posttoday

ไทยต้องเร่งอุตสาหกรรม 4.0 ตอบโจทย์การบริโภคยุค New Normal

13 กันยายน 2563

“สุริยะ” เดินหน้ายกระดับอุตสาหกรรม 4.0 เร็วขึ้น รองรับพฤติกรรมการบริโภคแบบใหม่ ดึงต่างชาติโยกฐานการผลิตมาไทย โชว์คุมโควิด-19 ได้ดี

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้เตรียมแผนการดำเนินงานเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทยเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ให้เร็วขึ้นจากเดิม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการยุคใหม่ที่เกิดขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต

ทั้งนี้ภาคอุตสาหกรรมจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทยหลังแนวโน้มภาคอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งปีหลังฟื้นตัว อุตสาหกรรมหลักโดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารและการแพทย์จะยังคงขยายตัวต่อเนื่องตามความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก เกิดการลงทุนและการจ้างงานเพิ่มขึ้น

ขณะที่อุตสาหกรรมหลักอื่นจะค่อย ๆ ฟื้นตัวตามการผ่อนคลายมาตรการและการใช้จ่ายภายในประเทศที่ดีขึ้น เช่น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนและยานยนต์ อุตสาหกรรม Hard disk drive   อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในต่างประเทศยังคงน่าเป็นห่วงพฤติกรรมการบริโภคทั่วโลกมีความเปลี่ยนแปลงจากเดิม มีการบริโภคสินค้าคงทนที่ลดลงตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ส่วนการบริโภคสินค้าอุปโภคบริโภคกลับเพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ภาคอุตสาหกรรมจึงจำเป็นต้องยกระดับเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 เพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงนี้ให้ทัน และใช้โอกาสจากวิกฤตในครั้งนี้ดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาสร้างฐานการผลิตในไทย

“สถานการณ์โควิด-19 เป็นตัวเร่งให้การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลถูกนำมาใช้ประกอบการทำงานและชีวิตประจำวัน ผู้บริโภคจำเป็นต้องปรับตัวสู่ชีวิตวิถีใหม่ New Normal ส่งผลให้พฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าที่คาด ภาคอุตสาหกรรมจำเป็นต้องยกระดับให้สามารถตอบสนองต่อพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงนี้ให้ทัน โดยมุ่งใช้เทคโนโลยี  สร้างนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์  ขณะเดียวกันยังมีนักลงทุนที่ต้องการย้ายฐานการผลิตเพื่อกระจายความเสี่ยง ไทยต้องเร่งจัดทำมาตรการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายต่าง ๆ ที่ประเทศไทยมีศักยภาพ และเตรียมความพร้อมให้แก่แรงงานเพื่อรองรับการทำงานในยุคอุตสาหกรรม 4.0” นายสุริยะกล่าว

นายทองชัย   ชวลิตพิเชฐ  ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)  กล่าวว่า การยกระดับอุตสาหกรรมเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 จะเป็นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยในการทำงานผ่านการเชื่อมโยงเครือข่ายอัจฉริยะ พร้อมนำข้อมูลการทำงานไปวิเคราะห์และประมวลผลสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยทำให้อุตสาหกรรมการผลิตทำงานได้รวดเร็ว ยืดหยุ่น และสามารถผลิตสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มศักยภาพให้อุตสาหกรรมไทยสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้

นอกจากนี้บสถานการณ์ต่างประเทศที่มีการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในฐานการผลิตสำคัญ รวมทั้งสถานการณ์สงครามการค้า ได้ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ภาคอุตสาหกรรมทั่วโลกต้องชะงักลง อุตสาหกรรมบางประเภทขาดชิ้นส่วนการผลิต เกิดปัญหาทางด้านการขนส่งสินค้าและวัตถุดิบ ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายเริ่มทบทวนแผนการผลิตใหม่และมีความต้องการย้ายฐานการผลิตออกเพื่อกระจายความเสี่ยง นับเป็นโอกาสของประเทศไทยที่จะดึงดูดผู้ให้ประกอบการเข้ามาลงทุน โดยไทยมีจุดแข็งทางด้านของแรงงานที่มีฝีมือและมีการควบคุมโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ดี

ทั้งนี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบหมายให้สศอ.เร่งจัดทำมาตรการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายอื่น ๆ ต่อไป โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะและอุตสาหกรรมอุปกรณ์ทางการแพทย์