posttoday

เฮงเค็ล มองตลาดทำผม ยุค "New Normal' คนหันทำสีผมด้วยตัวเองพุ่ง

29 พฤษภาคม 2563

"เฮงเค็ล" เผย 3 เทรนด์แฟชั่นผม ครึ่งหลังปี 2563 ที่จะมา รับพฤติกรรมลูกค้าหลังวิกฤตโควิด-19 คลี่คลาย แล้วร้านทำผม-ซาลอน จะต้องไปทิศทางไหน

นายธีรศักดิ์ ไตรทิพย์ ผู้จัดการทั่วไป เฮงเค็ล บิวตี้แคร์ โปรเฟสชั่นแนล ประเทศไทย ผู้ทำตลาดผลิตภัณฑ์ ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน และผลิตภัณฑ์บิวตี้แคร์ เปิดเผยว่า จากมาตรการล็อคดาวน์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 และเข้าสู่สภาวะคลายล็อคดาวน์เฟส 2 พบว่าผู้บริโภค มีแนวโน้มความต้องการผลิตภัณฑ์ทำสีผมด้วยตัวเอง และคาดว่าเทรนด์นี้จะดำเนินต่อไปเนื่อง จากผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการเข้าร้านทำผมมากขึ้น จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การทำสีผม การดูแลและการดัดผม เป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ สะดวกมากนัก

สำหรับ เทรนด์การทำผมในปี2563 เฮลเคล มองว่าาการทำสีผมแบบพรีเมียม การดัดผมแบบดิจิตอล การดูแลรักษาเส้นผมแบบระดับพรีเมียมในร้านเสริมสวย จะเป็นแนวโน้มสำคัญสำหรับครึ่งปีหลังของปี 2563 แต่อย่างไรก็ตามระยะเวลาที่จะอยู่ในร้านเสริมสวยเพื่อทำสิ่งเหล่านี้ ก็ต้องมีการปรับให้สอดคล้องกับมาตรการรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลด้วย

นายธีรศักดิ์ กล่าวว่าในปีนี้ ตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มที่จะเติบโตมากที่สุด คือ 1.ผลิตภัณฑ์ทำสีผม โดยเฉพาะสีผมแฟชั่นในหมู่วัยรุ่น ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก และ 2.กลุ่มคนเริ่มทำงาน ทั้งชายและหญิง ที่ให้ความสําคัญกับภาพลักษณ์ ส่วนเทรนด์สุดท้าย 3.คือ การดัดผมแบบดิจิทัล และการดูแลผมแบบองค์รวม

สำหรับ แผนการตลาดของเฮงเคล ประเทศไทย คือ การพัฒนาศักยภาพช่างผมมืออาชีพ ซึ่งถือเป็นคู่ค้าธุรกิจที่สำคัญ ผ่านการจัดฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเทคนิคการทำผมแบบสากลนิยม เทรนด์ใหม่ และการบริหารจัดการธุรกิจ โดยแต่ละปี เฮงเค็ล จัดฝึกอบรม(เทรน)ช่างทำผม 2,000-3,000 คน ทั้งในประเทศไทย กัมพูชาและเมียนมา

นอกจากนี้ เฮงเค็ล ยังมีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในตลาดค้าปลีก อาทิ Freshlight, Palett, Got2b และ Natural & Easy ส่วนช่างผมมืออาชีพ เฮงเค็ล มีแบรนด์ Igora Royal, Igora Vibrance, BlondMe, และ Joico เป็นต้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นดิจิทัล เพื่อช่วยช่างทำผม สามารถให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น คือ แอพพลิเคชั่น House of Colors หรือ Essential Looks ซึ่งช่างทำผมสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งไว้บนโทรศัพท์มือถือ

"แอพฯ นี้จะช่วยให้ช่างทำผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคการทำสีผม เก็บรักษาข้อมูลของลูกค้าและการบริการที่ผ่านมา ติดตามการสั่งซื้อ และเก็บข้อมูลสีผมที่อยู่ในสต๊อก ที่สำคัญ แอพพลิเคชั่นนี้ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับ เทรนด์สีผมล่าสุด ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจของคอลเลคชั่นสีผมใหม่ ในคลังข้อมูลEssential Look รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิควิธีการนำเสนอคอลเลคชั่นสีผมใหม่ให้กับลูกค้าที่ร้าน" นายธีรศักดิ์ กล่าว

ขณะที่ รายได้ธุรกิจ ยังมาจากทั้งช่องทางร้านค้ารูปแบบเดิม และ เพิ่มขึ้นในช่องทางออนไลน์ โดยธุรกิจดูแลความงามในส่วนของเส้นผมในประเทศไทย ปี 2563 ยังเติบโต แม้จะได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบการปิดกิจการของร้านทำผม ช่วงเวลาหนึ่ง