posttoday

3 ปีลงทุนใน อีอีซี 1.7 ล้านลบ. เร็วกว่าเป้าหมาย

13 กันยายน 2564

รัฐหวังโควิดคลี่คลายเดินหน้ากระตุ้นลงทุนอีอีซี ตั้งเป้าอีก 5 ปี เงินสะพัด 2.2 -2.5 ล้านลบ. เพิ่มสิทธิประโยชน์ดึงต่างชาติลงทุน นำร่องเมืองการบิน

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก  เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงานเป็นประธาน ว่า ภาพรวมการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ในช่วง 3 ปี(2561-2564) มีมูลค่ารวม 1.6 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 94 จากเป้าหมายแผน 5 ปี (2561-2565) ของอีอีซี 1.7 ล้านล้านบาท เร็วกว่าเป้าที่กำหนดไว้  ดังนั้นจึงกำหนดเป้าหมายการลงทุนในระยะ5 ปีข้างหน้า (2565-2569) ไว้ที่ 2.2 - 2.5ล้านล้านบาท

สำหรับการลงทุนช่วง 6 เดือนที่ผ่าน (ม.ค.-มิ.ย. 64) มีการขอรับส่งเสริมลงทุน 232 โครงการ เงินลงทุน 1.26 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 53 (จากช่วงเดียวกันปี 63) โดยอนุมัติส่งเสริมลงทุน 195 โครงการ เงินลงทุน 74,250 ล้านบาท และออกบัตรส่งเสริม 187 โครงการ เงินลงทุน 88,083 ล้านบาท ซึ่งจำนวนขอโครงการสูงสุดคือ อุตสาหกรรมยานยนต์ชิ้นส่วน ส่วนเงินลงทุนสูงสุดคือ เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็คทรอนิกส์

 3 ปีลงทุนใน อีอีซี 1.7 ล้านลบ. เร็วกว่าเป้าหมาย

ขณะที่การลงทุนตรงจากต่างประเทศ (FDI) คิดเป็นร้อยละ 64ของคำขอลงทุนในอีอีซี ซึ่งนักลงทุนที่สนใจมากที่สุดคือ ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง ตามลำดับ วางกรอบสิทธิประโยชน์ เน้นความต้องการผู้ประกอบการ จูงใจนักลงทุน ใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม   นอกจากนี้ยังพิจารณาแผนขยายมาตรการสนับสนุนการลงทุนจากโครงการที่เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล สู่การให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกอบการกิจการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ โดยเริ่มนำร่องที่เขตส่งเสริมฯ เมืองการบินภาคตะวันออก (EECa) ให้เป็น พื้นที่ต้นแบบ (Sandbox) โดยเน้นกลุ่มนักลงทุนที่มีศักยภาพ ใช้นวัตกรรมขั้นสูงและเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม ภายใต้การออกแบบสิทธิประโยชน์ที่ตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการ (Demand Driven Customization)  

นอกจากนี้ยังพิจารณาโครงการเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd) ซึ่งจะจัดทำเป็นมาสเตอร์แพลน ตั้งเป้าหมายให้ เป็นเมืองดิจิทัลระดับโลกในภูมิภาค เป็นศูนย์กลางลงทุนและพัฒนาอุตสาหกรรมด้านดิจิทัลแห่งอนาคต และเป็นเมืองอัจฉริยะโดยใช้หลักคิดการพัฒนาเมืองที่เติบโตอย่างยั่งยืนและพึ่งพาตนเองได้ สำหรับร่างแผนพัฒนาการเกษตรในอีอีซี (พ.ศ.2566 -2570)ซึ่งจัดทำร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  มีกรอบแนวคิด เน้นตลาดนำการผลิต (Demand Pull) ใช้เทคโนโลยีสร้างรายได้ (Technology Push) สร้างโอกาสการตลาดให้กับสินค้าเกษตรคุณภาพดี พร้อมเป็นต้นแบบการพัฒนาภาคเกษตรเข้าถึงตลาดสินค้ามูลค่าสูงโดยเริ่มพัฒนา 5 คลัสเตอร์สำคัญ ได้แก่ ผลไม้ ทุเรียน มังคุด มะม่วง ประมงเพาะเลี้ยง สัตว์น้ำทดแทนนำเข้า พืชอุตสาหกรรมชีวภาพ มันสำปะหลัง พืชสมุนไพร ฟ้าทะลายโจร และเกษตรมูลค่าสูง โคเนื้อพรีเมียม ตั้งเป้าหมายยกระดับรายได้ให้ชุมชนเกษตรกรในพื้นที่ อีอีซี เทียบเท่ากลุ่มอุตสาหกรรม-บริการ พร้อมให้จีดีพีภาคเกษตรในอีอีซีเพิ่มขึ้น

 3 ปีลงทุนใน อีอีซี 1.7 ล้านลบ. เร็วกว่าเป้าหมาย

“สถานการณ์โควิดตอนนี้ การฉีดวัคซีนทำได้ 40 ล้านโดส หลังจากนี้ก็จะมีวัคซีนเข้ามาเพิ่มอีก คาดช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค.การฉีดวัคซีนจะได้เป็น 70%  น่าจะเป็นสัญญาณที่ดี นักลงทุนจะเริ่มกลับเข้ามา ประกอบกับภาพรวมการลงทุน3 ปีที่ผ่านมา เม็ดเงินลงทุนทำได้มากกว่า1.6 ล้านล้านบาท เทียบกับเป้าหมาย 5ปี ที่กำหนดไว้ 1.7 ล้านล้านบาท  ถือว่าเร็วกว่าเป้าที่วางไว้  ดังนั้นในอีก 5 ปีข้างหน้าจึงกำหนดไว้ที่ 2.2-2.5 ล้านล้านบาท มีโอกาสเป็นไปได้”นายคณิส กล่าว

ข่าวล่าสุด

SCB WEALTH กวาด 6 รางวัลระดับโลก สะท้อนความเป็นเลิศในทุกมิติการบริหารความมั่งคั่ง