posttoday

"จุรินทร์"มอบรางวัลเชิดชูแก่สมาคมการค้าดีเด่นและผู้บริหารดีเด่น

18 กันยายน 2563

พาณิชย์ร่วมกับสภาหอการค้า รวมพลังเชิดชูเกียรติสมาคมการค้าในงาน “Together is Power 2020” มอบรางวัลแก่สมาคมการค้าดีเด่นและผู้บริหารดีเด่น

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ มอบรางวัลในงาน “Together is Power 2020” จัดโดย กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจัดเพื่อเชิดชูเกียรติสร้างแรงขับเคลื่อนให้ธุรกิจไทยสามารถเติบโตตามมาตรฐานธุรกิจสากล โดยให้การสร้างกำลังใจที่ดีแก่สมาคมการค้าที่มีการบริหารจัดการของสมาคม ตามเกณฑ์มาตรฐานสากล โดยมี สมาคมการค้าดีเด่นที่ผ่านการประเมินด้วยหลัก Balanced Scorecard: BSC 4 มิติ จำนวน 45 รางวัล และผู้บริหารสมาคมการค้าดีเด่นที่มีคุณลักษณะของผู้บริหาร 5 ด้าน จำนวน 8 รางวัล รวมทั้งสิ้น 53 รางวัล ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์

ทั้งนี้ นายจุรินทร์ได้ปาฐกถาพิเศษนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการส่งออกการบริโภคภายในประเทศและการส่งเสริม SMEs และชี้ความสำคัญของสมาคมการค้าซึ่งเป็นตัวแปรหลักของประเทศที่จะร่วมสร้างพลังธุรกิจไทยให้เข้มแข็ง แข็งแกร่ง และจับมือกันเพื่อฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลาย ไปด้วยกัน

"จุรินทร์"มอบรางวัลเชิดชูแก่สมาคมการค้าดีเด่นและผู้บริหารดีเด่น

อย่างไรก็ตาม สมาคมการค้าที่เข้ารับรางวัลนั้น ได้ผ่านการตัดสินพิจารณาโดยนำหลัก Balanced Scorecard: BSC มาใช้ในการประเมินศักยภาพสมาคมการค้าที่มีการบริหารจัดการเป็นเลิศใน 4 มิติ คือ 1. ผลสำเร็จตามพันธกิจ พิจารณาจากการเติบโตของสมาชิก, สมรรถนะทางการเงิน, การให้บริการ, ความมีส่วนร่วมของสมาชิก, และการประสานงานกับหน่วยงานภายนอก 2.ความสามารถในการบริหารจัดการ พิจารณาจากวิสัยทัศน์, พันธกิจ, ค่านิยม และการปฏิบัติตามกฎระเบียบและพระราชบัญญัติสมาคมการค้า 3. คุณภาพการให้บริการ พิจารณาจากความพึงพอใจของสมาชิก/หน่วยงานภายนอก และนำมาพัฒนาสมาคมการค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และ 4. การพัฒนาองค์กร พิจารณาจากการบริหารด้วยหลักธรรมาภิบาล, การพัฒนาบุคลากรให้มีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง, การพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ และความคิดสร้างสรรค์ในการดำเนินกิจกรรมของสมาคมการค้าจากคณะกรรมการที่ประกอบด้วยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า, สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

ทั้งนี้ ในปี2563 มีสมาคมการค้าที่ได้รับ ‘รางวัลสมาคมการค้าดีเด่น’ จำนวน 24 สมาคม แบ่งเป็น 45 รางวัล ตามรายมิติ โดยแยกเป็น 3 กลุ่มได้แก่ กลุ่มที่ 1 (จัดตั้ง 1-5 ปี) จำนวน 1 สมาคม 3 รางวัล คือ สมาคมการค้าบิสคลับไทย กลุ่มที่ 2 (จัดตั้ง 6-15 ปี) จำนวน 7 สมาคม 12 รางวัล คือ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (ได้รับรางวัลสมาคมการค้ายอดเยี่ยม), สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และโทรคมนาคมไทย, สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย, สมาคมผู้ผลิตท่อโลหะและแปรรูปแผ่นเหล็ก, สมาคมธุรกิจคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น, สมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย และสมาคมเหล็กแผ่นรีดเย็นไทย

