posttoday

เริ่มแล้ว !!! ไกด์ไลน์ธุรกิจ คุมล้งเอาเปรียบชาวสวนผลไม้

13 กันยายน 2563

สขค.มั่นใจกฏเหล็กกำกับผู้รับซื้อผลไม้ หวังช่วยดูแลเกษตรกร สกัดถูกเอาเปรียบ สร้างความเป็นธรรม ห้ามฮั้วกันรับซื้อผลไม้

นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยว่า  ขณะนี้ประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เรื่อง แนวทางการพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม และการกระทำอันเป็นการผูกขาด หรือลดการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขันในการประกอบธุรกิจรับซื้อผลไม้ (ล้ง) ได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษา และผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา  ทำให้มีมาตรการที่จะเข้าไปดูแลเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ให้ได้รับความเป็นธรรมจากผู้รับซื้อผลไม้ (ล้ง) และจะช่วยแก้ปัญหาเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากการรับซื้อผลไม้ได้

ทั้งนี้ประกาศดังกล่าว ได้กำหนดพฤติกรรมการค้าที่ไม่เป็นธรรม ที่อาจเข้าข่าย ความผิดตามมาตรา 57 แห่งพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 ได้แก่

1.การกำหนดเงื่อนไขอย่างไม่เป็นธรรม หรือละเว้นการกำหนดเงื่อนไขในสัญญาอย่างไม่เป็นธรรม ได้แก่ การไม่ระบุวันหรือช่วงเวลาในการเข้าเก็บผลไม้ การกำหนดไม่ให้เกษตรกรมีสิทธิริบเงินมัดจำหรือไม่ระบุกรอบเวลาที่แน่นอน ให้เกษตรกรมีสิทธิริบเงินมัดจำกรณีผู้รับซื้อผลไม้ผิดนัดไม่เข้ามาเก็บผลไม้ตามที่ตกลง ในการไม่ระบุวันสิ้นสุดของสัญญาซึ่งส่งผลให้เกษตรกรไม่สามารถขายผลไม้ให้ผู้รับซื้อผลไม้รายอื่นได้

การแก้ไขสัญญาเพียงฝ่ายเดียวโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเกษตรกรหรือใช้อำนาจต่อรองที่เหนือกว่าให้เกษตรกรยินยอม และเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรมในสัญญาในลักษณะอื่นๆ

2.การกำหนดหรือปรับลดราคารับซื้อ หรือกำหนดเงื่อนไขใด ๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมภายหลังการทำสัญญา ซึ่งส่งผลต่อการปรับลดราคารับซื้ออย่างไม่เป็นธรรม ได้แก่ การปรับลดราคารับซื้อผลไม้ ให้แตกต่างจากที่กำหนดไว้ในสัญญาโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

การกำหนดระดับคุณภาพ (เกรด) ของผลไม้ หรือเงื่อนไขอื่นใดอย่างไม่เป็นธรรมในขณะที่เก็บผลไม้หรือภายหลังเข้าเก็บผลไม้ เช่น ขนาดของผล ลักษณะของผล หรือสีของเปลือก เป็นต้น ให้ต่ำกว่าความเป็นจริงและแตกต่างจากมาตรฐานที่กำหนดเพื่อการปรับลดราคารับซื้อให้แตกต่างจากที่กำหนดไว้ในสัญญา และการกำหนดเงื่อนไขอื่นหรือการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ในการรับซื้อ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรซึ่งส่งผลให้ราคารับซื้อลดลง  

3.การปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ได้แก่ การชะลอการเข้าเก็บผลไม้ให้แตกต่างจากเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรไม่สามารถขายผลไม้ให้ผู้รับซื้อผลไม้รายอื่นได้หรือขายได้ในราคาที่ลดลง การเก็บผลไม้ไม่ครบตามจำนวนที่ตกลงไว้ในสัญญา หรือเลือกเก็บผลไม้บางส่วน ในกรณีที่มีการทำสัญญารับซื้อแบบเหมาสวน ส่งผลให้เกษตรกรไม่สามารถขายผลไม้ให้ผู้รับซื้อผลไม้รายอื่นได้หรือขายผลไม้ได้ในราคาที่ลดลง และพฤติกรรมในลักษณะอื่น ๆ ที่เป็นการปฏิบัติทางการค้า ที่ไม่เป็นธรรมอันเป็นผลให้เกิดความเสียหายแก่เกษตรกร เป็นต้น

นอกจากนี้ยังได้กำหนดเงื่อนไขเรื่องของการตกลงร่วมกัน หรือการฮั้วกัน ของผู้รับซื้อผลไม้ในตลาดเดียวกัน ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 54 แห่งพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า ที่เป็นการร่วมกันผูกขาดหรือลดการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขัน ได้แก่ 1.การร่วมกันกำหนดราคาซื้อหรือเงื่อนไขทางการค้าใดๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมที่ส่งผลต่อราคาผลไม้

2.การร่วมกันจํากัดปริมาณของสินค้าที่ผู้รับซื้อผลไม้แต่ละรายจะซื้อตามที่ตกลงกัน 3.การร่วมกันกำหนดแบ่งท้องที่หรือกำหนดเกษตรกรผู้รับซื้อผลไม้แต่ละรายจะซื้อผลไม้ อันเป็นการจำกัดทางเลือกขายของเกษตรกร

“มั่นใจว่าแนวปฏิบัติดังกล่าว จะช่วยสร้างมาตรฐานในการปฏิบัติทางการค้าให้เป็นไปตามหลัก การประกอบธุรกิจที่เสรีและเป็นธรรม ตลอดจนแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างเกษตรกรและผู้รับซื้อผลไม้ (ล้ง) ทำให้เกษตรกรได้รับการดูแล ส่วนล้งก็จะได้ทำธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา และยังเป็นการยกระดับมาตรฐานทางการค้าในธุรกิจรับซื้อผลไม้ของประเทศด้วย” นายสมศักดิ์กล่าว