คิดเชิงกลยุทธ์ "สมศักดิ์ โพธิ์ใบกุล" ดีลเลอร์รถยนต์ 5 แบรนด์ยักษ์

ปรับตัวธุรกิจยุคดิสรัปท์ รับพฤติกรรมลูกค้ายุคใหม่ สั่งซื้อรถผ่านระบบออนไลน์พุ่ง โฟกัส "เซอร์วิส มายด์" เปิดเกมรักษาลูกค้าเก่าขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่ บริหารเสี่ยงธุรกิจ

ในปี 2562 ที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจหลายค่าย ออกมาสรุปยอดขายรถยนต์ในประเทศ น่าจะหดตัวตั้งแต่ -2% - 4% หรือ มียอดขายราว 1 ล้านคัน ส่วนในปี 2563 นี้คาดอยู่ที่ 9.6 แสนคัน หดตัวราวๆ -4% อีกเช่นกัน ปัจจัยหลักมาจากเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวต่อเนื่อง แต่ว่าก็ยังมีดีมานด์จากผู้บริโภคที่ต้องการรถคันแรก และ เปลี่ยนรถใหม่อยู่

ดังนั้น "ดีลเลอร์" รถยนต์ในปีนี้ อาจจะต้องเหนื่อยขึ้นไปอีก กับการเร่งปิดยอดขายรถยนต์ให้เป็นไปตามเป้า ที่แต่ละโชว์รูมรถยนต์ค่ายต่างๆ ต่างงัดกลยุทธ์ ทั้งด้าน ราคาโปรโมชัน สุดเร้าใจ ไปจนถึงการบริการหลังการขาย เพื่อดึงลูกค้าใหม่ และรักษาฐานลูกค้าเก่าไปพร้อมกัน

สมศักดิ์ โพธิ์ใบกุล" ประธานกลุ่ม ออโต้ แกลเลอรี่

เช่นเดียวกับ การบริหารธุรกิจของ "สมศักดิ์ โพธิ์ใบกุล" ประธานกลุ่ม ออโต้ แกลเลอรี่ ผู้ดำเนินธุรกิจตัวแทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) รถยนต์ยี่ห้อ JEEP FORD MAZDA NISSAN และ MG ด้วยจำนวน โชว์รูมทั้งสิ้น 23 แห่ง ในกรุงเทพฯและปริมณฑล

เพิ่มโขว์รูม "มิตซูบิชิ" กระจายเสี่ยงธุรกิจดีลเลอร์

จากประสบการณ์ ผ่านร้อน หนาว ในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์มานานร่วม 30 ปี ล่าสุด "สมศักดิ์" ร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจกับ Mitsubishi Motors เพื่อขยายอาณาจักรดีลเลอร์ โชว์รูมรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ พร้อมเปิดให้บริการสาขาต้นแบบ Corporate Identity แห่งแรกที่บางปู จังหวัดสมุทราปราการ ในชื่อ MITSU S AUTO BANGPU (มิตซู เอส ออโต บางปู)

สมศักดิ์ เล่าเหตุผลการขยายธุรกิจดีลเลอร์ และ เปิดโชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิ สาขาบางปู ด้วยมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ คือ ความต้องการรถยนต์ของคนในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมีทั้ง กลุ่มครอบครัว กลุ่มคนทำงาน กลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือ กลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการท่องเที่ยว ซึ่งรถยนต์มิตซูบิชิ สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้ จากความหลากหลายของรุ่นรถยนต์มิตซูบิชิที่ทำตลาดในปัจจุบัน เช่น ปาเจโร ไทรทัน เอ็กซ์แพนเดอร์ มิราจ หรือ แอททราจ เป็นต้น

นอกจากนี้ โชว์รูมมิตซูบิชิ สาขาดังกล่าว ยังสะท้อนถึงเอกลัษณ์(Corporate Identity)แบรนด์มิตซูบิขิ ทั้งด้านเทคโนโลยี สมรรถนะยานยนต์ของมิตซูฯ ผ่านการออกแบบและระบบการให้บริการอีกด้วย และยังถือเป็นโชว์รูมรถยนต์ให้บริการครบวงจร ที่มีขนาดใหญ่สุดในจังหวัดสมุทรปราการ ด้วยมีพื้นที่กว่า 6.5 ไร่

ลูกค้า หันซื้อ/จองรถผ่านระบบออนไลน์พุ่ง

สมศักด์ บอกว่า นอกจากการขยายการทำตลาดรถยนต์ผ่านแบรนด์มิตซูบิชิ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยง เพื่อสร้างรายได้จากการทำตลาดรถยนต์แบรนด์ใหม่ๆเพิ่มแล้ว

บริษัท ยังให้ความสำคัญกับการทำตลาดออนไลน์มากขึ้น เพื่อรองรับพฤติกรรมลูกค้า กลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่หันไปเลือกดูรถยนต์โมเดลใหม่ๆ ไปจนถึง การสั่งจอง การสั่งซื้อ รถยนต์แต่ละแบรนด์ ผ่านแพล็ตฟอร์มออนไลน์ เป็นจำนวนมากขึ้น โดยจำนวนรถยนต์ยี่ห้อต่างๆที่บริษัททำตลาดในปัจจุบัน มียอดสั่งจอง/สั่งซื้อ ผ่านช่องทางออนไลน์สูงถึง 80-90% ทีเดียว

โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ ที่สนใจสั่งซื้อ สั่งจองรถยนต์ จะติดต่อทั้งผ่านแพล็ตฟอร์มตัวแทนกลางผู้จำหน่ายรถยนต์ ไปจนถึงช่องทางสังคมออนไลน์ของพนักงานขาย ในแพล็ตฟอร์มต่างๆ ทั้งเฟซบุ๊ค หรือ แอปพลิเคชันไลน์ เป็นต้น

และจากพฤติกรรมของผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนไป เป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญทำให้กลุ่มบริษัทฯ ปรับตัวรูปแบบการทำงานใหม่ตามไปด้วย ทั้งการให้ข้อมูลความรอบด้านโมเดล รถยนต์แต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่น ผ่านแพล็ตฟอร์ม ออนไลน์ต่างๆ ของบริษัท ไปจนถึงการเป็นพันธมิตรธุรกิจกับบริษัทผู้พัฒนาแพล็ตฟอร์มออนไลน์จำหน่ายรถยนต์ ด้วย

"หัวใจบริการ" คีย์ซัคเซส ธุรกิจ

ด้วยประสบการณ์ในตลาดดีลเลอร์รถยนต์ทั้ง 5 แบรนด์ดังมานานกว่า 30 ปี และยังครองตำแหน่งดีลเลอร์ อันดับ 1 รถยนต์ FORD ด้วยยอดขายกว่า 6,000 คัน/ปี ตลอดช่วงที่ผ่านมาร่วม 10 ปี สมศักดิ์ บอก "คีย์ ซัคเซส" การทำธุรกิจที่้ให้ความสำคัญ มาโดยตลอด คือ ความซื่อสัตย์ และ มีหัวใจบริการ "เซอร์วิส มายด์" ที่มาจากตั้งแต่ระดับตัวผู้บริหารสูงสุด ไปจนถึงพนักงานในกลุ่มบริษัททุกระดับ ทุกตำแหน่ง รวมกว่า 2,000 คน

สมศักดิ์ บอกว่า ลูกค้าที่เข้ามาโชว์รูมต่างมีความต้องการด้านบริการจากผู้ขาย ดังนั้น การให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ตรงไปตรงมา การดูแลลูกค้าตั้งแต่เดินเข้ามาในโชว์รูมตลอดกระบวนการจอง การส่งมอบรถยนต์ การซ่อมบำรุงดูแล รักษา ไปจนถึง การใส่ใจ ติดตาม กรณีรถที่ลูกค้ารับไปแล้วเกิดปีญหา ฯลฯ ทั้งหมดล้วนมีผลต่อการทำธุรกิจทั้งสิ้น

ด้วยหากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในครั้งแรกแล้ว มีความประทับใจในบริการของโชว์รูมแต่ละแบรนด์ ก็สามารถสร้างการบอกต่อ เพื่อแนะนำ คนรู้จัก คนใกล้ตัว มาใข้บริการได้อย่างต่อเนื่องได้เช่นกัน

โมเดล เทคโนโลยีใหม่ ฟื้นตลาดรถยนต์ในไทย

อย่างไรก็ตาม ในทุกการดำเนินธุรกิจย่อมมีทั้งขาขึ้นและขาลง ซึ่ง สมศักดิ์ บอกว่ากลุ่มบริษัทออโต้ฯ ก็เคยผ่านช่วงจังหวะดังกล่าวมาแล้วด้วยเช่นกัน จนถึงปัจจุบันที่แม้ว่าจะมีหลายคนมองว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญภาวะชะลอตัวในปีนี้ ซึ่งบริษัทเองก็ได้มอนิเตอร์สถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมบริหารธุรกิจอย่างระมัดระวังมากขึ้น

ส่วนหลักการบริหารองค์กรนั้น สมศักดิ์ ยังยึดหลักธรรมาภิบาลมาตลอด 30 ปีที่ผ่านมา พร้อมดูแลพนักงานรวมกว่า 2,000 คน แบบครอบครัว แบบพี่น้อง ให้สามารถพูดคุยปัญหา ได้ทุกเวลา เพื่อให้ฝ่ายบริหารแต่ละลำดับสามารถเข้าไปดูแลแก้ไขได้ทันการ ด้วยมองเป้าหมายหลัก คือ ให้พนักงานองค์กรอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และเมื่อพนักงานมีความสุข ทุกคนก็จะทำงานได้อย่างมีความสุขเช่นกัน

สมศักดิ์ เสริมว่า ตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา การทำธุรกิจย่อมเจอวิกฤต แต่ด้วยความที่นตัวเองเป็นคนที่มองปัญหาล่วงหน้าว่าอะไรจะเกิดขึ้นหรือเข้ามาก่อนแล้ว ทำให้ตัวเขาเองเลือก "ความพอเพียง" ในการทำธุรกิจ ไม่บุ่มบ่าม ดูจังหวะในการขยายธุรกิจ ช่วงไหนไปต่อ หรือว่าควรหยุดก่อน และที่สำคัญ คือ "จะไม่ทำอะไรที่เกินตัว"

ส่วนแผนในปี 2563 นี้ คือ ยังยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บริษัทก็ตจะยังดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมที่จะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสเสมอ ด้วยในปีนี้มองตลาดรถยนต์ในภาพรวม คาดว่าจะยังน่าลุ้นด้วยมีหลายค่ายรถยนต์ เตรียมเปิดโฉมตัวถังรุ่นใหม่ ในหลายรุ่นและ มีเทคโนโลยีใหม่ๆเข้าสู่ตลาด ที่จะผลักดันให้ตลาดรถยนต์ของไทยเติบโตขึ้นจากปีก่อน

โดยในปีนี้ กลุ่มบริษัทวางเป้าหมายมียอดขายรถยนต์ทุกยี่ห้อรวมกันเพิ่มขึ้นอีก 20,000 คัน และคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตธุรกิจราว 10% ส่วนหนึ่งจากการขยายแบรนด์ มิตซูบิชิ เข้ามาทำตลาด จากในปี2562 บริษัทมียอดขายรถยนต์ทุกยี่ห้อรวมกว่า 28,000 คัน