากผลกระทบจากความขัดแย้งรัสเซียกับยูเครน ซึ่งราคาแอลเอ็นจีตลาดโลกก่อนหน้านี้เคยสูง 84 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู และได้ปรับลดลงมาอยู่ที่ 20-21 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ส่งผลให้ราคาต้นทุนก๊าซเฉลี่ย (POOL ) ของไทยอยู่ที่น 400 บาท/ล้านบีทียู เมื่อเทียบต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากน้ำมัน ก็ยังต่ำกว่า
นอกจากนี้ปตท.อยู่ระหว่างการพิจารณาขยายระยะเวลาชำระเงินค่าเชื้อเพลิงเพื่อผลิตไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)เนื่องจากราคาก๊าซฯปรับสูงขึ้น จากปีก่อนโดยกฟผ.ต้องใช้ก๊าซฯจากปตท. วันละ 700-800 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน มีค่าก๊าซฯอยู่ที่ประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาทต่อเดือน แต่ปีนี้ค่าก๊าซฯมาอยู่ที่ 12,000-13,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่ง สัญญาชำระค่าก๊าซฯของกฟผ. จะจ่ายหลังรับจ่ายก๊าซฯแล้วประมาณ 1 เดือน
“ราคาก๊าซฯยังอยู่ในระดับสูงในช่วง 3 ปีนี้ ดังนั้นจึงต้องวางแผนการจัดหาแอลเอ็นจีในระยะยาวตามนโยบายของกระทรวงพลังงานซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้ โดยต้องทำแผนให้เสร็จภายในเดือนมิ.ย.-ก.ค.นี้ก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูหนาวที่ราคาก๊าซฯจะกลับมาสูงขึ้นอีก”