posttoday

เกาะติด 3 การไฟฟ้า เดินหน้าแผนสมาร์ทกริดไทย นำร่องโครงการเสริมศักยภาพระบบไฟฟ้า

07 กุมภาพันธ์ 2563

สนพ.โชว์โครงการนำร่องแผนสมาร์ทกริดระยะสั้นจาก 3 การไฟฟ้า ปักธงยกระดับระบบไฟฟ้าของไทย ตั้งเป้าฮับอาเซียน

นายอนิรุทธิ์ ธนกรมนตรี โฆษกสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า สนพ.ได้ติดตามความก้าวหน้าของแผนขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านสมาร์ทกริดของประเทศไทยระยะสั้น 4 ปี (พ.ศ. 2560 – 2564) ซึ่งเป็นระยะที่ 2 ตามแผนแม่บทการพัฒนาระบบโครงข่ายสมาร์ทกริดของประเทศไทย พ.ศ. 2558 –2579 ซึ่งมีเงินลงทุนทั้งสิ้นเกือบ 2 แสนล้านบาท โดยเป็นช่วงพัฒนาโครงการนำร่องเพื่อทดสอบความเหมาะสมทางเทคนิคและความคุ้มค่าของการลงทุนในแต่ละเทคโนโลยี ซึ่งโครงการ ของ 3 การไฟฟ้าคือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มีความคืบหน้าตามลำดับ

สำหรับกฟภ.เริ่มดำเนินการโครงการต่างๆ นำร่องไปแล้ว อาทิ โครงการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะในพื้นที่เมืองพัทยา โดยเปลี่ยนมิเตอร์เก่าให้เป็นสมาร์ทมิเตอร์ทั้งหมดเป็นตัวเลข 116,308 เครื่อง คาดจะแล้วเสร็จในปี 2563 และโครงการด้านระบบไมโครกริดและระบบกักเก็บพลังงาน ได้จัดทำโครงการในพื้นที่ที่ห่างไกลจากสายส่งและมีปัจจัยเรื่องความปลอดภัยอย่างพื้นที่อ.เบตง จ.ยะลา และพื้นที่ในอ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดย กฟภ.ร่วมกับ กฟผ. จัดทำโครงการนำร่องระบบไมโครกริด โดยสร้างระบบไฟฟ้าที่แยกอิสระไม่ต้องพึ่งสายส่งหลัก และมีระบบกักเก็บพลังงานไว้ใช้ในพื้นที่ตัวเอง

โครงการวิจัย EV Station ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดลองใช้งาน ซึ่งมี Application เพื่อใช้ในการบริหารจัดการการชาร์จ โดยมีสถานีทั้งหมด 11 แห่ง อาทิ หัวหิน ปากช่อง โคราช อยุธยา คาดว่าจะเปิดใช้งานประมาณเดือน เมษายน 2563

โครงการวิจัย Power Pack คือการศึกษาระบบกักเก็บพลังงานซึ่งจะติดตั้งในบ้าน หากในอนาคตผู้ผลิตมีการติดตั้ง solar rooftopกันมากขึ้น ซึ่งในงานวิจัยได้จัดทำต้นแบบระบบกักเก็บพลังงาน ( ESS )ที่ขนาด 5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งก็เป็นอีกทางเลือกที่จะนำไปใช้แก้ปัญหาในพื้นที่ห่างไกลในพื้นที่ที่มีการติดตั้งโซลาร์อยู่แล้ว และอาจจะเป็นธุรกิจ หรือ Product ใหม่ของ กฟภ. ในการให้บริการกับผู้ใช้ไฟฟ้าในอนาคต

ด้านกฟน. ได้จัดทำโครงการนําร่องระบบบริหารจัดการพลังงานในอาคารที่ทําการการไฟฟ้านครหลวง เพื่อเชื่อมต่อกับระบบสมาร์ทกริด ขณะนี้ดำเนินการแล้วเสร็จ โครงการนําร่องการตอบสนองด้านโหลดและกลไกราคาในพื้นที่กทม. และปริมณฑล (DR : LAMS) เพื่อให้ผู้ใช้ไฟฟ้ามีส่วนร่วมต่อการบริหารจัดการพลังงานของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดความคุกมคาม คาดว่าจะแล้วเสร็จ ภายในปี 2565

ส่วนโครงการนําร่องระบบไมโครกริดของ กฟน. เพื่อศึกษาระบบไมโครกริดและเป็นอาคารตัวอย่างในการเรียนรูประบบ Facility Microgrid ของ กฟน. เป็นการรองรับระบบไมโครกริดและการขยายตัวของพลังงานทางเลือกในเขตพื้นที่บริการ บริหารจัดการ และควบคุมไมโครกริดในเขตพื้นที่บริการได้แบบ Real time คาดแล้วเสร็จในปี 2564 นอกจากนี้ ยังมีโครงการนำร่องอื่นๆ อยู่ระหว่างดำเนินการ อาทิ Smart Metro Grid Project เพื่อใช้งานเทคโนโลยีระบบสมาร์ทมิเตอร์ก่อนใช้ทั่วพื้นที่ กฟน. เป็นต้น

ด้านกฟผ.ได้ปรับปรุงโรงไฟฟ้าและระบบส่งให้มีความทันสมัยมากขึ้น (Grid Moderization) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพยากรณ์พลังงานหมุนเวียน Big Data รวมถึงโรงไฟฟ้าที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และจัดทำแผนพัฒนา Grid Connectivityเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบส่ง รองรับการส่งถ่ายไฟฟ้าในภูมิภาค มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางไฟฟ้าของอาเซียน เตรียมพร้อมการเปลี่ยนผ่านการพัฒนาระบบผลิตไฟฟ้าจากฟอสซิล ไปเป็นพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบไฮบริด สุดท้ายนำไปสู่เรื่องโรงไฟฟ้าชุมชน สร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจฐานราก

อย่างไรก็ตามแผนพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าสมาร์ทกริดมีเป้าหมาย คือ 1.ยกระดับความสามารถของระบบไฟฟ้า (Smart System)ทำให้ระบบไฟฟ้ามั่นคงและมีประสิทธิภาพ ลดความต้องการโรงไฟฟ้าสำรอง จำนวนการเกิดไฟฟ้าดับ และการสูญเสียจากการส่งและจำหน่ายไฟฟ้า 2.ยกระดับคุณภาพบริการที่มีต่อผู้ใช้ไฟฟ้า (Smart Life)ส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพผ่านการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ไฟฟ้า ใช้เทคโนโลยีระบบโครงข่ายสมาร์ทกริดเข้ามาช่วยบริหารจัดการความต้องการใช้พลังงาน ในรูปแบบ Smart Appliances, EV, EMS/DR/DSM, Smart Billing

และ 3.ยกระดับโครงสร้างระบบไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Society ) ส่งเสริมให้มีการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้มากขึ้น โดยที่ระบบไฟฟ้ายังสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพดังเดิมหรือมากขึ้น สร้างสังคมสีเขียวและคาร์บอนต่ำ พัฒนาระบบไมรโครกริด เพื่อการพัฒนาพลังงานอย่างยั่งยืนในชุมชน