แอสเสท เวิรด์ฯ ขานรับมาตรการ “วีซ่า ระยะยาว” ฟื้นเที่ยวไทยไตรมาส4 ปี64
แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น ปรับมาตรฐาน 30 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทุกกลุ่มในเครือ ใส่แนวคิด “เวลล์เนส-เทเลเมดิซีน” รับมาตรการรัฐปล่อยวีซ่าระยะยาวนักท่องเที่ยว เผยไทย อันดับ 1 เป้าหมายเดินทางช่วงนิวนอร์มอล
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทแอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน)? หรือ AWC เปิดเผยว่าบริษัทฯ เตรียมนำแนวคิด (คอนเซปต์) WELLNESS (เชิงสุขภาพ)?เข้าไปใช้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ (Property)ทุกประเภทของบริษัทฯ รวมประมาณ 30 แห่ง แบ่งเป็น ธุรกิจโรงแรม 16 แห่ง (ปลายปี2563 เตรียมเปิดอีก 1 แห่ง รวมเป็น 17 แห่ง) ธุรกิจค้าปลีก 9 แห่ง และ ธุรกิจ อาคารสำนักงาน 4 แห่ง เพื่อรองรับการให้บริกากลุ่มเป้าหมายในแต่ละประเภทอสังหาริมทรัพย์ในเชิงสุขอนามัยที่ใส่ใจคุณภาพการใช้ชีวิตมากขึ้นในช่วงนิวนอร์มอล นับจากนี้ไป
ขณะเดียวกัน แนวทางดังกล่าว ยังสอดรับมาตรการภาครัฐ ที่ได้อนุมัติหลักการแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist VISA (STV) ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอให้ชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางมาพำนักระยะยาว (Long Stay) ภายในประเทศไทย และยอมรับการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข ที่ประกาศใช้ในประเทศ? เป็นต้น ที่คาดว่าจะเริ่มมีนักเดินทางกลุ่มธุรกิจเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเป็นกลุ่มแรกช่วงเดือน ตุลาคม ปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมมาตรการเพื่อให้บริการแก่กลุ่มเป้าหมายภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยด้านต่างๆในทุกโครงการอสังหาฯ ดังที่กล่าวข้างต้น ไปจนถึงการจัดกิจกรรมแคมเปญทางการตลาดในกลุ่มธุรกิจโรงแรมที่พัก โดยทำงานร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รวมไปถึงการให้บริการปรึกษาทางการแพทย์ออนไลน์ (Tele Medicine)ให้กับกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการหรือเข้าพำนักโรงแรมในเครือของบริษัท ได้ตลอดตามระยะเวลาที่พนักอาศัยในประเทศไทย
“มาตรการวีซ่าระยะยาว ให้กับนักเดินทางชาวต่างชาติกลุ่มแรก ที่คาดว่าจะเข้ามาไทยราวเดือนต.ค.นี้ มองว่าเป็นผลดีกับเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งมองว่าจะผลักดันให้ภาคการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวได้ราวต้นปี2564 และเห็นผลชัดเจนขึ้นราวไตรมาส 3 และ 4 ในปีหน้า”?นางวัลลภา กล่าว
นายสเตฟาน หลุยส์ เอนฟานเดล อาวาเล หัวหน้ากลุ่มคณะโรงแรม (CHO) บริษัทแอสเสท เวิรด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจโรงแรมบริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมด้านต่างๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเดินทางเข้ามาในไทยได้ทันทีที่ไทยเปิดประเทศ ด้วยพบว่า “ไทย” เป็นประเทศจุดหมายปลายทาง (Destination) อันดับหนึ่ง ของกลุ่มนักเดินทางจากทั่วโลกที่เข้ามาค้นหาผ่านช่องทางออนไลน์ ปัจจุบัน ACW มีธุรกิจโรงแรม จำนวน16 แห่ง 4960 ห้อง โดยในช่วงผ่อนคลายเศรษฐกิจประเทศไทย ในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีอัตราการเข้าจองที่พักในช่วงสุดสัปดาห์ เฉลี่ย 30%
นางวัลลภา กล่าวเสริมว่าล่าสุดบริษัทฯ เตรียมเปิดให้บริการ โครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ อย่างเป็นทางการอีกครั้ง วันที่ 15 ตุลาคม นี้ พร้อมเปิดตัว “เรือสิริมหรรณพ” สร้างจากต้นแบบเรือใบสามเสาลำสุดท้ายในราชการกองทัพเรือ เรือแห่งประวัติศาสตร์ที่นำพาความรุ่งเรืองจากโพ้นน้ำตะวันตกมาสู่ผืนดินสยาม ซึ่งจะเทียบท่าถาวร ณ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เพื่อให้กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย และ ต่าชาติ ได้ร่วมหวนรำลึกเสน่ห์ของเรือแห่งตำนาน “Living Museum & Art Festival” พร้อมเปิดตัว “New Mega Riverside F&B Destination” วางตำแหน่งเป็นแหล่งรวมอาหารการกินนานาชาติแห่งใหม่ริมเจ้าพระยา