posttoday

ตีกลับแผนฟื้นฟูฯบินไทย ขีดเส้นเสร็จใน 30 วัน เล็งหั่นเงินเดือน-โอที

10 ตุลาคม 2562

'ถาวร' สั่งการบินไทยทบทวนแผนฟื้นฟูใหม่ภายใน 30 วัน การบินไทยสั่งลดเงินเดือน-โอทีฝ่าวิกฤติขาดทุน เผยเลื่อนซื้อเครื่องบินใหม่เหตุฐานะทางการเงินแย่ ด้านไทยสมายล์เตรียมลดเที่ยวบินแก้ขาดทุน

'ถาวร' สั่งการบินไทยทบทวนแผนฟื้นฟูใหม่ภายใน 30 วัน การบินไทยสั่งลดเงินเดือน-โอทีฝ่าวิกฤติขาดทุน เผยเลื่อนซื้อเครื่องบินใหม่เหตุฐานะทางการเงินแย่ ด้านไทยสมายล์เตรียมลดเที่ยวบินแก้ขาดทุน

นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลัง มอบนโยบายให้กับบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า  ได้สั่งการให้การบินไทยกลับไปรื้อแผนฟื้นฟูกิจการ ภายหลังจากที่คณะกรรมการ(บอร์ด)การบินไทยได้ตัดสินใจเลื่อนแผนจัดซื้อเครื่องบินออกไปอีก 6 เดือน เนื่องจากปัญหาการแข่งขันตลาด และภาวะขาดทุนสะสมต่อเนื่อง รวมถึงการเสียเปรียบคู่แข่งหลังเปิดเสรีน่านฟ้า ดังนั้นได้มอบการบ้านให้การบินไทยจัดทำแผนฟื้นฟูบริษัทและแผนบริหารธุรกิจฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน

ส่วนแผนฟื้นฟูองค์กรและแผนบริหารธุรกิจใหม่ที่บริษัทการบินไทยจะต้องจัดทำนั้น ต้องมีเป้าหมายชัดเจนเพื่อลดการขาดทุนเพิ่มกำไร เพิ่มยอดขายสร้างความพึงพอใจ รวมถึงการปรับเส้นทางการบินให้เหมาะสมอีกด้วย ขณะที่แผนจัดซื้อเครื่องบินใหม่นั้นได้สั่งการให้รายงานความคืบหน้าให้ตนทราบทุกเดือนรวมถึงรายงานความก้าวหน้า เรื่องการลงทุนของบริษัทในศูนย์ซ่อมบำรุง (MRO) ที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภาทุก 15 วัน

“ตั้งแต่ปี 2503 ถึงวันนี้ 59 ปีแล้ว ทำกำไรมาตลอด ต่อมาขาดทุนแค่ 2 หมื่นล้าน ดูตัวเลขไม่มีปัญหาแก้ไขได้ แต่ต้องจริงจังเพราะความภาคภูมิใจในการเป็นสายการบินแห่งชาติที่ได้รับรางวัลมาอย่างต่อเนื่องเราแพ้ใครไม่ได้แม้แต่ตัวเองก็ต้องสู้ ดังนั้นเมื่อบอร์ดซึ่งรับผิดชอบในฐานะกำกับดูแลได้ให้การบ้านไปผมในฐานะเป็นผู้กำกับดูแลต้องรับผิดชอบต่อประชาชน ต้องรับผิดชอบต่อสภา ในวันนี้ได้กลับมาเพื่อจับเข่าคุยกันของการทำให้การบินไทยฟื้นมาเป็นบริษัทที่ทำกำไร”นายถาวร กล่าว

ด้านนายเอกนิติ  นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด กล่าวว่า รมช.คมนาคม ได้กำชับให้การบินไทยพิจารณาแผนจัดหาเครื่องบิน 38 ลำอย่างรอบคอบ พร้อมตั้งคำถามของการวางแผนจัดใช้เครื่องบิน สถานะทางการเงิน และแผนต่อสู้การแข่งขันในอุตสาหกรรม เพื่อประกอบในแผนจัดหาฝูงบินดังกล่าว อย่างไรก็ตามสำหรับสมมติฐานที่บอร์ดเล็งเห็นว่ามีผลกระทบต่อการทบทวนแผนจัดหาฝูงบิน มีประเด็นหลัก เช่น ปัจจัยฐานะทางการเงินที่ต้องทบทวน ปัญหาการแข่งขันในอุตสาหกรรมการบิน ปัญหาเศรษฐกิจที่กระทบการท่องเที่ยว และเส้นทางบินเดิมที่ไม่ได้รับความนิยมแล้ว ดังนั้นจึงต้องทบทวนให้รอบคอบ เพราะการซื้อเครื่องบินถือเป็นการลงทุน เพื่อดำเนินธุรกิจในระยะยาว

ขณะที่นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เนื่องจากสถานะทางการแข่งขันที่รุนแรง และที่ผ่านมาประสบปัญหาการขาดทุนปีนี้ถือเป็นปีที่ยากลำบากของการบินไทย ดังนั้นจึงได้เร่งทำแผนระยะสั้นเพราะเหลือเวลาไม่ถึง 3 เดือนเพื่อฟื้นฟูให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เริ่มจากเรื่องรายได้เริ่มจากการขายตั๋วให้ได้มากที่สุด ซึ่งระหว่างนี้เป็นจุดเริ่มต้นของฤดูกาลท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้น

