TDRI ต้านปลดล็อคขับเร็ว 120 กม./ชม. หวั่นอุบัติเหตุพุ่ง แนะนำร่องเส้นทางมอเตอร์เวย์ก่อน

นักวิชาการ สุดห่วงนโยบายแก้กฎกระทรวงคมนาคม จำกัดความเร็วถนน4เลน เสี่ยงอุบัติเหตุพุ่ง จากปัจจัยข้อจำกัดของถนน-พฤติกรรมคนไทยขับขี่ยอดแย่

ดร.สุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัยด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ (TDRI) เปิดเผยว่า ไม่เห็นด้วยกับนโยบายแก้กฎกระทรวงคมนาคมเพื่อขยายอัตราจำกัดความเร็วบนถนน 4 ช่องจราจรทั่วประเทศ เป็นห้ามเกิน 120 กม./ชม. ของกระทรวงคมนาคมเพราะมีโอกาสเสี่ยงที่อุบัติเหตุทางถนนจะเพิ่มขึ้น

โดยมีสาเหตุสำคัญ 2 ด้าน 1.ข้อจำกัดของถนนเมืองไทย 2.พฤติกรรมการขับขี่ของคนไทย เริ่มจากข้อจำกัดทางถนน 4 ช่องจราจรในเมืองไทยนั้นมีจุดกลับรถและจุดตัดทางถนนอยู่มาก โดยเฉพาะเส้นสายหลักที่กระจายรอบเมืองหลวงที่ต้องการแก้ปัญหาจราจร ซึ่งหากบังคับใช้มาตรการดังกล่าวจะทำให้รถทำความเร็วสูงมากจนเสี่ยงต่อการเฉี่ยวชนเป็นอุบัติเหตุที่รุนแรงสูญเสียมากแม้จะเพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัยทางถนน

ดร.สุเมธกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องพฤติกรรมการขับขี่ของคนไทยนั้นค่อนข้างแย่ ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมขับรถเร็วมากกว่า 100 กม./ชม. อยู่แล้วและส่วนใหญ่ไม่ขับขี่ตามที่กฎหมายกำหนดรวมถึงเรื่องมารยาทการขับขี่ที่ควรจะเป็น ต้องหาแนวทางปรับพฤติกรรมผู้ขับขี่ด้วย

ดังนั้นนโยบายดังกล่าวควรจะนำไปบังคับใช้กับเส้นทางมอเตอร์เวย์ก่อน ซึ่งปัจจุบันบังคับใช้กฎหมายห้ามขับเกิน 120 กม./ชม.อยู่แล้ว จึงสามารถเริ่มนโยบายนี้ได้เลย โดยกำหนดให้ 2 ช่องจราจรด้านซ้ายใช้ความเร็ว 40-80 กม./ชม. และอีก 2 ช่องด้านขวาความเร็ว 80-120 กม./ชม. ควบคู่ไปกับการเข้มงวดเรื่องบังคับใช้กฎหมายกล้องจับความเร็ว เพื่อจะได้รับรู้เสียงตอบรับของผู้ขับขี่และปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น นำไปเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจนำนโยบายนี้ไปใช้ทั่วประเทศต่อไป

ส่วนถนนปกตินั้นมีศักยภาพจะนำมาตรการดังกล่าวไปใช้ได้นั้น ต้องเป็นถนนที่ไม่มีจุดตัด ไม่มีจุดกลับรถ ใช้จุดกลับรถเป็นสะพานเกือกม้าและมีทางคู่ขนานแบบมอเตอร์เวย์ เป็นต้น ซึ่งเส้นทางที่เหมาะสมคือทางหลวงพหลโยธิน ช่วงรังสิต-นวนคร ทั้งนี้จำนวนผู้เสียชีวิตอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย ในปี 2561 เสียชีวิต 22,491 คน ติดอันดับท็อปเท็นของโลก

ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในวันศุกร์ที่ 16 ส.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการแปรนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงคมนาคมไปสู่การปฏิบัติ โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าว มีตนเป็นประธาน และในส่วนของคณะทำงาน ที่ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงคมนาคม ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะมีการพิจารณานโยบายการอนุญาตให้รถขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกให้มาวิ่งบนถนนทางหลวงในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ในช่วงเวลา 00.00-04.00 น.

ขณะเดียวกัน จะมีการพิจารณานโยบายในเรื่องของการขยายอัตราจำกัดความเร็วบนถนน 4 ช่องจราจร ที่สามารถใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 120 กม./ชม. โดยในส่วนของ 2 ช่องจราจรด้านขวาสุดจะกำหนดความเร็วในการขับขี่ห้ามต่ำกว่า 80-120 กม. เท่านั้น

ทั้งนี้ เรื่องของความเร็วนั้น จะต้องมาบูรณาการข้อมูลร่วมกัน รวมถึงข้อเสนอให้ทดลองใช้นโยบายความเร็ว 120 กม./ชม. กับทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์)ก่อน เนื่องจากนโยบายดังกล่าว เกี่ยวข้องกับกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย และกฎหมายจราจร

โดยยืนยันว่า ความเร็ว 120 กม./ชม.นั้น ไม่ได้ดำเนินการทั้งเส้นทาง ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบ ทั้งกรมทางหลวง(ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.)จะต้องไปพิจารณาความเหมาะสม ก่อนที่จะสรุปและเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก หรือ คจร. ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป