posttoday

ลุ้น'อาร์เซ็ป' โค้งสุดท้าย ไทยได้ประโยชน์ส่งออกสินค้าเกษตร

13 สิงหาคม 2562

'พาณิชย์' ชี้อาร์เซ็ป ต้องจบในปีนี้ มั่นใจสร้างโอกาสไทย ส่งออกสินค้าน้ำตาล อาหารแปรรูป มันสำปะหลัง กุ้ง และข้าว รวมทั้งการบริการ และการลงทุนให้มากขึ้น

'พาณิชย์' ชี้อาร์เซ็ป ต้องจบในปีนี้ มั่นใจสร้างโอกาส ไทยส่งออกสินค้าน้ำตาล อาหารแปรรูป มันสำปะหลัง กุ้ง และข้าว รวมทั้งการบริการ และการลงทุนให้มากขึ้น

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยภายหลังจากที่ นายจุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทยเป็นประธานการประชุมรัฐมนตรี อาร์เซ็ป สมัยพิเศษ ครั้งที่ 8 เมื่อวันที่ 2-3 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ว่ารัฐมนตรี อาร์เซ็ปทั้ง 16 ประเทศ ยืนยันความตั้งใจของผู้นำอาร์เซ็ปที่จะสรุปผลการเจรจาทั้งหมดให้ได้ในปีนี้ เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์จากความตกลงอาร์เซ็ปให้ได้เร็วที่สุด

ไทยมองเห็นความสำคัญของความตกลงอาร์เซ็ปในการเปิดโอกาสสู่ตลาดที่มีประชากรรวมกันมากถึง 3,500 ล้าน คิดเป็นประมาณร้อยละ 48 ของประชากรโลก โดยความตกลงอาร์เซ็ปจะช่วยเพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้า บริการ และการลงทุนของไทย และผู้ประกอบการไทยสามารถสรรหาแหล่งวัตถุดิบที่หลากหลายทั้งเชิงคุณภาพและราคามากขึ้น ซึ่งจากเดิมที่สรรหาวัตถุดิบเพียง 10 ประเทศในอาเซียน ขยายเป็น 16 ประเทศ ทำให้ไทยเข้าไปอยู่ในเครือข่ายภาคการผลิต และการกระจายสินค้าของภูมิภาค

นอกจากนี้ความตกลงอาร์เซ็ปจะช่วยลดความซ้ำซ้อนเรื่องกฎถิ่นกำเนิดสินค้า ประสานกฎระเบียบและมาตรการทางการค้า ส่งผลให้กฎเกณฑ์การค้าของประเทศสมาชิกอาร์เซ็ปมีมาตรฐาน และสอดคล้องกันมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การขยายตัวทางการค้าและการลงทุนของไทยตลอดจนภูมิภาคด้วย

สำหรับด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช อาร์เซ็ปจะช่วยให้อาเซียนรวมถึงไทยเป็นศูนย์กลางของตลาดการค้าสินค้าเกษตร และเป็นโอกาสของไทยที่สามารถส่งออกสินค้าเกษตรไปยังประเทศสมาชิกอาร์เซ็ปได้มากขึ้น รวมทั้งช่วยยกระดับคุณภาพมาตรฐานของสินค้าเกษตรและอาหารของไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าน้ำตาล อาหารแปรรูป มันสำปะหลัง กุ้ง และข้าว ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าเกษตรและอาหารส่งออกที่สำคัญของไทย จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ตลอดจนผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยได้มากขึ้น

นางอรมน กล่าวเสริมว่า ในช่วงที่ผ่านมา กรมฯ ได้เตรียมความพร้อมรองรับการบังคับใช้ความตกลงอาร์เซ็ปด้วยการจัดประชุมหารือกับทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อสร้างความมีส่วนร่วมและให้ข้อมูลความคืบหน้าการเจรจา ตลอดจนสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ สื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อออนไลน์ ซึ่งหากการเจรจาสามารถปิดรอบได้ กรมฯ มีแผนจะสรุปผลความตกลงอาร์เซ็ปเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบ รวมทั้งจัดสัมมนาและลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ผลการเจรจาให้ผู้เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้ ความตกลงอาร์เซ็ปถือเป็นความตกลงการค้าเสรีฉบับล่าสุดที่มีความทันสมัย ครอบคลุมมิติทางการค้ายุคใหม่ที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยให้การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเข้มแข็ง และสร้างสภาวะแวดล้อมทางการค้าและการลงทุนที่เอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาของภูมิภาค หากความตกลงอาร์เซ็ปมีผลบังคับใช้ จะกลายเป็นความตกลงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยในปี 2561 ประเทศกลุ่มอาร์เซ็ป 16 ประเทศ มีมูลค่า GDP รวมกว่า 27.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณร้อยละ 32.3 ของ GDP โลก และมีมูลค่าการค้ารวมกว่า 11.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 30.9 ของมูลค่าการค้าโลก