posttoday

"ณพ" เร่งเคลียร์คดีให้จบโดยเร็ว ประกาศพร้อมส่ง "วินด์ เอนเนอร์ยี่" เข้าตลาดหุ้น

19 สิงหาคม 2563

"ณพ ณรงค์เดช" เปิดใจครั้งแรกหลังเกิดคดีฟ้องร้อง มั่นใจในข้อเท็จจริง ทุกอย่างจะจบลงด้วยดี พร้อมเดินหน้าธุรกิจพลังงาน ปักธง "วินด์ เอนเนอร์ยี่"ต้องเข้าเทรดในตลาดหุ้นให้ได้ หวังเป็นผู้นำพลังงานลมรายใหญ่ในอาเซียน แย้มรอปิด 3 ดีล ลงทุนในต่างประเทศเร็วๆนี้

นายณพ ณรงค์เดช รองประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH)เปิดเผยว่า วันนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ได้ออกมาพบสื่อมวลชน หลังมีข่าวคดีฟ้องร้องที่เกิดขึ้นกับตนเองและบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โดยในส่วนของคดีความมีอยู่หลายคดี ทั้งที่เริ่มโดยนายนพพร (ผู้ขายหุ้นวินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง) และครอบครัวของตน ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่จะมีกลยุทธ์การสร้างคดีให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อกดดันตน

ทั้งนี้หลายคดีก็ยุติไปแล้ว ซึ่งตนเป็นฝ่ายชนะคดีทั้งหมด เช่น คดีอนุญาโตตุลาการ ที่บริษัทของนายนพพร มาฟ้องเพื่อยกเลิกการขายหุ้นให้กับตน อนุญาโตตุลาการก็ตัดสินว่า ยกเลิกการขายหุ้นไม่ได้ หรือคดีที่ฮ่องกงที่บริษัทของนายนพพร และครอบครัวของตนมาฟ้องตน ศาลฮ่องกงได้ยกคดีทิ้งไปทั้งหมดแล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่พูดเพราะเป็นเรื่องครอบครัว มีความละเอียดอ่อน

ส่วนคดีอื่นๆ ยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง ซึ่งมีทั้งที่บริษัทของนายนพพรไปฟ้องที่ประเทศอังกฤษและมาฟ้องในประเทศไทย รวมทั้งที่ครอบครัวของตน มาฟ้องในศาลไทยด้วย แต่ก็ยังเชื่อมั่นในข้อเท็จจริงว่า เมื่อศาลในแต่ละคดีได้ฟังทั้งหมดแล้ว จะให้ความเป็นธรรมกับตนเอง

สำหรับแผนการบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ ฯ ระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ นั้น ยังมีหลายปัจจัยที่เป็นอุปสรรค โดยที่ผ่านมาได้นำข้อมูลไปปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการกับคณะทำงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) มาเป็นระยะๆ เพื่อประเมินความเป็นไปได้ที่จะได้รับอนุญาตให้ทำ IPO และระดมทุน โดยยังยืนยันตามแผนเดิม ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นรายย่อยที่มีอยู่ 200 กว่าราย

อย่างไรก็ตามด้านการขยายพอร์ตกำลังผลิตไฟฟ้านั้น ขณะนี้บริษัทฯยังรอความชัดเจนนโยบายการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานลมจากนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ก่อนว่าจะเปิดรับซื้อเมื่อไหร่และปริมาณเท่าไหร่ ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศนั้น ขณะนี้ได้เจรจาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 3 โครงใหญ่ในต่างประเทศ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ตอนนี้

ปัจจุบัน บริษัทวินด์ เอนเนอร์ยี่ บริษัทฯ เป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทนในไทยและภูมิภาคอาเซียน ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าจากพลังงานลมรวมทั้งสิ้น 8 โครงการ ในจังหวัดนครราชสีมาและชัยภูมิ มีกำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้น 717 เมกะวัตต์ เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าแก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้แก่ 1.โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม FKW กำลังผลิตติดตั้ง 103.5 MW เริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ (COD) ปี 2555 2.โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม KR2 กำลังผลิตติดตั้ง 103.5 MW เริ่ม COD ปี 2556

3.โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม WTB กำลังผลิตติดตั้ง 60 MW เริ่ม COD ปี 2559 4.โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม T1 กำลังผลิตติดตั้ง 90 MW เริ่ม COD ปี 2561 5.โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม T2 กำลังผลิตติดตั้ง 90 MW เริ่ม COD ปี 2561 6.โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม T3 กำลังผลิตติดตั้ง 90 MW เริ่ม COD ปี 2561 7.โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม NKS กำลังผลิตติดตั้ง 90 MW เริ่ม COD ปี 2561 และ 8.โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม T4 กำลังผลิตติดตั้ง 90 MW เริ่ม COD ไตรมาส 1 ของปี 2562

นายณพ กล่าวว่า ทั้ง 8 โครงการ สร้างผลประกอบการที่ดีให้กับบริษัท โดยปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 12,058 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 5,888 ล้านบาท ขณะที่ในช่วง 6 เดือนแรก(ม.ค.-มิ.ย.)ปี 2563 มีรายได้รวม 4,320 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,261 ล้านบาท โดยมีทุนจดทะเบียน 1,088 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามโครงสร้างผู้ถือหุ้นในบริษัทฯ ประกอบด้วย บริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด ถือหุ้นประมาณ 40% โดยจุดเริ่มต้นการเข้าสู่ธุรกิจด้านพลังงานเกิดขึ้นเมื่อปี 2558 เนื่องจากสนใจลงทุนในธุรกิจพลังงานลม จึงจัดตั้งบริษัท เคพีเอ็น เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด และ Fullerton Bay Investment Limited เพื่อซื้อหุ้น 100% ในบริษัท Next Global Investment Limited บริษัท Symphony Partner Limited และบริษัท Dynamic Link Venture Limited ซึ่งจดทะเบียนที่ฮ่องกง เป็นของนายนพพร ศุภพิพัฒน์ (ผู้ถือหุ้นเดิม) โดยทั้ง 3 บริษัทฯ ถือหุ้น 100% ในบริษัท Renewable Energy Corporation จำกัด (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เคพีเอ็น เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ) ซึ่งมีสถานะเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ถือหุ้น 59.46% ใน WEH แต่ในปัจจุบัน หุ้น WEH ในส่วนของตนถูกโอนขายไปให้แก่ บริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด ที่จดทะเบียนในฮ่องกง และเป็นของคุณหญิงกอแก้ว บุญยะจินดา ซึ่งเป็นคุณแม่ของภรรยา ซึ่งมีการทำนิติกรรมบางส่วนผ่านนายเกษม ณรงค์เดช (บิดา) จนกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างตนกับพี่น้องในครอบครัว ณรงค์เดช