posttoday

ส่งออกไทยยังเสี่ยงเศรษฐกิจโลกผันผวน

24 กันยายน 2563

ส่งออกไทย ส.ค. 63 หดตัวน้อยกว่าที่คาดที่ -7.9% แต่ต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความเสี่ยงสูง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ส่งออกไทยในเดือนส.ค. 2563 หดตัว 7.9% ส่งผลให้ 8 เดือนแรกการส่งออกไทยหดตัว 7.8% อย่างไรก็ดี หากหักสินค้าเกี่ยวกับน้ำมัน ทองคำ และอาวุธฯ การส่งออกไทยเดือนส.ค. 2563 จะหดตัวที่ 14.1% ซึ่งเป็นอัตราที่เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวที่ 13.0% โดยการส่งออกทองคำขยายตัวอย่างมากในเดือนส.ค. ที่ 71.5%

ขณะที่ในภาพรวม สินค้าประเภทอื่นทั้งสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าเกษตรยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถยนต์ เครื่องจักรกล เหล็ก แผงวงจรไฟฟ้า เม็ดพลาสติก น้ำมันสำเร็จรูป ยางพารา ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง ข้าว และน้ำตาลทราย

ในขณะที่สินค้าที่การส่งออกยังคงขยายตัวได้ดียังคงเป็นสินค้ากลุ่มเดิมที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน (work from home) และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด รวมถึงอาหารบางประเภท อาทิ ถุงมือยาง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ทูน่ากระป๋อง อาหารสัตว์เลี้ยง ตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า คอมพิวเตอร์ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เป็นต้น

หากพิจารณารายตลาดส่งออกของไทย พบว่า สหรัฐฯ เป็นเพียงตลาดหลักตลาดเดียวที่มีมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยขยายตัวเป็นบวกในเดือนส.ค. 2563 ที่ 15.2% แต่ก็เติบโตในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่การส่งออกของไทยไปยังตลาดหลักอื่นๆ ยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่อง โดยการส่งออกไทยไปยังจีนหดตัวในอัตราที่เร่งขึ้นที่ 4.0% ในเดือนส.ค. 2563 อันเป็นผลมาจากอุปสงค์ในจีนยังคงอ่อนแรง แม้ว่าเศรษฐกิจจีนโดยรวมจะมีการฟื้นตัว ประกอบได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย

แม้ว่าใน 8 เดือนแรก การส่งออกไทยหดตัวน้อยกว่าที่ประเมิน แต่ทิศทางการส่งออกไทยปี 2563 ยังเผชิญสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความเสี่ยงสูง ประกอบกับทิศทางค่าเงินบาทที่มีความผันผวนอย่างมาก ดังนั้น การส่งออกไทยน่าจะยังคงได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์โลกที่มีแนวโน้มอ่อนแรงอยู่ ขณะที่การส่งออกทองคำจะยังคงเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจส่งผลให้มูลค่าการส่งออกไทยมีความผันผวน

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจะยังคงติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยในระหว่างนี้ยังคงประมาณการการส่งออกไทยปี 2563 หดตัวที่ 12.0% ขณะที่มีความเป็นไปได้ที่มูลค่าการส่งออกไทยในปีนี้จะหดตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ดังกล่าว