คุมเข้มผลไม้ไทยต้องปลอดโควิด หลังจีนออกกฏเหล็กตรวจเช็คทุกขั้นตอน
‘มนัญญา’ เตือนผู้ส่งออกผลไม้ไปจีน ยึดแนวทางป้องกันโควิดเข้มงวด ชี้หากจีนพบปนเปื้อน สั่งระงับนำเข้าทันที
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้กรมฯแจ้งเตือนผู้ส่งออกผลไม้ไปประเทศจีนให้เฝ้าระวังและปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันเชื้อโควิด-19 ติดปนเปื้อนไปกับสินค้าผลไม้อย่างเคร่งครัด เนื่องจากปัจจุบันฝ่ายจีนมีมาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มงวดเพิ่มขึ้นจากเดิมมาก
ทั้งนี้สินค้าผลไม้ที่ส่งออกไปจีนจะถูกตรวจกรดนิวคลิอิกเพื่อหาเชื้อโควิด-19 ในสินค้า และตรวจหาเชื้อในคนขับรถสินค้า รวมทั้งการพ่นฆ่าเชื้อในสินค้า โดยเฉพาะที่ด่านโม่ฮานที่มีการตรวจสอบที่เข้มงวดมาก
ขณะเดียวกันได้ย้ำให้ผู้นำเข้าหรือบริษัทที่เป็นตัวแทนประสานกับผู้ส่งออกของไทยให้ทำการฆ่าเชื้อตู้คอนเทนเนอร์ทั้งภายในและภายนอก รวมถึงห้องคนขับ และฆ่าเชื้อบรรจุภัณฑ์ก่อนขึ้นตู้ โดยหากตรวจพบเชื้อโควิด-19 สินค้าผลไม้ครั้งที่ 1จะห้ามรถและสินค้าของบริษัทนั้นเข้าประเทศชั่วคราว 10-15 วันโดยอัตโนมัติ หากตรวจพบครั้งที่ 2 ห้ามรถสินค้าของบริษัทนั้นเข้าประเทศถาวรโดยอัตโนมัติ โดยในช่วงระหว่างวันที่ 15-22 กรกฎาคมที่ผ่านมามีการนำเข้าผลไม้ไทยที่ด่านโม่ฮานเฉลี่ยวันละประมาณ 100 ตู้
ดังนั้นจึงขอย้ำเตือนผู้ประกอบการของไทยในการควบคุม กำกับดูแลและป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มงวดตั้งแต่สวน โรงคัดบรรจุและขั้นตอนการขนส่งในทุกขั้นตอนเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 ติดไปกับสินค้า ซึ่งในขณะนี้จีนได้ให้ความสำคัญกับประเด็นนี้เป็นอย่างมาก หากตรวจพบอาจนำไปสู่การระงับการนำเข้าสินค้าผลไม้จากไทยได้
ปัจจุบันจีนมีความกังวลต่อสถานการณ์โควิด- ในไทยเป็นอย่างมาก ดังนั้นผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามแนวทางการป้องกัน อย่างเข้มงวด โดยจะมีเจ้าหน้าที่ภายในพื้นที่และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชของกรมวิชาการเกษตรเข้าไปติดตามกำกับดูแลที่โรงคัดบรรจุ เนื่องจากในช่วงนี้เข้าสู่ฤดูกาลส่งออกผลไม้ทางภาคใต้โดยเฉพาะทุเรียน โดยช่วงระหว่างวันที่ 1 – 26 กรกฎาคม 2564 มีการส่งออกทุเรียนไปจีนแล้วจำนวน 5,337 ตู้ และในเดือนสิงหาคมนี้จะมีผลผลิตทั้งทุเรียนและมังคุดออกสู่ท้องตลาดจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7 จ.สุราษฎร์ธานี ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร ภายในพื้นที่ของกรมวิชาการเกษตร ร่วมปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบใบรับรอง GAP และศัตรูพืช เพื่อออกใบรับรองสุขอนามัยพืชให้แก่ผู้ประกอบการส่งออก พร้อมทั้งเพิ่มบุคลากรและขยายระยะเวลาในการปฏิบัติงานจากเดิม 19.00 น.ไปจนถึง 22.00 น.เพื่อให้สามารถตรวจปิดตู้สินค้าให้กับผู้ประกอบการได้ทันโดยไม่มีสินค้าตกค้างในแต่ละวัน