กลุ่มปตท.คาดปีหน้าน้ำมันโลกไม่เกิน 55 ดอลลาร์สหรัฐ
กลุ่มปตท.ชี้ตลาดน้ำมันโลกปี’64 ยังเสี่ยงจากปัจจัยโควิด ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบดูไบแตะระดับ 35-55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ด้านซีไอเอ็มบีไทย ประเมินเศรษฐกิจฟื้นตัวปกติอีก 2 ปี
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประธานเปิดงานสัมมนาออนไลน์ 2020 The Annual Petroleum Outlook Forum ภายใต้หัวข้อ “The Great Reset : เมื่อโรคปฏิวัติโลก… เจาะลึกจุดเปลี่ยนโลกพลังงาน” โดยทีมนักวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน กลุ่ม ปตท. (PRISM Expert) ได้ประเมินทิศทางราคาน้ำมันดิบดูไบในปี 2564 ไว้ 2 กรณี คือหากสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ จากการพัฒนาวัคซีน รวมถึงแต่ละประเทศมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน อยู่ที่ 45 – 55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวสูงขึ้นจากปี 2563
และ2. ถ้าการฟื้นตัวของตลาดน้ำมันยังคงมีความเสี่ยง หากการแพร่ระบาดของโควิด -19 เกิดการระบาดต่อเนื่องและยังไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ราคาน้ำมันดิบดูไบเคลื่อนไหวที่ระดับ 35 – 45 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ด้านดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย กล่าวในหัวข้อ “เศรษฐกิไทย ไทย ฝ่าวิกฤติ ต้องคิดใหม่"ว่า เศรษกิจไทยมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวได้อย่างน้อยอีก 2 ปีข้างหน้าโดยปีนี้คาดจะยังติดลบอยู่ 6-7% และประเมินปี 2564 จะขยายตัวได้ 3.5-4.5%
ทั้งนี้จากปัญหาโควิดที่เกิดขึ้น จะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจไทยหดตัวแรงเนื่องจากการส่งออกและท่องเที่ยวได้รับผลกระทบมาก แต่เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวได้ในไตรมาส3 ซึ่งไทยต้องหันมาพึ่งตลาดในประเทศ การลงทุนในประเทศ และกำลังซื้อมากขึ้น
อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยยังไม่ถึงทางตันลังจะผ่านโควิดไปด้วยกัน ปีนี้แม้จีดีพีติดลบแต่ไม่แรงเท่าวิกฤตต้มยำกุ้ง ยังอยู่ในช่วงการฟิ้นตัว รอบนี้ใช้เวลานานกว่าจะปรับตัวได้ โดยปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังที่ต้องจับตา คือ R.E.S.T ประกอบไปด้วย 1.Reshuffle คือ ความชัดเจนในการปรับครม.มีผลต่อความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ 2. Exchange เงินบาทมีโอกาสพลิกอ่อนค่า เพื่อช่วยส่งออก
3.Secound การดูแลไม่ให้มีโควิดกลับมาระบาดรอบ2 เพราะจะทำให้ดีมานด์สินค้าลดลง 4. Tradre war การส่งออกดีขึ้น ถ้าเกิดtrade deal ไทยไม่ควรเลือกข้างจีนอย่างเดียว ไทยควรเดินหน้าการค้าโลก