posttoday

ปตท.มั่นใจ อีก 2 ปี ไทยขึ้นแท่นฮับแอลเอ็นจีในภูมิภาค

11 พฤศจิกายน 2563

ปตท. ชี้ไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางซื้อขายก๊าซ ปักธงปี’65พร้อมแน่ คาดสร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจในช่วง 10 ปี กว่า 1.65 แสนล้าน สร้างงานปีละ 1.6 หมื่นคน

นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ?     บริษัท?   ปตท.จำกัด  (มหาชน)?  เปิดเผยว่าปตท.วางเป้าหมายผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลาง?การซื้อขายก๊าซ?ธรรมชาติ?เหลว(แอลเอ็ยจี)?ภายในปี 2565  ?โดยคาดการณ์จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ?ในช่วง10 ปีข้างหน้ากว่า1.6แสนล้านบาท และ เกิดการจ้างงาน1.6 หมื่นคนต่อปี

ทั้งนี้ประเมินว่า ตลาดในกลุ่มประเทศตะวันออกเฉียงใต้ มีปริมาณความต้องการใช้แอลเอ็นที่เติบโตต่อเนื่อง ในขณะที่ไทยมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับธุรกิจก๊าซได้อย่างเพียงพอ ตลอดจนมีจุดภูมิศาสตร์ของที่ตั้ง ที่สามารถส่งออกแอลเอ็นจีไปยังประเทศใกล้เคียง ซึ่งมีความได้เปรียบเมื่อเทียบกับสิงคโปร์และเวียดนาม  โดยที่ผ่านมาได้มีการลงทุนสร้างท่าเทียบเรือและสถานีรับจ่ายก๊าซ เพื่อสามารถรองรับปริมาณก๊าซได้ 19 ล้านตันภายในปี 2565

อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ปตท.ต้องเลื่อนแผนการส่งออกแอลเอ็นจี จากเดิมจะเริ่มได้ไตรมาส3/ 2563 ไปเป็นช่วง ไตรมาส 2/2564

นายวุฒิกร   กล่าวว่า ขณะนี้ ปริมาณความต้องการใช้ก๊าซฯเฉลี่ยอยู่ที่ 4,400 ล้านลูกบาศก์ฟุต(ลบ.ฟุต)ต่อ วัน ลดลง8-10%จากปีก่อน โดยปี2564 คาดว่าความต้องการใช้ก๊าซฯจะอยู่ที่ 4,356ล้านลบ.ฟุตต่อวัน   ในขณะที่ปริมาณนำเข้าแอลเอ็นจี ปี 2564 จะใกล้เคียงปีนี้ที่มีการนำเข้า ประมาณ 5.6-5.7ล้านตัน โดยเป็นการนำเข้า ตามสัญญาซื้อขาย ระยะยาว 5.2 ล้านตัน และที่เหลือเป็นการนำเข้าตลาดจร (Spot)4-5แสนตัน ซึ่งแผนการนำเข้าแอลเอ็นจีตลาดจรของปตท.ในปีหน้ายังไม่ได้กำหนดชัดเจนขึ้นอยู่กับความต้องการใช้ก๊าซฯและราคาแอลเอ็นจีด้วย