posttoday

หนุนแจ้งเกิดแผนพัฒนาเครื่องจักรกล รองรับเกษตรแปรรูป ลดการนำเข้า

20 กันยายน 2563

“สุริยะ”เร่งเครื่องรื้อโครงสร้างเศรษฐกิจ ผุดแผนพัฒนาอุสาหกรรมเครื่องจักรกล เสิร์ฟภาคการเกษตร หวังลดการนำเข้าเครื่องจักรจากต่างประเทศ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ  รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ไทยจำเป็นต้องปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจ หลังวิกฤตโควิด-19 สะท้อนให้เห็นว่าไทยมีการพึ่งพาตลาดต่างประเทศมากเกินไป ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมจะเร่งผลักดันแผนพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล ให้เป็นอุตสาหกรรมที่มีส่วนในการเพิ่มขีดความสามารถการผลิตทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรม ลดการนำเข้าจากต่างประเทศและหันมาใช้เครื่องจักรกลที่ผลิตภายในประเทศแทน

ทั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่พึ่งพาต่างประเทศ สร้างความเข็มแข็งให้กับเศรษฐกิจภายในและเศรษฐกิจฐานราก เพิ่มการบริโภคและการลงทุนในประเทศ ยกระดับขีดความสามารถผู้ผลิตเครื่องจักรกลไทยด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ สร้างนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการและยกระดับแบรนด์ไทยให้เป็นที่น่าเชื่อถือ

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาไทยยังมีความต้องการเครื่องจักรกลอยู่มาก โดยจากข้อมูลปี 2562 ประเทศไทยมีการนำเข้าอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลคิดเป็นมูลค่ากว่า 415,776.9 ล้านบาท และขาดดุลการค้าคิดเป็นมูลค่ากว่า 223,381 ล้านบาท  จึงได้ให้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เร่งจัดทำแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลที่ชัดเจน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรและเกษตรแปรรูปที่จะช่วยสนับสนุนภาคการเกษตรให้ขยายตัว

“มาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลไทย ในระยะแรกจะมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรและเกษตรแปรรูป สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการเกษตรและแปรรูปการเกษตรเพื่อมุ่งเป็นฐานการผลิตด้านอาหาร และ Bio-based product ที่มีคุณภาพของโลก ประกอบกับผู้ผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรของไทยมีความสามารถในการผลิตเครื่องจักรกลที่มีเทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อนมากนักสำหรับใช้ในประเทศและส่งออกไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านและประเทศที่มีลักษณะการเพาะปลูกพืชในเขตร้อน” นายสุริยะ กล่าว

นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า การจัดทำมาตรการการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลในระยะแรกเป็นมาตรการระยะ 5 ปี จะมุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรและเกษตรแปรรูป  กำหนดไว้ 5 แนวทางคือ1. การกระตุ้นอุปสงค์ ผลักดันให้เกิดการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งเสริมและสนับสนุนการจับคู่ธุรกิจระหว่างเอกชนกับเอกชนและเอกชนกับรัฐบาล ยกระดับผู้ประกอบการในการใช้เครื่องจักรกลและบำรุงรักษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

2. สนับสนุนอุปทาน  สร้างเครือข่ายอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ รวมถึงอุตสาหกรรมสนับสนุนประเภทชิ้นส่วน ยกระดับขีดความสามารถผู้ประกอบการให้เข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงในกระบวนการออกแบบและผลิตเครื่องจักรกลผลักดันให้เกิดการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านเครื่องจักรกลสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล

3. เสริมสร้างปัจจัยแวดล้อม เช่น เพิ่มมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เครื่องจักรกลและชิ้นส่วนที่เป็นเป้าหมายตามมาตรฐานสากล จัดตั้งศูนย์ทดสอบเครื่องจักรกลการเกษตรแห่งชาติหรือสร้างเครือข่ายศูนย์ทดสอบเครื่องจักรกลการเกษตรที่เป็นมาตรฐานสากลเพื่อการตรวจสอบและการออกหนังสือรับรองมาตรฐานสินค้าเครื่องจักรกลการเกษตรที่ผลิตในประเทศให้ได้มาตรฐานเพื่อการส่งออกและการทำวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อป้องกันการนำเข้าสินค้าเครื่องจักรกลการเกษตรที่ไม่ได้มาตรฐาน

นอกจากนี้ต้องสร้างฐานข้อมูล (แพลตฟอร์ม) กลางที่รวบรวมและเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล รวมถึงการสนับสนุนการระดมทุนรูปแบบคราวด์ฟันดิง สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยในอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล ปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง อาทิ การจดทะเบียน การให้สิทธิประโยชน์ที่ครอบคลุมถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เป็นต้น รวมไปถึงการพัฒนาบุคคลากรด้านการออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องจักรกลเกษตรและเกษตรแปรรูปด้วย