posttoday

คมนาคมทุบโต๊ะ15 ต.ค. CPH ต้องลงนามไฮสปีด 3 สนามบิน

23 กันยายน 2562

'ศักดิ์สยาม' ขีดเส้น CPH เร่งลงนามสัญญาโครงการรถไฟไฮสปีด 3สนามบิน ขู่ช้ากว่าแผน พ่วงติดแบล็คลิสต์เบี้ยวงานรัฐบาล หากยังไม่มาเจรจาภายในกำหนด จ่อเรียกบีทีเอสเสียบแทน

'ศักดิ์สยาม' ขีดเส้น CPH เร่งลงนามสัญญาโครงการรถไฟไฮสปีด 3สนามบิน ขู่ช้ากว่าแผน พ่วงติดแบล็คลิสต์เบี้ยวงานรัฐบาล หากยังไม่มาเจรจาภายในกำหนด จ่อเรียกบีทีเอสเสียบแทน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมหาข้อสรุปในการดำเนินโครงการระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง–สุวรรณภูมิ–อู่ตะเภา) มูลค่า 2.2 แสนล้านบาท ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี (กำกับดูแลกระทรวงคมนาคม) เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมมีมติมอบหมายให้คณะกรรมการคัดเลือกโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบิน ที่มีนายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการ รฟท. เป็นประธาน จัดการประชุมวันที่ 27 ก.ย. 2562 ก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (บอร์ด อีอีซี) พิจารณาที่จะมีการประชุมในวันที่ 30 ก.ย.นี้ พร้อมทำหนังสือแจ้งให้กิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (กลุ่ม CPH)หรือผู้ยื่นข้อเสนอมาลงนามสัญญาในวันที่ 15 ตุลาคม 2562

ทั้งนี้ ถ้า CPH มาลงนามสัญญาในวันที่ 15 ต.ค.นี้ ให้ดำเนินการตามสัญญาการก่อสร้างกรอบระยะเวลา 5 ปี ในส่วนที่ติดปัญหาเรื่องของการส่งมอบพื้นที่นั้น สามารถแจ้งคู่สัญญา เพื่อขอขยายระเวลาออกไปได้

ขณะเดียวกันกรณีที่ CPH ไม่มาลงนามสัญญาตามวันที่กำหนดไว้ จะถูกริบหลักประกันซองมูลค่า 2,000 ล้านบาทตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยจะพิจารณาเป็นผู้ทิ้งงานตามระเบียบของทางราชการ พร้อมทั้งขึ้นบัญชีดำ เนื่องจากโครงการดังกล่าว ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ มีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ของประเทศ จากนั้นคณะกรรมการคัดเลือกฯ จะเชิญผู้ยื่นข้อเสนอรายที่ 2 คือกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ที่มีบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส มาเจรจาต่อไป หากมีการเจรจากับรายที่ 2 แล้วสามารถตกลง พร้อมลงนามสัญญาได้นั้น CPH จะต้องชดเชยราคาส่วนต่างที่เพิ่มขึ้น จากราคาของ CPH และ บีทีเอสที่เสนอราคาต่างกัน

“ในที่ประชุมดังกล่าวนั้น คณะกรรมการคัดเลือกฯ ยืนยันว่า ได้ดำเนินการตามข้อเสนอการร่วมลงทุน ทั้งหมดอย่างครบถ้วนสมบูรณ์และพร้อมที่จะลงนามในสัญญา เพราะฉะนั้นถ้าทำตาม ข้อเสนอที่กำหนดไว้ ควรจะลงนามได้แล้ว เพราะมีเงื่อนเวลาการยืนยันราคาของทั้ง 2 ราย จะครบกำหนดในวันที่ 7 พ.ย. 2562 ถ้าไม่ทำตามกรอบเวลาก่อน 7 พ.ย.นี้ รัฐจะต้องรับผิดชอบความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพราะเป็นเรื่องของคนทั้งประเทศ ทั้งนี้ ไม่ต้องกังวลว่ารัฐมาเอาเปรียบหรือกลั่นแกล้งเอกชน ในส่วนที่เอกชนขอเวลาเพิ่ม 3 สัปดาห์นั้น ได้รับรายงานมาว่า ติดเรื่องของการส่งมอบพื้นที่ และการหาแหล่งเงินกู้” นายศักดิ์สยาม กล่าว

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า การดำเนินโครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบินนั้น ถือเป็นโครงการลงทุนที่สำคัญในพื้นที่อีอีซี ซึ่งกระทรวงคมนาคมและรัฐบาลจะดูและให้การดำเนินการประเทศต้องได้ประโยชน์สูงสุดจากการพัฒนาโครงการดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าโครงการดังกล่าว จะไม่มีเรื่องของค่าโง่อย่างแน่นอน

สำหรับประเด็นเรื่องการเวนคืนที่ดิน จะต้องออกหนังสือเริ่มต้นทำงาน(Notice To Proceed:NTP)ของโครงการให้เอกชนหลังจากการลงนาม 1 ปี ซึ่งตามรายละเอียดในเอกสารได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า หากติดปัญหาการส่งมอบพื้นที่บริเวณใด สามารถยื่นเสนอขอขยายกรอบระยะเวลาออกไปได้

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ในการประชุมดังกล่าวในวันนี้ที่ทำเนียบรัฐบาลนั้น ประกอบด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายวรวุฒิ มาลา รักษาการ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.), นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี), นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) และนายชยธรรม์ พรหมศร รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)