ไทย-ยูเค ผนึกการค้า ตั้งเป้าปี'67 สร้างมุลค่า 7,500 ล้านเหรียญฯ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว. เปิดเผยหลังการลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า หรือ JETCO ระหว่างไทยและสหภาพอาณาจักร (ยูเค) ว่า ไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียแปซิฟิกที่ได้มีการตั้งเวทีระดับรัฐมนตรีการค้ากับยูเคหลังจากที่ยูเคออกจากสมาชิกสหภาพยุโรป (เบร็กซิท)

ทั้งนี้ JETCO จะเป็นเวทีในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคการค้าของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งจะมีการเพิ่มมูลค่าการระหว่างกัน โดยตั้งเป้าปี 2567 การค้าสองฝ่ายจะเพิ่มขึ้น 50% หรือมีมูลค่าเพิ่มเป็น 7,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนที่จะขยายความร่วมมือดังกล่าวไปสู่การจัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างไทยและยูเค ที่คาดว่าจะพยายามผลักดันให้เกิดการเจรจาได้เร็วที่สุด เพราะเป้าหมายของอังกฤษ คือการทำเอฟทีเอกับทางอียูก่อน ตามมาด้วยประเทศที่ทำเอฟทีเอกับอียู หลังจากนั้นอังกฤษจะทำกับประเทศอื่นๆตามมา ซึ่งรวมถึงไทยด้วย

นอกจากนี้ JETCO จะมีการตั้งอนุกรรมการ 6 สาขา ประกอบด้วย เกษตร อาหาร ประมง การเงิน สุขภาพ และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสินค้าและบริการที่ทั้งสองฝ่ายมีความศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน และกระทรวงพาณิชย์จะประชุมร่วมกับกระทรวงการค้าระหว่างประเทศของยูเคมีกำหนดจัดการประชุม JETCO ครั้งที่ 1 ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2564

สำหรับปี 2563 การค้าระหว่างไทยและยูเคมีมูลค่าการค้ารวม 4,875.69 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.51 แสนล้านบาท ไทยส่งออก 3,087.20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 9.56 หมื่นล้านบาท และนำเข้า 1,788.49 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 5.55 หมื่นล้านบาท สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยไปยูเค เช่น ไก่แปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ รถยนต์และอุปกรณ์ แผงวงจรไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ไทยนำเข้าจากยูเค เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและ เภสัชกรรม เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องดื่ม เป็นต้น