posttoday

‘ศักดิ์สยาม’ ดันนโยบายภูมิใจไทย ปลดล็อค GRAB ถูกกฎหมาย

19 กรกฎาคม 2562

เตรียมเจรจาม็อบแท็กซี่-วินมอเตอร์ไซค์ เยียวยาผู้ขับขี่ เผยไม่หนักใจเคลียร์ค่าโง่รถไฟ-ทางด่วน 3 หมื่นล้านบาท

เตรียมเจรจาม็อบแท็กซี่-วินมอเตอร์ไซค์ เยียวยาผู้ขับขี่ เผยไม่หนักใจเคลียร์ค่าโง่รถไฟ-ทางด่วน 3 หมื่นล้านบาท

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จากพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงนโยบายการผลักดัน GRAB ให้ถูกกฎหมายว่า การผลักดันให้บริการ GRAB ถูกกฎหมายนั้น ต้องร่วมกันหาแนวทางพิจารณาว่าจะเดินหน้าต่อไปได้ในทิศทางไหน เพราะขณะนี้ยังติดเรื่องของกฎหมายอยู่ ส่วนเรื่องแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อเปิดช่องนั้นก็ต้องกลับมาพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม เรื่องของม็อบแท็กซี่และวินจักรยานยนต์ที่ออกมาประท้วงนโยบาย GRAB ถูกกฎหมายนั้น กระทรวงคมนาคมจะเจรากับทุกฝ่ายทั้งผู้ประกอบการและกรมการขนส่งทางบกว่าจะสามารถตกลงกันได้มากน้อยแค่ไหน ยืนยันว่าจะรับฟังข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการว่าต้องการอะไรบ้าง โดยเฉพาะเรื่องของการเยียวยาผู้ขับขี่

ทั้งนี้ตนมองว่าแอพพลิเคชั่นเรียกรถแท็กซี่สาธารณะ Taxi OK ที่กรมการขนส่งทางบกพัฒนามานั้นก็มีศักยภาพในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่มีคุณภาพเพียงพอเมื่อเทียบกับระบบแอพพลิเคชั่นของบริษัทเอกชน

นายศักดิ์สยามกล่าวต่อว่ากรณีโฮปเวลล์ ที่ต้องจ่ายชดเชยตามคำสั่งศาล 2.5 หมื่นล้าน หลักการต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล จะไปทำหน้าที่เกินศาลไม่ได้ซึ่งก็ไม่ได้หนักใจอะไร ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้ดีที่สุดและอธิบายได้

"เรามีรัฐมนตรีช่วยอีกสองคนที่มีความรู้ความสามารถก็ช่วยกันดูทุกคนมีส่วนร่วมกันหมด" นายศักดิ์สยาม กล่าว

สำหรับกรณีสัมปทานค่าชดเชยทางด่วน วงเงิน 4 พันล้านบาทนั้น ขณะนี้ได้ให้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) รวบรวมข้อมูลมารายงานก่อน ต้องดูข้อกฎหมาย ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะพิจารณาข้อมูล และเลือกแนวทางที่ดีที่สุด จะต้องไล่ดูข้อมูลการศึกษาเป็นอย่างไร TOR มีความสอดคล้องกับการผลศึกษาหรือไม่ เพื่อจะได้ไม่เป็นค่าโง่ หลักการจะต้องทำตามกฎหมาย ไล่ดูตั้งแต่ต้น

นายศักดิ์สยามกล่าวอีกว่าได้มอบหมายให้ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)ไปรวบรวมข้อว่าสถานภาพของทุกหน่วยงาน ขององค์กร มีสถานะงานทั้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเป็นอย่างไรบ้าง จะได้อธิบายคนได้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง จะใช้เวลา 1 เดือนในการประเมินผลงาน ว่ามีความก้าวหน้าหรือถอยหลังซึ่งจะเป็นตัวชี้วัด (KPI)เป็นการประเมินผลงานตัวเอง หากงานถอยหลังแสดงว่าแย่ เพราะการทำงานต้องรวดเร็วช้าไม่ได้

ขณะที่ ประเด็นการโยกย้ายปรับเปลี่ยนบุคคลนั้น เป็นเรื่องที่จะพิจารณาภายหลัง เพราะทราบมาว่าขณะนี้มีข้าราชการที่จะเกษียณอายุอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตามภายหลังประชุมหัวหน้าหน่วยในสังกัดกระทรวงคมนาคมว่า แต่ละหน่วยได้มารายงานความคืบหน้าสถานะของแต่ละโครงการที่รับผิดชอบ โดยใช้เวลาหน่วยงานละ 15 นาที และได้สั่งให้แต่ละหน่วยจัดทำรายละเอียดภายใน 1 เดือน แล้วกลับมารายงานอีกครั้ง

โดยหลักการทำงาน จะต้องพิจารณาตามกฎหมายให้รอบคอบ ในวันที่ 30 ก.ค. นี้ จะเรียกประชุมหัวหน้าหน่วยเพื่อมอบนโยบายอย่างเป็นทางการอีกครั้ง