posttoday

ปตท.จัดงบ1.65 ล้านล้าน ลุยแผน 5 ปี เพิ่มลงทุนก๊าซ มองธุรกิจใหม่

23 กุมภาพันธ์ 2564

ปตท.วาดแผนลงทุน 5 ปี ทุ่ม 1.65 ล้านล้าน ปรับพอร์ตเพิ่มลงทุนก๊าซ มุ่งธุรกิจใหม่ แย้มสนใจต่อยอดแบตเตอร์รี่ พัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

นายอรรถพล  ฤกษ์พิบูลย์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในช่วง 5 ปีข้างหน้า (2564-2568) ปตท.เตรียมแผนลงทุน วงเงินรวม 850,573 ล้านบาท (ไม่รวมโครงการที่กำลังอยู่ระหว่างการลงทุนหรือแสวงหาโอกาสในการลงทุน)

นอกจากนี้ยังเตรียมงบลงทุนในอนาคต (Provisional Capital Expenditure) ในระยะ 5 ปีข้างหน้า จำนวน 804,202 ล้านบาท  เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลง ทั้งในธุรกิจหลักของกลุ่มโรงกลั่น ก๊าซธรรมชาติ และปิโตรเคมี 

นอกจากนี้ยังมองหาหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงเชื่อมต่อคุณค่าจากแหล่งผลิตปิโตรเลียมสู่ประชาชน ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงาน  เพื่อให้เกิดระบบนิเวศธุรกิจ Ecosystem) ตั้งแต่ธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี และก๊าซธรรมชาติ สู่ธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้า จนถึงธุรกิจแบตเตอรี่และการกักเก็บพลังงาน และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมทั้งมองไปถึงอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาจะนำแบตเตอร์รี่ไปพัฒนากับการผลิตเสื้อเกราะ หรือรถถัง ได้อย่างไรบ้าง

ทั้งนี้กลุ่มปตท.ได้จัดตั้งบริษัท AI and Robotics Venture (ARV) ของ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.)รวมถึงการจัดตั้งบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจ Life Science ใน 4 กลุ่มธุรกิจที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง ได้แก่ 1. ธุรกิจยา  2. ธุรกิจอาหารและโภชนาการ  3. ธุรกิจอุปกรณ์และวัสดุทางการแพทย์  4. ธุรกิจเทคโนโลยีทางการแพทย์  เพื่อให้เป็น New S-Curve ของกลุ่ม ปตท.

“กลุ่มปตท.ต้องปรับโครงสร้างธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวโน้มพลังงานโลก  โดยปตท.สผ. จะต้องเพิ่มพอร์ตการลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติให้มากขึ้น รองรับดีมานด์ไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้น ด้านธุรกิจค้าปลีกน้ำมันยังคงให้ความสำคัญโดยมองการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ"

นายอรรถพล กล่าวถึงแนวโน้มราคาน้ำมันดิบดูไบปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 55-60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ที่มีราคาเฉลี่ย อยู่ที่ 42.21 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งอาจทำให้ปีนี้ไม่มีปัญหาขาดทุนสต็อกน้ำมัน และน่าจะกลับมามีกำไรได้