posttoday

คุยกับ"สุนทร งามเกิดศิริ"เจ้าพ่อนำเข้ารถหรู ปมร้อน"ไวรัสโควิท-19" ดิสรัปชันโลกธุรกิจทั้งใบ

15 มีนาคม 2563

"ในทุกวิกฤต มีโอกาสเสมอ" ถือ มุมมองเชิงบวก ของนักธุรกิจที่ล้วนแต่ประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับ "สุนทร งามเกิดศิริ" เจ้าของธุรกิจพันล้าน

ตัวแทนนำเข้ารถหรู Toyota Alphard, Toyota Lexus, Porche รวมถึงกิจการ แกเลอรีศิลปะ ณ. สยามแกเลอรี่ ที่ตั้งอยู่บนทำเล ถนนลาดพร้าว

ที่เจ้าตัวบอกว่า แม้จะผ่านร้อน หนาว ทางธุรกิจในรอบ 20 ปีมานี้ หลายครั้งหลายครา แต่ทว่า จากวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของไวรัส ไควิด-19 ในครั้งนี้ กลับไม่เหมือนครั้งไหนๆที่ผ่านมา

ด้วย 'โควิด-19" มองว่าเป็น "ดิสรัปชัน ระดับโลก" ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีเดิมๆ ของทั้งผู้คน และธุรกิจ จากทั้งหมด เคย "เป็น อยู่ คือ" ให้เปลี่ยนแปลงไปแทบพริบตา ในช่วง เพียงแค่เกือบสองเดือน ที่ผ่านมา

นับแต่กระแสข่าว การแพร่ระบาดเชิ้อไวรัสโคโรน่า ที่มีจุดตั้งต้นมาตั้งแต่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ที่เริ่มกระจายมาในช่วงราวๆเทศกาลตรุษจีน เมื่อปลายเดือน มกราคม ปีนี้

สุนทร บอกว่า การเข้ามาดิสรัปชันโลก ผ่านไวรัสโควิด-19 ในครั้งนี้ เห็นได้อย่างชัดเจนแล้ว เป็น ดิสรัปทีฟ ธุรกิจที่เคยเติบโตดีมาต่อเนื่อง ให้เปลี่ยนแปลงไปในเพียงช่วงเวลาไม่นานนัก เห็นได้ชัดในภาคการท่องเที่ยว ซึ่งในหลายประเทศ ทั้ง อิตาลี ญ๊่ปุ่น หรือ แม้แต่ไทย ที่ล้วนต่างใช้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์สำคัญ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในประเทศ มานานหลายทศวรรษ

กระทั่งเมื่อเเกิดเหตุวิกฤตไวรัสโควิด-19 ขึ้น ก็ทำเอาประเทศที่พึ่งพาเศรษฐกิจท่องเที่ยวแทบทุกประเทศ ไปไม่เป็นเลยทีเดียว ด้วยยังไม่รู้ว่าจะต้องจับต้นชนปลายอย่างไร กับวิกฤตในครั้งนี้ รวมไปถึง กระบวนการทางสาธารณสุข ทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไปหมดเช่นกัน

หรือ แม้ว่า ภาคอุตสาหกรรมการส่งออก ที่ในแตะละประเทศล้วนพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ตลอดช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ผ่านข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศหลายฉบับ เพื่อหาข้อตกลงทางภาษีสินค้าระหว่างประเทศ แต่จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในรอบนี้กลับส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ ตั้งแต่ต้นน้ำ ถึง ปลายน้ำ ในการค้าระหว่างประเทศ ไปด้วยเช่นกัน

ทั้งหมดนี้ สุนทร มองว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่ทุกประเทศทั่วโลก อาจจะต้องมา "รีเซ็ท" แผนเศรษฐกิจ-ธุรกิจ กันใหม่หมด ด้วยจากนี้อาจจะพึ่งพิงเครื่องยนต์เศรษฐกิจแบบเดิมๆ ไม่ได้อีกต่อไปในอนาคต ซึ่งรวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจ ที่ต้องเตรียมพร้อมเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาด้วย จากการเข้ามาของ ไวรัสโควิด-19 ที่เข้ามาสะดุดจังหวะหมุนของโลกทั้งใบ

อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยลบ ที่แม้ว่าจะกระทบเศรษฐกิจไปทั่วโลก แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังเป็นโอกาสทางธุรกิจได้เสมอ โดยเฉพาะในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ความสะดวกสบายของผู้คน ที่มีแนวโน้มเติบโตสวนทางในเวลานี้

เห็นได้ชัดในธุรกิจบริการจัดส่งอาหาร หรือ "ฟู้ด เดลิเวอรี" ที่เติบโตสูงในช่วงนี้ หรือ ธุรกิจการซื้อขายออนไลน์ อีคอมเมิร์ซ ก็ขยายตัวตามเช่นกัน ที่ล้วนมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่ต่างหลีกเลี่ยงการสัมผัสระหว่างกัน และเลือกไลฟ์ไสตล์ที่จะอยู่กับบ้าน มากขึ้น ดังนั้นแนวโน้มธุรกิจให้บริการส่งตรงถึงหน้าประตูบ้านลูกค้า ก็จะขยายการเติบโตมากขึ้นไปอีกนับจากนี้

และในจังหวะนี้เอง ที่ "สุนทร" มองเห็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ เช่นกัน คือ บริการทำคาามสะอาด ภายใต้ชื่อ "เซฟตี คลีน" (Safety Clean) มีจุดเด่น คือ อุปกรณ์ และ ผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการ มีมาตรฐานนำเข้าจากต่างประเทศ และที่สำคัญผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรคนั้นใช้ส่วนผสมธรรมชาติ (ออร์กานิค) มีความปลอดภัยสูง

นอกจาการนี้ Safety Clean ยังให้ความสำคัญและใส่ใจต่อสังคม ผ่านกิจกรรม CSR เช่นกัน โดยในช่วงที่ผ่านมา Safty Clean ได้เข้าไปให้บริการทำความสะอาดเต็มรูปแบบ ในพื้นที่สาธารณะ ต่างๆ ล่าสุด ให้บริการทำความสะอาดในสถานศึกษา วัด และ สถานที่ราชการ

สุนทร ทิ้งท้ายว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ดังกล่าว ในเบื้องต้นยังไม่ส่งผลกระทบกับธุรกิจในกลุ่มบริษัทมากนัก ด้วยเกือบทั้งหมดเป็นธุรกิจบริการที่จับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ และค่อนข้างมีกำลังซื้อสูง เช่น รถยนต์นำเข้า สัดส่วนรายได้ 70% ธุรกิจซื้อขายผลงานแกเลอรี 15% และอีก 10% จากธุรกิจของสะสม เป็นต้น

โดยปีนี้คาดว่ากลุ่มบริษัทจะงยังมีผลประกอบการรวมไม่ต่ำกว่า พันล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 62 ที่ผ่านมา

โดย ดวงใจ จิตต์มงคล