posttoday

กฟภ.หนุนโรงไฟฟ้าชุมชนเคาะราคาค่าไฟคงที่เกษตรกรได้ประโยชน์

08 ตุลาคม 2562

กฟภ. แนะโรงไฟฟ้าชุมชนมุ่งรับซื้อไฟแบบคงที่ สร้างรายได้เกษตรกร 1 แสนบาทต่อครัวเรือน เดินหน้าปรับองค์กรสู่ดิจิทัล โชว์นวัตกรรมในงาน Thailand Lighting Fair 2019

กฟภ.ย้ำโรงไฟฟ้าชุมชนมุ่งรับซื้อไฟแบบคงที่ สร้างรายได้เกษตรกร 1 แสนบาทต่อครัวเรือน เดินหน้าปรับองค์กรสู่ดิจิทัล โชว์นวัตกรรมในงาน Thailand Lighting Fair 2019

นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)หรือ PEA เปิดเผยว่า กฟภ.ได้นำเสนอผลการศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนต่อนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.)พร้อมเสนอความเห็นว่าต้องคิดราคาการรับซื้อไฟแบบคงที่ จะส่งผลดีต่อเกษตรกรที่ป้อนวัตถุดิบเข้าสู่โรงไฟฟ้า ทำให้ได้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งจากการศึกษาหากปลูกพืชพลังงานให้กับโรงไฟฟ้าประมาณ 10 ไร่ จะมีรายได้ 1 แสนบาทต่อครัวเรือน

"หลายคนเป็นห่วงว่าการคิดราคารับซื้อไฟแบบคงที่จะทำให้ต้นทุนค่าไฟ หรือค่าเอฟทีเพิ่มขึ้น ซึ่งจากการศึกษาถ้ารับซื้อไฟที่ประมาณ 6 บาท จะมีผลต่อค่าไฟปีละ 2 สตางค์(สต.)เท่านั้น แต่หากใช้รูปแบบการประมูล จะแข่งขันด้านราคา ทำให้เกษตรกรมีรายได้น้อย นอกจากนี้โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนยังสร้างประโยชน์ในหลายมิติ โดยเฉพาะตอบโจทย์เรื่องการลดพื้นที่เพาะปลูกสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ซึ่งจะทำให้ผลผลิตมีราคาสูงขึ้น" นายสมพงษ์กล่าว

ทั้งนี้กฟภ.คาดว่าหากมีการเปิดให้ใบอนุญาตโรงไฟฟ้าชุมชน จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 800 –1,000 เมกะวัตต์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อระบบสายส่งของกฟภ.ที่มีอยู่ประมาณ 4,000 แห่งได้ทันที

นายสมพงษ์ กล่าวว่า ในช่วง 5 ปีจากนี้ กฟภ.จะมุ่งปรับองค์กรสู่ดิจิทัล เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ที่เกิดขึ้น ทั้งความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นระบบไฟฟ้าที่มารองรับมีความสำคัญมาก รวมทั้งการขยายตัวของอุปกรณ์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ซึ่งสองส่วนนี้ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจของกฟภ.ที่จะต้องมีการพัฒนาโครงข่ายขึ้นมารองรับ โดยเฉพาะระบบสมาร์ท กริด โดยในปี 2563 กฟภ.จะมีการลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้า สายส่งและระบบต่างๆ

นอกจากนี้ จะมีการพัฒนาภายในองค์กรเพื่อก้าวสู่องค์กรดิจิทัล ทั้งสินค้าและบริการใหม่ ๆ ระบบการให้บริการลูกค้า การพัฒนาบุคลากร รวมทั้งแพลตฟอร์มต่างๆ ที่จะเข้าถึงผู้ใช้ไฟฟ้ากว่า 20 ล้านรายทั่วประเทศให้เกิดความสะดวกและรวดเร็ว ยกระดับคุณภาพในการให้บริการประชาชนในภาพรวม

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงศักยภาพระบบไฟฟ้าของประเทศ กฟภ.ได้ร่วมกับเมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต, บริษัท เวิลด์เด็กซ์ จี.อี.ซี. และบริษัท ดิ เอ็กซ์ซิบิส จัดงาน “Thailand Lighting Fair 2019” และงาน “Thailand Building Fair 2019” งานแสดงนวัตกรรมและโซลูชั่นส์ด้านพลังงานไฟฟ้าและอาคารเพื่อพัฒนาเมืองอัจฉริยะอย่างยั่งยืน โดยกฟภ.จะนำเสนอ 2 นวัตกรรมภายในงานนี้ ได้แก่ PEA IHARM เครื่องตรวจจับและควบคุมการใช้พลังงานำฟฟ้าภายที่พักอาศัยและอาคารสำนักงานทั่วไป สามารถใช้ร่วมอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีอยู่เดิมและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่รองรับระบบ IOT

นวัตกรรมที่ 2 คือ PEA Solar Hero เป็นแอพพลิเคชั่น แพลตฟอร์มที่เข้ามารองรับการติดตั้งโซลาร์ รูฟทอป ของประชาชน เพื่อผลิตพลังงานแสดงอาทิตย์ใช้แบบครบวงจรในครัวเรือน งานนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานไม่ต่ำกว่า 15,000 คน โดยงานเทคโนโลยีและโซลูชั่นอัจฉริยะ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 – 31 ตุลาคม 2562 ที่ฮอลล์ 104 – 105ไบเทค บางนา