‘สุริยะ’เร่งเครื่อง เติมสภาพคล่องเอสเอ็มอี เสิร์ฟเงินกู้ดอกเบี้ยถูก ฝ่าวิกฤตโควิด
‘สุริยะ’ เดินสายลงพื้นที่สมุทรปราการ ผลักดันโครงการ “เติมพลัง SMEsไทย ก้าวไปด้วยกัน” จัดหาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ฟื้นฟูธุรกิจเอสเอ็มอีไทย
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการ “เติมพลัง SMEsไทย ก้าวไปด้วยกัน” ต.แพรกษา จ.สมุทรปราการ ว่าได้สั่งการให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ดำเนินโครงการ “เติมพลัง SMEsไทย ก้าวไปด้วยกัน” ในพื้นที่จ.สมุทรปราการ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจังหวัดสมุทรปราการและใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษจาก ธพว. เพื่อให้มีเงินทุนไปใช้หมุนเวียน ฟื้นฟูธุรกิจ และส่งเสริมการจ้างงานในพื้นที่
ทั้งนี้รัฐบาลโดยการนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยและเล็งเห็นถึงปัญหาของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากเอสเอ็มอีเปรียบเสมือนฟันเฟืองที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย จึงมอบหมายนโยบายให้ช่วยเหลือเอสเอ็มอีเร่งด่วน ด้วยการจัดสรรเงินทุนให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นผู้ดำเนินการ
สำหรับ จ.สมุทรปราการ เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและมีความสำคัญทางเศรษฐกิจสูง เพราะมีโรงงานอุตสาหกรรมระดับเอสเอ็มอีตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก การลงพื้นที่จัดโครงการในครั้งนี้ ธพว.ได้จัดเตรียมทีมงานให้คำแนะนำและช่วยบริการพาเข้าถึงสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษต่างๆ ได้ทันที เช่น สินเชื่อรายเล็ก Extra Cash เพื่อกลุ่มนิติบุคคลธุรกิจท่องเที่ยว วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยเพียง 3% ต่อปี ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และ สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.875% ต่อปี ใน 3 ปีแรก เป็นต้น
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ธพว.สนับสนุนสินเชื่อให้แก่เอสเอ็มอีในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จำนวน 431 ราย วงเงิน 565 ล้านบาท โดยเป็นการอนุมัติเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำนวน 250 ราย วงเงิน 285 ล้านบาท
นายสุริยะ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงอุตสาหกรรม มอบหมายให้ ธพว.ช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยดำเนินมาตรการพักชำระหนี้เงินต้น สูงสุด 12 เดือน ควบคู่กับเติมทุนใหม่เสริมสภาพคล่อง วงเงิน 1,700 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1% ต่อปี อายุสัญญา 5 ปี ให้แก่เอสเอ็มอีในโครงการสินเชื่อประชารัฐต่างๆ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และเป็นทุนหมุนเวียน โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 มีเอสเอ็มอีเข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้เงินต้น รวม 3,123 ราย วงเงิน 6,230.27 ล้านบาท และได้รับอนุมัติสินเชื่อใหม่ 2,364 ราย วงเงิน 534.62 ล้านบาท
ด้านน.ส.นารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธพว. กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย. 2563 เป็นต้นมา ธพว. ได้จัดกิจกรรม “SME D Services Extra Cash” ในหลายพื้นที่ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ระยอง น่าน และนครราชสีมา เป็นต้น สามารถสร้างประโยชน์ให้เอสเอ็มอี 276 ราย พาเข้าถึงแหล่งทุนแล้ววงเงินกว่า 326 ล้านบาท และจะดำเนินการจัดอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศต่อไป