“การ์มิน” ปักหมุดในไทย เปิดสำนักงานบุกตลาดเทคโนโลยี แก็ดเจ็ตจริงจัง

นายสกาย เชน ผู้อำนวยการ บริษัทการ์มิน ประเทศไทย เปิดเผยว่า “การ์มิน” ในฐานะแบรนด์ระดับโลก กลุ่มผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีGPS  รองรับอุตสาหกรรมการบิน ยานยนต์ การเดินทะเล ฟิตเนส และกิจกรรมกลางแจ้ง ล่าสุดเข้ามาตั้งสำนักงานแห่งแรกในประเทศไทย ณ อาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ โดยใช้จุดแข็งอาคาร จากการเป็นสมาร์ทออฟฟิศใจกลางย่านธุรกิจและไลฟ์สไตล์ศักยภาพสูง 

สำหรับ การตั้งสำนักงานในไทยครั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของบริษัท จากในปี2563 ที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ทั่วโลกมากกว่า 4,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือประมาณ 125,700 ล้านบาท) โตขึ้น 11% จากปีก่อนหน้า  

“การเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย การ์มินยังมุ่งมั่นส่งมอบเทคโนโลยีที่ช่วยส่งเสริมทุกๆจังหวะการใช้ชีวิตของผู้บริโภคทุกคนให้มีประสิทธิภาพตาม Every Beat of Life ตั้งแต่การมีสินค้าที่พร้อมให้ลูกค้าได้เลือกซื้อได้ตรงกับความต้องการที่เฉพาะเจาะจงครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์”  นายสกาย กล่าว 

นายโอฬาร วัยอุดมวุฒิ ผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและการพาณิชย์ บริษัทสิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการที่บริษัท การ์มิน (ประเทศไทย) จำกัด เลือกอาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ เป็นสถานที่สำนักงานแห่งแรกในประเทศไทยนั้น ยังสะท้อนถึงศักยภาพของสิงห์ เอสเตท ในการตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้เช่าและผู้บริโภคได้ตรงความต้องการ จนได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำมากมายจากทั้งในและต่างประเทศ 

นางสาวอลิศรา ทองวรรณ รองผู้อำนวยการแผนกพื้นที่สำนักงาน บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าตลาดธุรกิจอาคารสำนักงานในปี2564 เชื่อว่าเป็นปีที่ทุกภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจากโควิด–19 แต่อาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ ยังมีอัตราการเช่าสูงถึง 95% และมีพนักงานออฟฟิศและบุคคลทั่วไปหมุนเวียนเข้ามาใช้บริการที่อาคารแห่งนี้รวมกว่า 10,000 – 12,000 คนต่อวัน สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพที่ยังแข็งแกร่ง แม้ตลาดโดยรวมจะมีการชะลอตัวก็ตาม

ทั้งนี้ สิงห์ คอมเพล็กซ์ เป็นโครงการมิกซ์ ยูส ระดับแฟล็กชิปแห่งแรกของทางสิงห์ เอสเตท ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมถนนอโศก – เพชรบุรี เดินทางสะดวก ติดกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเพชรบุรี ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ท่าเรืออโศกคลองแสนแสบ และจุดขึ้นลงทางด่วน ซึ่งถือเป็นทำเลศักยภาพในย่านธุรกิจที่สำคัญ 

โดยภายในพื้นที่ประกอบด้วยอาคารสำนักงานเกรดเอ สูง 42 ชั้น และพื้นที่ค้าปลีก 4 ชั้น ที่รวบรวมร้านค้าและร้านอาหารต่างๆไว้กว่า 30 ร้าน รวมถึงคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรีแบรนด์ The ESSE จึงตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบของคนเมือง 

นอกจากนี้ภายในโครงการยังมีพื้นที่ Co-working และพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถมานั่งทำงาน และพักผ่อน พร้อมบริการ Super WIFI ความเร็ว 1GB/วินาที ฟรีแบบครอบคลุมทั้งอาคาร