posttoday

ทัพคอนเทนต์ไทยร่วมงาน AFM ที่สหรัฐ สร้างมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท

23 พฤศจิกายน 2562

ผู้ประกอบการไทย ร่วมเจรจาการค้างานตลาดหนังและแอนิเมชั่นที่สหรัฐ เกิดวงเจรจา312 ครั้ง สร้างมูลค่าเจรจาการค้ากว่า 2,000 ล้านบาท

ผู้ประกอบการไทย ร่วมเจรจาการค้างานตลาดหนังและแอนิเมชั่นที่สหรัฐ เกิดวงเจรจา312 ครั้ง สร้างมูลค่าเจรจาการค้ากว่า 2,000 ล้านบาท

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า บรรยากาศตลาดหนังและแอนิเมชั่น  American Film Market & Conferences (AFM) 2019  ซึ่งจัดขึ้น ที่นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ในปีนี้มีความคึกคักเต็มไปด้วยนักลงทุน ผู้สร้าง ผู้กำกับจากหลากหลายประเทศ ให้ความสนใจเข้าร่วมเจรจาการค้า จำนวนกว่า 312 ครั้ง หลังจบการเจรจาการค้ามีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ความสำเร็จที่เกิดขึ้น ได้รับความร่วมมือกับผู้ประกอบการคอนเทนต์ไทย ปรับกลยุทธ์ในการขายเป็นในรูปแบบ 6 แพ็คเกจ ได้แก่ 1.Series Package 2.Horror Package 3.Drama Package 4.Action Package 5.Animation Package 6.Production Services Package ทำให้การนำเสนอคอนเทนต์ กระชับ นำไปสู่การตัดสินใจซื้อได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ภายในงานมีบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างประเทศจำนวนมากให้ความสนใจเข้าร่วมเจรจาการค้าในครั้งนี้ อาทิ YOUKU ซึ่งเป็นบริษัท OTT แพลทฟอร์มจากประเทศจีน ในเครือ Alibaba มีผู้ใช้งานกว่า 500 ล้านคน และมียอดเข้าชมกว่า 800 ล้านครั้งต่อวันเป็นอันดับ 1 ใน10 ของ OTTแพลทฟอร์มของจีน

ทัพคอนเทนต์ไทยร่วมงาน AFM ที่สหรัฐ สร้างมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท

ด้าน IQIYI ซึ่งเป็นบริษัทวีดีโอออนดีมานด์ (VOD) แพลทฟอร์มจากประเทศจีนที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผู้ใช้งานต่อเดือนกว่า 500 ล้านคน มีผู้ใช้บริการ 6,000 ล้านชั่วโมงต่อเดือน ในเครือบริษัท BAIBU เป็นบริษัท Online Search Engine ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ซึ่งมีแผนจะเข้ามาเปิดบริการใน South East Asia ในปีหน้า รวมถึงประเทศไทยด้วย

NETFLIX ซึ่งเป็นบริษัท OTT แพลทฟอร์มจากประเทศสหรัฐอเมริกา และยังเป็นบริษัทโปรดักชั่นซึ่งมีผู้ใช้บริการ (รายเดือน) กว่า 148 ล้านรายทั่วโลก เป็นที่นิยมในประเทศไทยและนานาประเทศ อีกทั้งยังซื้อสิทธิ์ภาพยนตร์ของไทย   และจ้างผู้ประกอบการไทยผลิตภาพยนตร์เพื่อฉายเฉพาะใน NETFLIX เท่านั้น รวมไปถึงจ้างบริษัทโปรดักชั่นเซอร์วิสของไทย   เพื่อเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยอีกด้วย

STAR INDIA จากประเทศอินเดีย ในเครือ Walt Disney Company India ซึ่งเป็น Broadcast Media ที่มีผู้ชมมากถึง 790 ล้านคนต่อเดือนในประเทศอินเดีย และอีกกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ด้วยภาพยนตร์ไทยมีชื่อเสียงในขณะนี้ จึงทำให้ STAR INDIA เข้าซื้อภาพยนตร์ไทยเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตามการจัดงานในครั้งนี้นับเป็นโอกาสที่ดีต่อผู้ประกอบการคอนเทนต์ไทย ในการแสดงศักยภาพของการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ที่พร้อมจะดึงดูดนักลงทุนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และขยายโอกาสทางการตลาด ตลอดจนสร้างเครือข่ายทางการค้า เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตสอดรับกับเศรษฐกิจโลกที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว