สาธารณสุขยกเครื่องใหญ่ร.พ.รัฐทั่วประเทศ

รมว.สาธารณสุขยกระดับสถานีอนามัย 9,000 แห่ง ทั่วประเทศ ให้เป็นโรงพยาบาล พร้อมลงนามให้ใช้สารสกัดจากกัญชารักษาโรคได้สัปดาห์นี้

นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวในงาน BANGKOK POST FORUM 2019 หัวข้อ ROADMAP TO SUCCESS : UP CLOSE WITH THAILAND'S NEW MINISTERS ว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ได้ทำงานคืบหน้าไปมาก งานของกระทรวงสาธารณสุขเป็นเรื่องพื้นฐานของคนในชาติ ที่ต้องมีร่างกายสุขภาพดี จะได้ทำงานและใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ

ภารกิจสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข คือการดูแลบริการโรงพยาบาลของรัฐ ที่มีคนเข้ามารับบริการจำนวนมากให้ได้รับความสะดวกสะบายมากที่สุด ประเทศไทยมีประชากร 70 ล้านคน มีคนป่วยจำนวนมาก ทำให้การรักษาในโรงพยาบาลรัฐเกิดความแออัด แพทย์และบุคลากรด้านสาธารณสุขมีไม่เพียงพอ

ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้ยกระดับสถานีอนามัย 9,000 แห่ง ทั่วประเทศ ให้เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ซึ่งต้องมีแพทย์ประจำ ทำให้ต้องเร่งผลิตแพทย์และบุคลากรด้านสาธารณสุขเพิ่มมากขึ้น โดยภายในปีงบประมาณ 2564 จะมีการบรรจุแพทย์ บุคลากรสาธารณสุข ให้พอกับความต้องการที่มีอยู่ทุกหน่วยให้มากที่สุด

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังมีแนวคิดให้คนไข้ที่มารักษาโรงพยาบาลรัฐ นำใบสั่งยาจากแพทย์กลับไปรับยากับร้านขายยาที่ลงทะเบียนไว้กับกระทรวงสาธารณสุข 20,000 แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อลดความแออัดของการบริการโรงพยาบาลให้ลดลง

ในส่วนของการบริหารโรงพยาบาลเอกชนมีราคาแพง ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่กำกับดูแลแค่มาตรฐานการรักษาเท่านั้น แต่เรื่องพาณิชย์การคิดค่ารักษาพยาบาล กฎหมายของกระทรวงสาธารณสุขไปไม่ถึง ต้องสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ช่วยเข้ามาดูแลผู้บริโภค

นายอนุทิน กล่าวว่า กล่าวว่า เรื่องกัญชาเสรี ที่พรรคภูมิใจไทยหาเสียงเลือกตั้งไว้ มีวัตถุประสงค์ให้ใช้ทางการแพทย์รักษาโรคเท่านั้น โดยภายในสัปดสห์นี้กระทรวงสาธารณสุขจะลงนามกับโรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศ ให้ใช้สารสกัดจากกัญชารักษาผู้ป่วยได้ เนื่องจากที่ผ่านมามีผลการศึกษาว่าสารสกัดจากกัญชามีผลกับการรักษาโรคให้มีอาการดีขึ้น ถึงแม้ว่าบางกรณีไม่ได้รักษาโรคให้หาย แต่ช่วยบรรเทาอาการป่วยของคนไข้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น