posttoday

ส่งออกไทยสัญญาณดี ลุ้นปีหน้าพลิกบวกตามเศรษฐกิจโลก

23 พฤศจิกายน 2563

“พาณิชย์”ชี้ส่งออกเริ่มฟื้นตัว เดือนต.ค.แค่ติดลบ 6.71% คาดอีก 2 เดือนยังมีแนวโน้มที่ดี โดยสินค้ากลุ่มอาหาร-อุตสาหกรรมยังเป็นดาวรุ่ง จับตาปีหน้าส่งออกกลับมาขยายตัวเป็นบวกแน่นอน

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร  ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนต.ค.2563 ว่า การค้าระหว่างประเทศของไทยอยู่ในภาวะฟื้นตัว ตามทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้น หลังประเทศต่างๆทยอยผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางและการขนส่ง  โดยส่งออกเดือนต.ค. มีมูลค่า 19,376.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  หดตัว 6.71% แม้จะติดลบแต่มีสัญญาณที่ดีขึ้นตามลำดับ

ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 17,330.15  ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว 14.32% ทำให้ดุลการค้าเกินดุล 2,046.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับภาพรวมช่วง 10 เดือนแรกของปี 2563 (ม.ค.-ต.ค.) การส่งออกมีมูลค่ารวม 192,372.77 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว 7.26%  ส่วนการนำเข้ามีมูลค่ารวม 169,702.56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว 14.61% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 22,670.21 ล้านเหรียญสหรัฐ 

การส่งออกของไทยส่งสัญญาณการฟื้นตัวที่ดี หลายสินค้ามีศักยภาพในการขยายตัวแม้เผชิญกับ สถานการณ์การแพร่ระบาดในหลายประเทศ นอกจากนี้ ผลการเลือกตั้งในสหรัฐฯ อย่างไม่เป็นทางการ ทำให้ทราบถึงแนวโน้มการดำเนินนโยบายของว่าที่ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้สถานการณ์การค้าโลกมี ความผันผวนน้อยลง 

อย่างไรก็ตาม สินค้าที่ขยายตัวในขณะนี้เป็นสินค้ากลุ่มเดิมที่ขยายตัวดีอยู่แล้ว อีกทั้งเป็น สินค้าศักยภาพท่ามกลางโควิด-19 อาทิ สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาด หรือสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ที่บ้าน (Work from Home) ซึ่งจะสามารถขยายตัวต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง แต่เมื่อโลกสามารถผลิตวัคซีนต้าน โควิด-19 ได้สำเร็จ ความต้องการสินค้าเหล่านี้อาจกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ดังนั้น การเพิ่มมูลค่าการส่งออกของไทย ในระยะถัดไป จำเป็นต้องขยายตลาดในสินค้ากลุ่มใหม่ รวมทั้งให้ความสำคัญกับการส่งออกสินค้าที่มีมูลค่าสูง

“ขณะนี้ภาคการผลิตเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สะท้อนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อโลก (Global Manufacturing PMI) ที่ปรับตัวดีขึ้นเหนือระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 นอกจากนี้ การดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินและการคลังในหลายประเทศ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อุปสงค์ต่อสินค้ากระเตื้องขึ้น”น.ส.พิมพ์ชนก กล่าว

อย่างไรก็ตามสินค้าที่ขยายตัวได้ดี ยังเป็นสินค้ากลุ่มเดิมที่เติบโตต่อเนื่อง 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. สินค้าอาหาร เช่น น้ำมันปาล์ม อาหารสัตว์เลี้ยง สุกรสดแช่เย็นแช่แข็ง สิ่งปรุงรสอาหาร

2. สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน (Work from Home) และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เตาอบไมโครเวฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน ตู้เย็นและตู้แช่แข็ง เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ และโซลาร์เซลล์

3. สินค้าเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด เช่น ถุงมือยาง ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาด ทำให้ความต้องการยางพาราในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นด้วย ซึ่งส่งผลดีต่อราคายางพาราของไทยในช่วงนี้

น.ส.พิมพ์ชนก  กล่าวว่า  ภาพรวมส่งออกไทยปีนี้น่าจะดีขึ้น หรือมีการติดลบที่น้อยลง  โดยตลอดทั้งปีคาดการณ์จะติดลบที่ระดับ 7%   ส่วนปี 2564 มั่นใจแนวโน้มการส่งออกจะดีขึ้นขยายตัวเป็นบวกได้  โดยเฉพาะเมื่อมีวัคซีนป้องกันโควิดออกมาใช้ได้ จะทำให้ดีมานด์สินค้าส่งออกของไทยยังไปได้ดีต่อเนื่อง