สำหรับ กลุ่มที่ 3 (จัดตั้ง 16 ปีขึ้นไป) จำนวน 16 สมาคม 30 รางวัล คือ สมาคมประกันชีวิตไทย (ได้รับรางวัลสมาคมการค้ายอดเยี่ยม), สมาคมตัวแทนออกของรับอนุญาตไทย, สมาคมไทยแนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ, สมาคมประกันวินาศภัยไทย, สมาคมตัวแทนขนส่งสินค้าทางอากาศไทย, สมาคมโรงแรมไทย, สมาคมนักประเมินราคาอิสระไทย, สมาคมรถเช่าไทย, สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว, สมาคมอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษไทย, สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร, สมาคมการขายตรงไทย, สมาคมเครื่องทำความเย็นไทย, สมาคมการค้านวัตกรรมการพิมพ์ไทย, สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว และสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์คอนกรีตไทย

นอกจากนั้น ยังมีการมอบ ‘รางวัลผู้บริหารสมาคมการค้าดีเด่น’ มี 2 ประเภท ได้แก่ รางวัลนายกสมาคมการค้าดีเด่น และรางวัลกรรมการศักยภาพดีเด่น จำนวน 8 รางวัล รางวัลนายกสมาคมการค้าดีเด่นจำนวน 4 ราย คือ ดร.กรัณย์ สุทธารมณ์ นายกสมาคมการค้าบิสคลับไทย, นางกนิษฐ์ เมืองกระจ่าง นายกสมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และโทรคมนาคมไทย, นายวสันต์ เคียงศิริ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และนางนุสรา บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย และรางวัลกรรมการศักยภาพดีเด่น จำนวน 4 รายคือ นางสาวชุติพร อธิเกียรติ เลขาธิการสมาคมธุรกิจคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น, นายกำจร คุณวพานิชกุล อุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคมไทย, นายวรัทภพ แพทยานันท์ เลขาธิการสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และ ดร.สุมาลี ว่องเจริญกุล เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว” ซึ่งผู้บริหารที่ได้รับรางวัลจะต้องมีคุณลักษณะใน 5 ด้าน คือ 1) การสร้างเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความซื่อสัตย์โปร่งใส 2) ความสามารถในการบริหารงานสมาคมการค้า 3) การเผยแพร่ข้อมูลและสร้างความร่วมมือ 4) การสร้างความเจริญเติบโตให้แก่สมาคมการค้า และ 5) สร้างสรรค์ให้แก่สมาคมการค้า

นายจุรินทร์ กล่าวว่า การจัดงานเชิดชูเกียรติแก่สมาคมการค้าในครั้งนี้ เป็นสัญญาณอันดีที่สะท้อนให้เห็นถึงการเดินหน้าเศรษฐกิจของประเทศต่อไป อันมาจากความสำเร็จในการส่งเสริมให้สมาคมการค้าซึ่งเป็นตัวแทนภาคธุรกิจได้เกิดการสร้างเครือข่ายระหว่างกัน และเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งแก่สมาคมการค้าและผู้บริหารที่ได้รับรางวัล นอกจากนี้ภายในงานยังมีการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “นโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการส่งออกการบริโภคภายในประเทศและการส่งเสริม SMEs” ซึ่งเป็นการผลักดันนโยบายการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ในโอกาสที่ก้าวเข้าสู่ปีที่ 100 ให้ขับเคลื่อนไปทิศทางข้างหน้าโดยในด้านภายในประเทศจะลดค่าครองชีพของประชาชนให้ถูกลงและกระตุ้นการบริโภคให้มากขึ้น ดูแลเกษตรกรให้ค้าขายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรม ประกอบกับพัฒนาธุรกิจ SMEs ไทยให้เข้าสู่การค้าออนไลน์มากขึ้น เพิ่มความรู้ และต่อยอดจนสามารถส่งออกได้ ส่วนด้านต่างประเทศจะเร่งผลักดันการส่งออกด้วยตลาดออนไลน์ สร้างการค้าชายแดนด้วยการเปิดด่านใหม่ๆ ในจังหวัดที่มีศักยภาพ พร้อมด้วยการเร่งรัดการเจรจาการค้าทั้งในทวิภาคีและพหุภาคีกับคู่เจรจราที่ไทยมีความพร้อม

นอกจากนั้น ยังมีการบรรยายพิเศษ เรื่อง “ทิศทางเศรษฐกิจโลกและไทยจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร” โดย ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยภัทร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ซึ่งชี้ทางให้เห็นโอกาสทางการค้าและนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจได้ในที่สุด โดยนำพาธุรกิจไทยร่วมมือร่วมใจกันจับมือเพื่อฝ่าฟันอุปสรรคสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งนี้ไปพร้อมกัน