posttoday

'ศักดิ์สยาม'ลั่น !! ดีลไฮสปีด 3 สนามบินยึดตาม RFP หากซีพีไม่ลงนามขู่ขึ้นแบล็คลิสต์

07 ตุลาคม 2562

รมว.คมนาคมไม่สน หลังเจ้าสัวซีพีเปิดหน้าตัดพ้อรัฐบาลโยนภาระให้เอกชนปมไฮสปีด 3 สนามบิน ย้ำหากไม่ลงนามตามกำหนดจ่อขึ้นแบล็คลิสต์ เปิดทาง ชิโนทัย(STEC)ฮุบเค้กงานก่อสร้างนับแสนล้านบาท

รมว.คมนาคมไม่สน หลังเจ้าสัวซีพีเปิดหน้าตัดพ้อรัฐบาลโยนภาระให้เอกชนปมไฮสปีด 3 สนามบิน ย้ำหากไม่ลงนามตามกำหนดจ่อขึ้นแบล็คลิสต์ เปิดทาง ชิโนทัย(STEC) ฮุบเค้กงานก่อสร้างนับแสนล้านบาท

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ภาครัฐต้องทำตามกรอบเอกสารที่ใช้ประกอบการซื้อเอกสารการคัดเลือกเอกชน หรือ RFP ซึ่งกฏหมายระบุให้เอกชนต้องรับความเสี่ยงทั้งหมดของโครงการ รวมถึงค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆตามที่ระบุในสัญญาด้วย ซึ่งถือว่าเป็นกรอบที่ต้องเจรจาตกลงกันตามนี้ จะไม่มีการเพิ่มเงื่อนไขพิเศษใดอีก ปัจจุบันภาครัฐรับภาระเรื่องวงเงินค่าก่อสร้างบางส่วน

รวมถึงเรื่องการเวนคืนที่ดินไปแล้ว โดยจะมีพื้นที่พร้อมส่งมอบทันที 72% ในวันที่ลงนามสัญญา ดังนั้นเมื่อเอกชนเข้ายื่นประมูลโครงการก็ต้องอ่านเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาอย่างครบถ้วนและดำเนินการเป็นไปตามนั้น อย่างไรก็ตามทางกลุ่มพันธมิตรซีพี หรือ CPH ได้รับมอบร่างสัญญาไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ขณะนี้ยังไม่มีข้อท้วงติงใดๆจากเอกชนส่งกลับมายังกระทรวงคมนาคม

"การลงนามสัญญาจะต้องเป็นไปตามเป้า 15 ต.ค. นี้ หากเลยเส้นตายดังกล่าว กระทรวงคมนาคมจะริบเงินประกันคืนกลับมาพร้อมกับพิจารณาให้เอกชนชดใช้ความเสียหาย และติดแบล็คลิสต์ให้เป็นผู้ทิ้งงานรัฐบาลส่งผลให้ถูกตัดสิทธิ์ประมูลโครงการก่อสร้างของภาครัฐ" นายศักดิ์สยามกล่าว

รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ออกมาระบุว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน 2.2 แสนล้านบาท นั้น เป็นการร่วมทุนระหว่างเอกชนและรัฐบาล แต่กลับมีการผลักภาระให้เอกชนต้องเป็นผู้แบกรับภาระทุกอย่างอยู่ฝ่ายเดียวซึ่งระบุไว้ใน TOR จริงๆแล้วต้องแบ่งความเสี่ยงร่วมกัน เหมือนเป็นคู่ชีวิตกัน ถ้าล่มก็ล่มด้วยกัน ถ้าสำเร็จก็สำเร็จด้วยกัน ซึ่งโครงการดังกล่าวนั้นส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน เพราะทุกวันนี้ต่างชาติย้ายฐานไปเวียดนาม และอินโดนีเซียเรื่อยๆ ถ้ารัฐบาลยังมองไม่เห็น ทุกบริษัทก็จะย้ายฐานไปที่อื่น

ทั้งนี้หากกลุ่มซีพีไม่ลงนามตามที่กำหนดไว้ จะติดแบล็คลิสต์ ไม่สามารถรับงานภาครัฐได้อีกต่อไป ซึ่งในกลุ่มพันธมิตรซีพีหรือ CPH ประกอบด้วย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด, บริษัท ช.การช่างจำกัด (มหาชน) หรือ CK, บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัท China Railway Construction Corporation Limited และบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ดังนั้นถือเป็นการตัดตอนเอกชนด้านก่อสร้างรายใหญ่ คือ ITD และ CK ส่งผลให้บริษัทก่อสร้างรายใหญ่ด้านก่อสร้างที่สามารถรับงานภาครัฐได้เหลือเพียง บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ

อย่่างไรก็ตามกระทรวงคมนาคมเตรียมเปิดประมูลโครงการลงทุนมากกว่า 5 แสนล้านบาทในช่วงปี 2562-2563 อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม รถไฟฟ้าสายสีม่วง รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน โครงการรถไฟทางคู่ ไปจนถึงโครงการมอเตอร์เวย์และก่อสร้างถนนทั่วประเทศ