'สุริยะ' เข้าประจำการกระทรวงอุตสาหกรรมวันแรก เรียกประชุมผู้บริหารทุกหน่วยงาน
ขอเวลา 100 วัน เคลียร์แผนงานชัดพร้อมเข้าพบรองนายกฯเศรษฐกิจ หารือนโยบาย EEC พร้อมเร่งดูแลราคาอ้อย
ขอเวลา 100 วัน เคลียร์แผนงานชัดพร้อมเข้าพบรองนายกฯเศรษฐกิจ หารือนโยบาย EEC พร้อมเร่งดูแลราคาอ้อย
ในวันนี้(19 ก.ค.) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เดินทางมาถึงกระทรวงอุตสาหกรรมในเวลา 8.00 น. เป็นวันแรก ภายหลังเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม อย่งเป็นทางการ โดยเข้าสักการะพระนารายณ์และพระภูมิสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงอุตสาหกรรม
หลังจากนั้นได้เข้าไปไหว้พระพุทธรูปในห้องพระ ชั้น 6 ของตึกสำนักงานปลัดกระทรวงฯ พร้อมเยี่ยมชมห้องทำงาน และกราบสักการะพระพุทธโคดมอุดมโชค องค์จำลอง จากศูนย์ปฏิบัติธรรมเวฬุวัน จังหวัดของแก่น ที่ประดิษฐานอยู่ภายในห้อง ก่อนจะเข้าไปประชุมร่วมกับผู้บริหารหน่วยงานในกระทรวงและผู้ที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในช่วงเวลา 9.30 น
นายสุริยะ กล่าวว่าการกลับมากระทรวงอุตสาหกรรม ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 4 และครั้งนี้จะหนักที่สุดด้วยอยู่ในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำ อย่าง จีน และสิงคโปร์ เศรษฐกิจตกในรอบ 10 ปี จากปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ
ทั้งนี้ หลังจากประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงฯ ได้เห็นยุทธศาสตร์ที่ได้เตรียมรองรับวิกฤติไว้แล้ว ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่เหมาะสม ทั้งการช่วยผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยสิ่งสำคัญคือการทำยุทธศาสตร์ให้เป็นแผนงานที่ปฏิบัติได้จริง
ดังนั้นจึงขอเวลา 100 วัน เพื่อทำแผนงานให้ชัดเจน และจะพบ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ที่จะเข้ามาช่วยดูภาพรวมทั้งหมดให้ และหารือเรื่องของนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพิ่มไปยังจังหวัดอื่นๆ รวมถึงหารือกับทางศุลกากร เกี่ยวกับการคุมเข้มการนำเข้าขยะกากอุตสาหกรรม เนื่องจากเป็นประเด็นที่น่าจับตา
นอกจากนี้ยังเตรียมแนวทางการพัฒนาและช่วยเหลือ SMEs ในภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เป็นประเด็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ โดยจะเข้าหารือกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME Bank ในเร็วๆนี้ เพื่อวางแนวทางร่วมกัน ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการไตรภาคี เป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม
สำหรับมาตรการดูแลสินค้าเกษตรที่เกี่ยวกับกระทรวงอุตสาหกรรม จะผลักดันการแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าส่วนการดูแลราคาอ้อย โดยจะหารือร่วมกับคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อหาแนวทางยกระดับราคาอ้อยตั้งเป้าอยู่ที่ราคาประมาณ 1,000 บาทต่อตัน
ขณะที่การแถลงนโยบายการทำงานต่อรัฐสภามั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงการทำงานได้ทุกประเด็น หากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน อย่างไรก็ตาม การเข้ามาทำงานไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนตามที่พรรคฝ่ายค้านรออภิปรายแน่นอน
พร้อมจะหารือร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อหาแนวทางขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมสู่ยุค 4.0 ให้มีศักยภาพ