posttoday

คลังขาเดียวสู้ตายชงครม.คลอดอีก3มาตรการกระตุ้นศก.

25 พฤศจิกายน 2562

คลังฉายเดียวเสนอครม. แจกเงินชาวนา กระตุ้นลงทุนชุมชน และระดมแบงก์ปล่อยสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ

คลังฉายเดียวเสนอครม. แจกเงินชาวนา กระตุ้นลงทุนชุมชน และระดมแบงก์ปล่อยสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ

นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง เปิดเผยว่า ในวันนี้ (25 พ.ย.) กระทรวงการคลังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งเป็นมาตรการที่ต่อเนื่องกับชุดกระตุ้นมาตรการกระตุ้นที่ออกไปก่อนหน้านี้ เพื่อดูแลให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ประกอบด้วย 3 มาตรการ ได้แก่

1. มาตรการช่วยเหลือเกษตรกร โดยจะมีการจ่ายชดเชยค่าเก็บเกี่ยวให้กับผู้ปลูกข้าว รวมถึงแนวทางการช่วยเหลืออื่นๆ เพิ่มเติม

2. มาตรการกระตุ้นการลงทุนในระดับพื้นที่ และชุมชน เพื่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เนื่องจากการลงทุนขนาดใหญ่ได้มีการดำเนินการไปแล้ว เช่น การหักภาษี 1.5 เท่า

3. มาตรการสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงที่อยู่อาศัยมากขึ้น โดยจะเปิดให้ทุกสถาบันการเงินทั้งสถาบันการเงินของรัฐ และธนาคารพาณิชย์ ให้เข้ามาร่วมปล่อยกู้สินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งเชื่อว่าจะมีแรงจูงใจมากพอที่จะกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทย

สำหรับความคืบหน้าการพิจารณาแนวทางการจัดตั้งกองทุนที่จะมาทดแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) นั้น ขณะนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.), สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.), กรมสรรพากร และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) อยู่ระหว่างการสรุปรายละเอียดการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว โดยคาดว่าจะสามารถเสนอให้ ครม.พิจารณาได้ทันก่อนสิ้นปีนี้

ทั้งนี้ หลักการเบื้องต้น คือ การลงทุนในกองทุนใหม่ที่จะมาแทนกองทุน LTF เมื่อรวมกับการลงทุนในกองทุนเพื่อการเกษียณอายุ (RMF) จะสามารถหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 5 แสนบาทต่อปี และจะต้องลงทุนในระยะยาว 10-15 ปี เพราะต้องการเน้นให้มีการออมในระยะยาวมากกว่ากองทุน LTF ที่ผ่านมา

ในวันเดียวกันนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนเศรษฐกิจในขณะนี้มีส่วนที่เกี่ยวข้องค่อนข้างมาก ทั้งเรื่องการส่งออก เรื่องค่าครองชีพ เรื่องการเบิกจ่ายของภาครัฐ และการช่วยเหลือเกษตรกร การขับเคลื่อนเศรษฐกิจนั้น เครื่องยนต์เหล่านี้ต้องเดินไปข้างหน้าทุกตัว ที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งก็เป็นมาตรการเฉพาะส่วนที่กระทรวงการคลังเกี่ยวข้อง ที่คิดแล้วว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้การบริโภคขยายตัวได้มากขึ้น มีเงินไหลเวียนในระบบมากขึ้น คนจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เอกชนลงทุนมากขึ้น ตรงนี้คือส่วนที่กระทรวงการคลังทำได้ แต่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น ๆ ก็ต้องไปถามหน่วยงาน หรือผู้ที่รับผิดชอบ

"เมื่อก่อนมี 4 ขา ตอนนี้มีขาเดียว ทุกอย่างเรายังทำงานร่วมกัน สำหรับมาตรการดูแลเศรษฐกิจในมุมต่าง ๆ ในรายละเอียดต้องไปถามแต่ละกระทรวงดู ผมคิดว่าเขาพยายามอยู่ ถ้าอยากรู้ก็ต้องไปถามเอา" นายสมคิด กล่าว

นายสมคิด กล่าวอีกว่า ยืนยันว่ารัฐบาลยังเดินไปด้วยกัน แต่ละกระทรวงต้องขับเคลื่อนเคลื่อนเศรษฐกิจในส่วนที่รับผิดชอบ กระทรวงการคลังไม่ได้ไปทำเรื่องส่งออก เพราะไม่ใช่หน้าที่ แต่ที่ผ่านมาก็มีการหารือกันตลอดเวลา