posttoday

ไทยจ่อขึ้นแชมป์ผลิตทุเรียนอันดับ 1 ของโลกแตะ 2 ล้านตัน

31 มีนาคม 2564

ม.หอการค้าฯสแกนตลาดทุเรียนไทยมีอนาคต คาดอีก 5 ปีแซงหน้าอินโดนีเซีย ขึ้นอันดับ 1 ผลิตทุเรียนมากสุด ชี้ราคาขายในจีนมีลุ้นก.ก.ละ290 บาท

รศ. ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช   ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับสถาบันทุเรียนไทยจัดทำบทวิเคราะห์ เรื่อง อนาคตทุเรียนไทย: โอกาสหรือความเสี่ยง โดยประเมินสถานการณ์ตลาดทุเรียนในอาเซียนช่วง 10 ปีที่ผ่านมา( 2554-2563) อินโดนีเซียครองแชมป์การผลิตทุเรียนมากที่สุดของโลก ตามด้วยไทย มาเลเชีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ แต่ทุเรียนอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ส่งออกน้อยเพราะมีข้อจำกัดด้านคุณภาพและมาตรฐานการส่งออก

ทั้งนี้ในช่วง 5 ปีข้างหน้า(2564-2568) ไทยแซงหน้าอินโดนีเซีย ตามมาด้วย มาเลเซีย และเวียดนาม ซึ่งปี 2568 ผลผลิตทุเรียนไทยมากเป็นอันดับ 1 (39.2%) อินโดนีเซียเป็นอันดับ 2 (30.6%) ของอาเซียน

สำหรับผลผลิตทุเรียนไทย 5 ปีข้างหน้าเพิ่ม 83% หรือ 2.02 ล้านตัน ในปี 2568 เป็นการบริโภคในประเทศเพิ่ม 101.7%  หรือ 983,817 ตัน ในปี 2568 ส่งออกเพิ่มขึ้น 68.3% หรือ1.04 ล้านตันในปี 2568 เทียบจากปี 2563 โดยปี 2563 มีสัดส่วนการบริโภคในประเทศ 44% ส่งออก 56% และในปี 2568 จะมีสัดส่วนการบริโภคในประเทศ 48.5% ส่งออก 51.5%

อย่างไรก็ตามในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีเนื้อที่เพาะปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้นมากกว่าทุกภาคในประเทศไทย โดยในปี 2563 เนื้อที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้น 5 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2554 เนื่องจากปลูกทุเรียนแทนพืชอื่น เช่น ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยปี 2554-2559 ผลผลิตทุเรียนของไทยเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 6 พันตันต่อปี และในปี 2560-2563 ผลผลิตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 140,000 ตันต่อปี เพิ่มขึ้นกว่า 20 เท่าจากปี 2554-25590

ไทยจ่อขึ้นแชมป์ผลิตทุเรียนอันดับ 1 ของโลกแตะ 2 ล้านตัน

ด้านราคาทุเรียนหมอนทองที่เกษตรกรขายได้ที่สวน (เฉลี่ยทั้งประเทศ) ในปี 2554-2558 ราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 4.6 บาท/กก. ปี 2559-2563 ราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 11.0 บาท/กก. สำหรับราคาทุเรียน 5 ปีข้างหน้า (2564-2568)  ราคาทุเรียนหมอนทองที่เกษตรกรขายได้ที่สวน (เฉลี่ยทั้งประเทศ) ในปี 2568 ประมาณ 144 บาท/กก. ราคาทุเรียนหมอนทองที่เกษตรกรขายได้ที่สวน เฉลี่ยในปี 2564-2568 ประมาณ 126 บาท/กก.

ทั้งนี้ได้ประเมินการเคลื่อนไหวของราคาทุเรียนไว้ 3 กรณี คือ 1.หากจีนนำเข้าทุเรียนไทยน้อยกว่า 10% ราคาขายส่งทุเรียนหมอนทองไทย ณ ตลาดเจียงหนาน ปี 2568 ประมาณ 177 บาท/กก. ซึ่งเฉลี่ยราคาในปี 2564-2568 ประมาณ 174 บาท/กก.

2.หากจีนนำเข้าทุเรียนไทยเพิ่ม 10-15% ราคาขายส่งทุเรียนหมอนทองไทย ณ ตลาดเจียงหนาน ปี 2568 ประมาณ 279 บาท/กก. เฉลี่ยราคาในปี 2564-2568 ประมาณ 243 บาท/กก.

3.หากจีนนำเข้าทุเรียนไทยเพิ่มมากกว่า 15% ราคาขายส่งทุเรียนหมอนทองไทย ณ ตลาดเจียงหนาน ปี 2568 ประมาณ 379 บาท/กก. เฉลี่ยราคาในปี 2564-2568 ประมาณ 290 บาท/กก.

อย่างไรก็ตามการส่งออกทุเรียนช่วง10 ปีที่ผ่านมา โลกส่งออกทุเรียนเพิ่มขึ้น 48.3% จาก 521,028 ตัน ในปี 2554 เป็น 772,860 ตัน ในปี 2563 และ 5 ปี ข้างหน้า โลกส่งออกทุเรียนเพิ่มขึ้น 134.5% เป็น 1,812,201 ตัน ไทยครองแชมป์อันดับ 1 มาโดยตลอด ซึ่งส่งออก 1,044,672 ตัน (57.65%) ในปี 2568 ตามด้วยเวียดนาม 165,465 ตัน (9.13%) และมาเลเซีย 76,379 ตัน (4.21%)

สำหรับ 5 ปีข้างหน้า จีนยังคงเป็นผู้นำเข้าทุเรียนรายใหญ่ของโลก ซึ่งนำเข้าเพิ่มขึ้น 95.1% จากปี 2563 เป็น 938,882 ตัน รองมาเป็นฮ่องกง นำเข้าเพิ่มขึ้น 61.4% เป็น 374,245 ตัน ขณะที่ประเทศผู้นำเข้ารายใหม่ที่น่าจับตามอง คือ เกาหลีใต้ และไต้หวัน แม้ว่าปริมาณนำเข้าจะยังไม่มากนัก แต่การนำเข้าขยายตัวเพิ่มขึ้นมากถึง 53.3% และ 35.7% ตามลำดับ

รศ.ดร. อัทธ์  กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อทุเรียนได้  9  ด้านคือ 1. จีนอนุญาตให้นำเข้าจากประเทศอื่น 2. ไทยขาดระบบตรวจสอบย้อนกลับ  3.ทุเรียนอ่อน และเครื่องมือในการตรวจ 4.จีนตรวจเข้มมากขึ้น 5.จีนมีการปลูกทุเรียน และพัฒนาสายพันธุ์ 6.ประเทศไทยเน้นส่งออกทุเรียนสด 7.ขาดแพคเกจจิ้งในการยืดอายุทุเรียนสด 8.สวมสิทธิ์ทุเรียนจากประเทศเพื่อนบ้าน 9.ตลาดถูกควบคุมโดยล้ง