posttoday

เวียตเจ็ท โชว์ผลประกอบการครึ่งแรกปี' 62 สุดหรูหรา

03 สิงหาคม 2562

กวาดรายรับรวมทุกธุรกิจมากกว่า 26.3 ล้านล้านดอง โตจากปีก่อน 24% ชี้ธุรกิจการบินตลาดต่างประเทศโตแรงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินดองเพิ่มขึ้น-จำนวนผู้โดยสารขยายตัว

กวาดรายรับรวมทุกธุรกิจมากกว่า 26.3 ล้านล้านดอง โตจากปีก่อน 24% ชี้ธุรกิจการบินตลาดต่างประเทศโตแรงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินดองเพิ่มขึ้น-จำนวนผู้โดยสารขยายตัว

เวียตเจ็ท รายงานผลประกอบการช่วง 6 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2562 ระบุรายรับจากธุรกิจขนส่งทางอากาศที่ 20,148 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีกำไรก่อนหักภาษีที่ 1,563 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา

โดยรายรับรวมของบริษัทเมื่อนับรวมผลประกอบการธุรกิจจากการขายเครื่องบินแล้วจะมากกว่า 26.3 ล้านล้านดอง ซึ่งเพิ่มขึ้น 24% และมีกำไรก่อนหักภาษีที่ 2.4 ล้านล้านดอง เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา

ขณะที่ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา เวียตเจ็ทให้บริการเที่ยวบินจำนวน 68,821 เที่ยว คิดเป็น 45% ของจำนวนเที่ยวบินทั้งหมดของสายการบินทุกแห่งของเวียดนาม ทำให้เวียตเจ็ทได้บริการผู้โดยสารรวมทุกเส้นทางกว่า 13.5 ล้านคน โดยเวียตเจ็ทยังคงรักษาสถานะผู้นำในธุรกิจการบินภายในประเทศด้วยส่วนแบ่งตลาด 44% ในช่วงครึ่งปีแรก โดยมีสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์รั้งอันดับ 2 ที่ส่วนแบ่ง 34%

เวียตเจ็ท โชว์ผลประกอบการครึ่งแรกปี' 62 สุดหรูหรา

3 ปัจจัยหนุนวียตเจ็ท เติบโต

ทั้งนี้ เวียตเจ็ทยังสามารถสร้างการเติบโตได้ในตลาดการบินต่างประเทศ เนื่องจากบริษัทมีอัตราผลกำไรที่สูงมาจากปัจจัย 1.รายรับของบริการเสริมและต้นทุนค่าเชื้อเพลิงต่ำ 2.การเติบโตในตลาดการบินต่างประเทศยิ่งทำให้เวียตเจ็ทมีอัตราการเติบโตทางธุรกิจสูงขึ้นเนื่องมาจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น 3.จำนวนผู้โดยสารบนเส้นทางระหว่างประเทศของเวียตเจ็ทเพิ่มขึ้น 35% หรือราว 4 ล้านคน

โดยเวียตเจ็ท มีรายรับจากบริการขนส่งระหว่างประเทศมากกว่าภายในประเทศ คิดเป็น 54% ของรายรับบริการขนส่งทางอากาศรวมทั้งหมดของบริษัท ส่วนรายรับจากบริการเสริมและคลังสินค้ามีมูลค่ามากกว่า 5.5 ล้านล้านดอง เพิ่มขึ้นจาก 21% ในปีที่ผ่านมาเป็น 27% ในปีนี้ สืบเนื่องจากการเพิ่มเส้นทางบินระหว่างประเทศของเวียตเจ็ท

ขณะที่ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เวียตเจ็ทเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศใหม่ 9 เส้นทาง สู่ญี่ปุ่น ฮ่องกง อินโดนีเซีย จีน และเส้นทางบินภายในประเทศอีก 3 เส้นทาง ทำให้ในปัจจุบันเวียตเจ็ท มีเส้นทางบินทั่วโลกทั้งหมด 120 เส้นทาง โดยเป็นเส้นทางระหว่างประเทศ 78 เส้นทาง และเส้นทางภายในประเทศ 42 เส้นทาง มีเครือข่ายการบินของเวียตเจ็ทครอบคลุมทั้งเวียดนาม ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย เมียนมาร์ มาเลเซีย กัมพูชา จีน และอื่นๆ รวมทั้งการดำเนินงานในสนามบินอีกหลายแห่งทั่วโลก ซึ่งรวมถึงดูไบและโดฮา

ปัจจุบัน รายรับต่อที่นั่งต่อระยะทาง (RPK) ของเวียตเจ็ทอยู่ที่ 16.3 พันล้าน เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารสูงถึง 88% ความน่าเชื่อถือด้านเทคนิคที่ 99.64% และความตรงเวลาของเที่ยวบิน (On-time Performance : OTP) ที่ 81.5%

นอกจากนี้ในครึ่งปีแรก เวียตเจ็ทยังได้เปิดตัวแอปพลิเคชั่น Vietjet Air เวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งรวมถึงบริการซื้อบัตรโดยสารระบบออนไลน์ที่รวดเร็วผ่านสมาร์ทโฟน และโปรโมชั่นจองบัตรโดยสารราคา 0 บาททุกวันศุกร์และฟรีค่าธรรมเนียม ฯลฯ

หุ้นขยายตัว 32%

ขณะที่หุ้นของเวียตเจ็ทมีมูลค่า 15,622 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนทรัพย์สินรวมมีมูลค่าราว 44.5 ล้านล้านดอง เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยในจำนวนนี้เป็นทรัพย์สินระยะยาวถึง 21.9 ล้านล้านดอง คิดเป็น 49% ของทรัพย์สินทั้งหมด

โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น (Debt to Equity Ratio) อยู่ที่ 0.50 ซึ่งถือว่าดีขึ้นจากอัตรา 0.64 ของปีที่ผ่านมา การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ลงมติให้จ่ายปันผลของปี พ.ศ. 2561 ที่อัตรา 55% ซึ่งสูงกว่าที่กำหนดไว้ที่ 50% ในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีซึ่งจัดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว

ทั้งนี้ จากผลประกอบการเชิงบวก การขยายเครือข่ายการบินทั้งในระดับภูมิภาคและทั่วโลก ร่วมกับความสามารถในการบริหารต้นทุนและคุณภาพการดำเนินงาน ทำให้เวียตเจ็ทคาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างการเติบโตเชิงบวกได้ในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้า ทั้งในด้านการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการขนส่งภายในประเทศและการขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่คณะกรรมการบริหารของบริษัทได้รายงานในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี พร้อมหาโอกาสการลงทุนเพิ่มเติม เพื่อการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน อาคารขนส่งผู้โดยสาร ปรับปรุงบริการด้านเทคนิค บริการภาคพื้นดิน และการฝึกอบรม เพื่อเพิ่มความได้เปรียบและประสิทธิภาพการดำเนินงานของสายการบิน ร่วมกับการขยายธุรกิจในตลาดการบินอย่างต่อเนื่อง