'บีอีซี' ประกาศเข้าสู่ยุคใหม่ ขอโฟกัสช่อง 33 - ช่องออนไลน์ ทำช่อง 3 กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

'อริยะ' ส่งสารถึงพนักงาน คืนใบอนุญาตกสทช. เตรียมจอดำช่อง13 และช่อง 28 ในเดือนกันยายนนี้ เตรียมแผนเลิกจ้างพนักงานบางส่วนพร้อมจ่ายชดเชยให้มากกว่ากฎหมาย

หลังจากที่ อริยะ พนมยงค์ เข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการ (President) และกรรมการบริษัท บีอีซี เวิล์ด จำกัด (มหาชน) เจ้าของกลุ่มช่อง 3 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา ภายใต้โจทย์ใหญ่แก้ไขวิกฤตช่อง 3 ทั้งการพลิกขาดทุนเป็นทำกำไร ไปจนถึงด้านเรทติงรายการกลุ่มช่อง3 ที่หล่นวูบอันเกิดจากพฤติกรรมที่หลากหลายของคนดูในปัจจุบันที่มีทางเลือกมากขึ้น และเมื่อผ่านมา 2 เดือนภายใต้การดำเดินการของหัวเรือใหม่ ล่าสุด 'อริยะ' ได้ส่งสารถึงพนักงาน เพื่อชี้แจงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในองค์กร ดังนี้

สารจากกรรมการผู้อำนวยการ
ถึงเพื่อนพนักงาน

ผมขอแจ้งให้เพื่อนพนังานทราบว่า บริษัทฯ ได้จัดส่งเอกสารเพิ่มเติมให้กับทาง กสทช. สำหรับกรณีการขอคืนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ฯ ของช่อง 13 และช่อง 28 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ทางคณะกรรมการ กสทช. จะใช้เวลาในการพิจารณาเพื่อนุมัติให้ยุติการออกอากาศต่อไป โดยทางบีอีซีมีแผนที่จะยุติ การออกอากาศในสิ้นเดือนกันยายน 2562

เป็นที่ทราบกันดีว่าในช่วงเวลานี้ ธุรกิจทีวีไม่ได้เติบโตและรุ่งเรืองเหมือนที่เคย และยังได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมผู้ชมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามเทคโนโลยี (Digital Disruption) ทำให้บีอีซีมีความจำเป็นต้องตัดสินใจคืนใบอนุญาต การคืนใบอนุญาตของทั้ง 2 ช่องเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุด ของคณะกรรมการและผู้บริหาร เพราะการคืนใบอนุญาตตะส่งผลกระทบมากมายต่อผู้เกี่ยวข้องหลายส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบต่อเพื่อนพนักงาน ตามที่ได้ผมได้กล่าวไว้กับเพื่อนพนักงานจากการพบกันที่การประชุม Townhall ที่ผ่านมาว่าเราจะมุ่งการทำงานที่ช่อง 33 เป็นหลักเพื่อทำให้บีอีซีกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง และการคืนใบอนุญาตทั้ง 2 ช่อง จะสามารถทำให้สถานะทางการเงินขององค์กรดีขึ้น

ผมและทีมผู้บริหารได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้ผลกระทบต่อพนักงานมีน้อยที่ที่สุด แต่อย่างไรก็ตามก็ยังคงเกิดผลกระทบจากการที่ต้องเลิกจ้างพนักงานบางส่วนอันเนื่องมาจากการยุติการออกอากาศของช่อง 13 และ ช่อง 28 การเลิกจ้างงานเป็นสิ่งที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย แต่เป็นความจำเป็นหลังจากที่เรามีจำนวนช่องที่น้อยลง โดยได้จัดให้มีค่าชดเชยสำหรับพนักงานในกรณีที่ต้องถูกเลิกจ้างให้มากที่สุดเท่าที่จะจัดสรรได้ และค่าชดเชยที่พนักงานได้รับจะดีกว่าที่กฎหมายแรงงานกำหนดไว้อย่างแน่นอน

สำหรับพนักงานที่ยังคงทำงานต่อไป ผมขอขอบคุณและอยากบอกว่านี่เป็นการเริ่มต้นทำงานในวิถีใหม่ การทำงานในธุรกิจทีวีจะมีความยากมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเราจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อขับเคลื่อนการทำงานให้รวดเร็วมากขึ้น ในการผลิตคอนเทนต์ที่ดีที่สุด โดยใช้ความรู้และความสามารถเพื่อผู้ชมของเราทั้งทางโทรทัศน์ และช่องทางออนไลน์ โดยความสำเร็จของพวกเราจะมาจากพื้นฐานความเข้าใจอย่างแท้จริงต่อความต้องการของผู้ชมในปัจจุบัน

ผมมั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เกินความสามารถของพวกเรา บีอีซียังคงเป็นผู้นำในธุรกิจของ Content Provider และจะยังเป็นต่อไปโดยเรายังมีช่อง 33 และช่องทางออนไลน์ที่จะนำพาบีอีซีให้เติบโต เพื่อนพนักงานคงเคยได้ยินที่ผมได้กล่าวไว้ในสื่อไปก่อนหน้านี้ว่า บีอีซี มีทรัพยากรที่มีค่า คือ "กลุ่มคนทำงาน" ซึ่งได้แก่ นักแสดงที่มีชื่อเสียง ผู้ผลิตคุณภาพ และพนักงานที่มีความสามารถ โดยเฉพาะพนักงานของบีอีซีเป็นกลุ่มคนที่มีความสามารถและประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจ และจะเป็นผู้นำความสำเร็จกลับมาให้กับบีอีซีอีกครั้งหนึ่ง

ผมไม่สามารถทำงานคนเดียวโดยไม่มีการสนับสนุนจากเพื่อนพนักงานได้ ผมจึงอยากให้เพื่อนพนักงานร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ ปรับตัวกับความเปบี่ยนแปลง พวกเราจะไม่หยุดเรียนรู้และพัฒนาแล้วเอาชนะทุกอุปสรรคได้ ขอให้พวกเรามาร่วมกันทำให้เกิดความสำเร็จในครั้งนี้

จากนี้ไปคงมีคนภายนอกถามเพื่อนพนักงานว่าบีซีจะเป็นอย่างไรต่อไป ผมเชื่อว่าคำตอบที่เพื่อนพนักงานจะตอบกับพวกเขาได้คือสิ่งที่ผมกล่าวมา เรามาช่วยสร้างความมั่นใจของพวกเขาที่มีต่อบีอีซีและช่อง3 ให้ดีมากขึ้นกันครับ

สุดท้ายนี้ผมต้องขอบคุณเพื่อนพนักงานทุกคนสำหรับการทำงานหนักที่ผ่านมา และหากเพื่อนพนักงานมีความคิดเห็นที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาบีอีวี ก็สามารถแจ้งมาที่ผมได้ตลอดเวลาครับ

ขอขอบคุณเพื่อนพนักงานทุกท่านอีกครั้ง

อริยะ พนมยงค์
กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. บีอีซีเวิลด์

ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ดำเนินธุรกิจมานานร่วม 50ปี โดยในปี 2560-2561 กิจการมีผลประกอบการรายได้อยู่ที่ประมาณ 11,211 ล้านบาท ปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 1,000 คน