ดังนั้นฝ่ายการตลาดจะไปดูเรื่องการทำการตลาดที่ตัวบุคคลและใช้เครื่องมือ Data Marketing ในการเข้ามาช่วย เพื่อทำให้บรรลุการขายตั๋วให้ได้ ส่วนการจัดหาเครื่องบินจะต้องวิเคราะห์ตลาดและพิจารณาเงินทุนอย่างละเอียด โดยจะศึกษาปรับโครงสร้างของธุรกิจ จากปัจจุบันบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) เกิน 8 เท่า จะต้องปรับลดหนี้และลดสินทรัพย์

รวมถึงพิจารณาถึงการเพิ่มทุน ซึ่งมีทุนจดทะเบียนไม่มาก ทั้งหมดจะอยู่ในแผนฟื้นฟูองค์กรรวมถึงการเพิ่มช่องทางจำหน่ายตั๋วผ่านอินเตอร์เน็ต มากขึ้น จากเดิมพึ่งพิงช่องทางเอเย่นต์เป็นหลัก โดยบริษัทจะไม่ลดความสำคัญเอเย่นต์ลง เพื่อไม่ให้การขายเอนเอียงไปทางใดทางหนึ่ง

“เรื่องการควบคุมค่าใช้จ่าย พบว่า ค่าใช้จ่ายบางตัวที่ยังไม่มีความจำเป็นจะพิจารณาหรือยกเลิกออกไป และจะมีการหารือกับพนักงานปรับลดการทำล่วงเวลา (โอที) ของพนักงานลง 1 วัน เพื่อช่วยในเรื่องของค่าแรงโอที รวมถึงลดการจัดซื้อจัดจ้างลง 10% ส่วนสิ่งที่ได้ทำไปแล้วคือเรื่องของการลดค่าตอบแทนของผู้บริหารในบางส่วนลง ซึ่งเป็นการแสดงเจตนาอย่างชัดเจนว่าเราช่วยอะไรกันได้ก็ช่วยกันทำ ส่วนเรื่องอื่นๆได้มีการพูดคุยกับฝ่ายบริหารว่าขอให้มีการ่วมมือกันอย่างเต็มที่ ยึดมั่นทำตามแผน"นายสุเมธ กล่าว

นอกจากนี้ยังต้องทบทวนเส้นทางการบิน โดยเฉพาะเส้นทางที่ขาดทุนและมีการแข่งขันที่รุนแรง จนทำให้การบินไทยประสบปัญหา และควรทบทวนว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ขณะเดียวกันได้เน้นย้ำเรื่องของการสื่อสารกับพนักงานที่เป็นส่วนสำคัญในการกู้วิกฤติ สื่อสารกับคนภายนอกให้เกิดความเข้าใจกับการเป็นสายการบินแห่งชาติและสถานะทางการเงินของบริษัท รวมถึงการพัฒนาองค์กรให้สอดคล้องกับงานเพื่อให้มีความเหมาะสมเพื่อให้เกิดความสมดุล

ทั้งนี้ในส่วนของความคืบหน้าของศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน(MRO)นั้น ภายในสิ้นปีนี้ทางบริษัท แอร์บัสฯมีแผนที่จะยื่นข้อเสนอให้คณะกรรมการคัดเลือกของอีอีซี ส่วนด้านธุรกิจสนับสนุนทั้งหมดเช่น ครัวการบินไทย ศูนย์ซ่อมฯ Cargoและในอนาคตอย่าง E-Commerce ที่กำลังจะเปิดให้บริการในปีนี้หน้า คาดว่าจะเป็นจุดมุ่งเน้นในการส่งรายได้กลับมาอย่างเหมาะสม รวมถึงการวิเคราะห์การตลาด วิเคราะห์เส้นทางเพื่อจัดฝูงบินที่จะต้องมีการดำเนินการให้เสร็จตามกรอบไม่เกิน 6 เดือน และเน้นด้านการทำธุรกิจการขายตั๋วโดยสารผ่านอินเตอร์เน็ตให้ความสำคัญมากขึ้นโดยไม่ได้เป็นการลดความสำคัญของการขายผ่านเอเจนซี่เพื่อให้มั่นใจว่าการขายผ่านทั้ง 2 ช่องทางมีการใช้อย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทางด้านการตลาดในอนาคต

ด้านสายการบินไทยสมายล์ นั้น เนื่องจากกำลังจะเข้าสู่ตารางบินฤดูหนาวจะส่งผลทำให้ไทยสมายล์ ปรับลดเที่ยวบินและชั่วโมงการบินเป็น 10.5 ชั่วโมงที่เป็นจุดให้ไทยสมายล์สามารถลดการขาดทุนลงและก็เชื่อว่าในปีหน้าหากสามารถทำการบินเฉลี่ยทั้งปีได้ 10.5 ชั่วโมงจะส่งผลให้ไทยสมายล์ไม่ขาดทุนซึ่งเป็นเป้าหมายที่ได้วางไว้