ศบศ.ถกไอเดียทักษิณบัตรอิลิทการ์ดกู้วิกฤตท่องเที่ยวไทย

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว. พลังงาน เปิดเผยว่า ประชุมศูนย์บริหารสถานการเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือ ศบศ. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ได้มีการหารือมาตรการเปิดประเทศจะทยอยมีเรื่อยๆ ให้ชาวต่างชาติเข้ามา ซึ่งการเปิดประเทศเพื่อสร้างรายได้ จะมีรายละเอียดมานำเสนอต่อไป

เบื้องต้นจะมีการดึงดูดนักลงทุน ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ที่เป็นคนเก่ง และเป็นแรงงานที่ประเทศยังขาดแคลน และผู้บริหารระดับสูงที่ประสงค์อยู่ในเมืองไทยต่อ

นอกจากนี้ นายสุพัฒนพงษ์ ยังกล่าวว่า มีนักลงทุนต่างชาติกลุ่มหนึ่งสนใจซื้อบัตรอิลิทการ์ด และพ่วงซื้อทรัพย์สินในเมืองไทย ตรงนี้ได้มีการพูดคุยกันใน ศบศ. แต่ยังไม่ได้ตกผลึก แต่ก็อยากบอกให้เห็นว่า ศบศ.คิดเรื่องมาตรการจะให้ประเทศกลับมามีรายได้จากการที่มีคนต่างชาติเข้ามาเที่ยวหรือเข้ามาทำงาน

"ศบศ ได้พูดคุยเรื่องให้นักธุรกิจต่างประเทศเข้ามาในประเทศ แต่ยังต้องหารือในรายละเอียด กับ ศูนย์บริหารสถานการณ์ควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 หรือ ศบค. ต่อไป ยังไม่ได้สรุปว่าการออกวีซ่าพิเศษให้นักท่องเที่ยว เมื่อกักตัวแล้วเที่ยวได้ทั่วไทยหรือว่าเที่ยวได้จำกัด รวมถึงชาวต่างชาติที่เป็นนักธุรกิจที่จะเข้ามาในไทย จะไม่กักตัว หรือ กักตัวน้อยกว่า 14 วันได้หรือไม่ ยังไม่ได้ข้อสรุป" นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

ทั้งนี้ บัตรอิลิทการ์ด เป็นโครงการสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ที่ตั้งเป้าขายให้กับชาวต่างชาติ 1 ล้านคน ใบละ 1 ล้านบาท ทำรายได้ให้ประเทศได้ 1 ล้านล้านบาท โดยผู้ซื้อบัตรมีสิทธิพิเศษเข้ามาเที่ยวในเมืองไทยมากมายตลอดชีวิต มีการตั้งบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งมาในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มีการเสนอให้ยุบ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด และยกเลิกโครงการบัตรอิลิทการ์ด แต่ดำเนินการไม่ได้ เพราะกลัวสมาชิกที่ได้สิทธิพิเศษตลอดชีวิตฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากประเทศไทย